🌋 แรงสะเทือนกลางทะเลอาราฟูรา: แผ่นดินไหวขนาด 6.7 เขย่า "อินโดนีเซีย" อีกระลอก
🇺🇸 6.7 Magnitude Earthquake Shakes Indonesia’s Tanimbar Islands Region
📍เช้าวันจันทร์ที่ 14 ก.ค. 2025 เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.7 แมกนิจูดในบริเวณหมู่เกาะตานิมบาร์ ประเทศอินโดนีเซีย โดยสำนักงานธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) ระบุจุดศูนย์กลางอยู่ลึกเพียง 10 กิโลเมตรใต้พื้นทะเล ห่างจากเมืองตูอัล ประมาณ 179 กิโลเมตร ไม่มีสัญญาณเตือนสึนามิหรือรายงานความเสียหายในเบื้องต้น
🌐 ภูมิภาคเสี่ยงบน "Ring of Fire"
อินโดนีเซียตั้งอยู่บนวงแหวนแห่งไฟ (Pacific Ring of Fire) ซึ่งเป็นจุดบรรจบของแผ่นเปลือกโลกหลายแผ่น ส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟปะทุบ่อยครั้ง ประเทศนี้มีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นกว่า 120 ลูก และประชากรกว่า 270 ล้านคนในรูปแบบเกาะต่างๆ กว่า 17,000 เกาะ ซึ่งทำให้การรับมือภัยพิบัติต้องอาศัยระบบเตือนภัยที่รวดเร็วและแม่นยำ
📅 ย้อนเหตุการณ์: ตานิมบาร์เคยสั่นแรงกว่านี้
ในเดือนมกราคม 2023 พื้นที่เดียวกันเคยประสบแผ่นดินไหวขนาด 7.6 ซึ่งกระตุ้นให้มีการเตือนภัยสึนามินานหลายชั่วโมง ส่งผลให้มีบ้านเรือนเสียหายอย่างน้อย 15 หลัง และโรงเรียน 2 แห่ง แม้ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่ก็สร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวบ้านอย่างมาก
🔎 ผลกระทบที่ไทยต้องจับตา
แม้เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้จะไม่ส่งผลโดยตรงถึงชายฝั่งไทย แต่การเปลี่ยนแปลงของแรงดันเปลือกโลกใต้น้ำในภูมิภาคสามารถกระตุ้นให้เกิด Aftershock หรือการเคลื่อนไหวของรอยเลื่อนที่เชื่อมโยงกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวภูเขาไฟที่มีต่อเนื่องจากอินโดฯ ถึงภาคใต้ของไทย เช่น แนว Sunda–Andaman Subduction Zone
💼 Ripple Effect ต่อเศรษฐกิจไทยและหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
🛫 ✈️ AAV (เอเชีย เอวิเอชั่น – สายการบินต้นทุนต่ำที่ถือหุ้นในไทยแอร์เอเชีย)
การเกิดแผ่นดินไหวในอินโดนีเซียอาจทำให้แผนการบินระหว่างประเทศในอาเซียนสะดุด หากเกิด Aftershock หรือต้องงดเที่ยวบินชั่วคราว นักลงทุนควรจับตาการเปลี่ยนแปลงของ Sentiment การเดินทาง โดยเฉพาะในสายอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-สิงคโปร์ ซึ่งอาจกระทบความเชื่อมั่นระยะสั้น
⚡ 🔋 ACE (แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ – ธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล)
เหตุแผ่นดินไหวบ่อยครั้งในภูมิภาคนี้อาจกระตุ้นให้รัฐหรือหน่วยงานด้านพลังงานของไทย หันมาเร่งศึกษาความปลอดภัยของโรงไฟฟ้าพื้นที่เสี่ยง รวมถึงกระจายแหล่งผลิตไฟฟ้าไปยังพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งจะส่งผลบวกต่อธุรกิจของ ACE ที่เน้นพลังงานหมุนเวียนกระจายตามภูมิภาค
⚙️ 🔌 ACC (แอดวานซ์ คอนเนคชั่น คอร์ปอเรชั่น – ธุรกิจพลังงาน-ก่อสร้าง)
หากประเทศอินโดนีเซียต้องเข้าสู่โหมดฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานหลังแผ่นดินไหว อาจเกิดการเร่งลงทุนในระบบพลังงานและก่อสร้าง ซึ่งส่งผลทางอ้อมต่อบริษัทไทยที่มี Know-How หรือมีพันธมิตรท้องถิ่น และมีความสามารถด้าน EPC (Engineering Procurement Construction)
📦 📡 ADVICE (แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท – จำหน่ายสินค้าไอทีทั่วประเทศ)
ความเสี่ยงจากภัยพิบัติในภูมิภาคอาเซียน ทำให้หน่วยงานรัฐและองค์กรเอกชนอาจตระหนักเรื่องระบบสื่อสารฉุกเฉินมากขึ้น เป็นโอกาสต่อธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ไอที เช่น วิทยุสื่อสาร ระบบเซิร์ฟเวอร์เคลื่อนที่ ฯลฯ ที่ ADVICE อาจเข้าถึงผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายทั่วประเทศ
🧪 ADB (แอ็พพลาย ดีบี – ผลิตเม็ดพลาสติก/กาวสำหรับอุตสาหกรรม)
หากโครงสร้างพื้นฐานในอินโดนีเซียได้รับความเสียหายอย่างกว้างขวาง อาจมีคำสั่งซื้อเร่งด่วนเพื่อซ่อมแซมโรงงานหรือระบบส่งไฟฟ้า ซึ่งต้องใช้พลาสติกคอมปาวด์และกาวอุตสาหกรรม ADB อาจได้รับผลทางอ้อมจากคำสั่งซื้อลักษณะนี้ใน Supply Chain ภูมิภาค
🧠 มิติ ESG และความตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อม
เหตุการณ์นี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการตื่นตัวต่อ “การออกแบบเมืองที่ยืดหยุ่น” (Resilient Urban Planning) ซึ่งเป็นแนวโน้มสำคัญของ ESG โดยเฉพาะในมิติ “S” ด้านความปลอดภัยของชีวิตและสังคม การลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้จึงควรคำนึงถึงศักยภาพการฟื้นตัว และความยั่งยืนในระยะยาว
🛑 มองไกล…รับมือก่อนสาย: เตรียมพร้อมประเทศไทย
แม้ครั้งนี้แผ่นดินไหวจะเกิดห่างจากไทยกว่า 2,000 กม. แต่ความเชื่อมโยงของรอยเลื่อนใต้ทะเลในภูมิภาคนี้มีนัยสำคัญต่ออนาคต เช่นเดียวกับภัยพิบัติใหญ่ครั้งอื่นๆ ที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด
💬 คุณคิดอย่างไรกับความพร้อมของไทยต่อภัยพิบัติในภูมิภาคอาเซียน?
มีหุ้นตัวไหนที่คุณคิดว่าจะได้อานิสงส์จากการเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคนี้?
แสดงความคิดเห็นของคุณไว้ด้านล่างได้เลยนะคะ
📌 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#แผ่นดินไหวอินโดนีเซีย #TanimbarEarthquake #ภัยพิบัติธรรมชาติ #หายนะแห่งโลกา #ภูมิภาคRingOfFire #ผลกระทบเศรษฐกิจASEAN #หุ้นกลุ่มพลังงาน #ภัยธรรมชาติและการลงทุน #CataclysmSeries
🔗 Reference:
News18 – 6.7 Magnitude Earthquake Hits Indonesia's Tanimbar Islands Region
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
