Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
14 ก.ค. เวลา 09:34 • ประวัติศาสตร์
ความฝันในหอแดง 08 ป้าอ๋องทึ่มเข้ากรุง
คุณชายเซวีย 薛公子 เป็นชาวเมืองจินหลิง เป็นเชื้อสายตระกูลบัณฑิต กำพร้าบิดาตั้งแต่ยังเล็ก มารดาม่ายมีลูกชายสืบสกุลอยู่คนเดียว จึงพะเน้าพะนอเอาใจจนเสียคน เติบโตมาไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน อาศัยทางบ้านร่ำรวยนับร้อยหมื่น ด้วยมีหน้าที่จัดซื้อจัดจ้างแทนท้องพระคลัง 采办杂料
คุณชายเซวียมีชื่อว่า เซวียผาน 薛蟠 ชื่อรองเหวินฉี่ 文起 เป็นคนเสเพลสุรุ่ยสุร่าย พูดจายโสโอหัง แม้เคยเข้าเรียน แต่รู้หนังสือไม่กี่ตัว วันทั้งวันเอาแต่ตีไก่แข่งม้า เที่ยวป่าเขา แม้จะได้ชื่อว่าทำการค้าแทนราชสำนัก แต่กลับไม่รู้อะไรสักอย่าง อาศัยผลงานเดิมของบรรพบุรุษ เบิกเงินจากพระคลังออกมาให้คนอื่นจัดการแทน
มารดาม่ายสกุลหวาง 王氏 เป็นน้องสาวของผู้บัญชาการทหารเมืองหลวงหวางจื่อเถิง 王子腾 เป็นพี่น้องร่วมมารดากับหวางฮูหยินภรรยาของเจี่ยเจิ้ง 贾政 แห่งจวนหยง อายุราวสี่สิบ มีบุตรชายคนเดียวคือ เซวียผาน มีบุตรสาวอีกคนอายุน้อยกว่าเซวียผานสองปี ชื่อว่าเป่าไช 宝钗 ผิวผ่องเป็นยองใย กิริยาชดช้อยสวยสง่า ยามบิดายังอยู่รักใคร่ยิ่ง ให้เรียนรู้หนังสือเก่งกว่าพี่ชายนับสิบเท่า หลังจากบิดาถึงแก่กรรม พี่ชายไม่ค่อยใส่ใจมารดา นางจึงหยุดเรียน หันมาสนใจงานเย็บปักและการเรือน เพื่อแบ่งเบาภาระของมารดา
ช่วงเวลานี้องค์เหนือหัว 今上 ทรงให้ความสำคัญกับการศึกษาและขนบประเพณี 诗礼 คัดสรรผู้มีความสามารถ นับเป็นโอกาสอันหายากยิ่ง การคัดเลือกบุตรีขุนนางซึ่งโดยปกติเป็นเพียงการคัดไปเป็นพระสนมนางใน ครานี้กลับเพิ่มการคัดไปเป็นสหายศึกษาของเหล่าองค์หญิงพระราชธิดาหรือพระธิดาของเหล่าเชื้อพระวงศ์ด้วย
นับแต่บิดาถึงแก่กรรม เซวียผานมารับช่วงกิจการ คู่ค้าตามหัวเมืองและสถานีการค้าเห็นเซวียผานอายุยังน้อยขาดประสบการณ์อีกทั้งไม่สนใจเรียนรู้ จึงฉวยโอกาสเบียดบัง การค้าจึงมีแต่ขาดทุน
เซวียผานฟังว่าเมืองกรุงนั้นคึกคักเป็นที่หนึ่ง ก็ตั้งใจมาเมืองกรุงโดยอ้างว่า หนึ่ง มาส่งน้องสาวเข้าคัดเลือก สอง มาเยี่ยมญาติ สาม มาคิดบัญชีเก่า เบิกเงินใหม่จากพระคลัง แต่เจตนาอันแท้จริงคือ มาเที่ยวกรุง
เซวียผานจัดเตรียมผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอันมีค่าราคาเหมาะสมสำหรับญาติมิตรเอาไว้ ทั้งกำหนดวันเดินทางแล้ว ก่อนที่จะเกิดเรื่องซื้อขายตัวอิงเหลียนจากคนลักพาตัว เซวียผานถูกใจอิงเหลียนแต่แรกเห็นจึงตั้งใจซื้อนางมาเป็นอนุ กลับเกิดเรื่องแย่งชิงตัวกับบ้านเฝิง จนต้องใช้ลูกน้องไปซ้อมเฝิงยวนจนถึงตาย ซึ่งเซวียผานถือเป็นเรื่องเด็กเล่น เพียงหว่านเงินก็สิ้นเรื่อง
เซวียผานฝากกิจการทางบ้านไว้กับคนเก่าคนแก่ แล้วพามารดาและน้องสาวออกเดินทาง ไม่กี่วันก็มาถึงเมืองกรุง ได้ข่าวว่าท่านน้าหวางจื่อเถิงได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทหารเก้ามณฑล 九省统制 จึงออกเดินทางไปตรวจราชการยังชายแดน เซวียผานแอบดีใจว่า
“ข้ากำลังวิตกอยู่ว่า เข้ากรุงมาจะถูกท่านน้าคุมแจจนกระดิกตัวไม่ได้ ตอนนี้ท่านได้เลื่อนยศออกจากเมืองไป นับว่าสวรรค์รู้ใจจริง”
แล้วหารือกับมารดาว่า
“พวกเรามีบ้านพักในกรุงอยู่หลายแห่ง ทว่าสิบกว่าปีนี้ไม่เคยมาอยู่อาศัย คนดูแลบ้านคงแอบปล่อยเช่าให้คนเข้าพัก ควรให้คนไปดูแลปัดกวาดเสียก่อน”
มารดาว่า “ไม่จำเป็นต้องวุ่นวายปานนั้น พวกเราเข้ากรุงเที่ยวนี้ ควรไปเยี่ยมญาติมิตรก่อน พักที่บ้านน้าชาย หรือน้าหญิงก็สะดวกทั้งสองแห่ง บ้านช่องออกกว้างขวาง จากนั้นค่อยให้คนไปเก็บกวาดจะดีกว่า”
เซวียผานว่า “ท่านน้าเพิ่งเลื่อนตำแหน่งออกไปหัวเมือง ในบ้านคงยุ่งอยู่บ้าง พวกเราแห่กันไปมิผิดกาละเทศะดอกหรือ”
มารดาว่า “น้าชายเจ้าแม้จะไม่อยู่ แต่น้าหญิงเจ้ายังอยู่บ้าน ข้ากับน้าชายน้าหญิงของเจ้ายังจดหมายติดต่อกันตลอดหลายปีที่ผ่านมา น้าชายเจ้าไม่อยู่ พวกเราก็ไปพักกับน้าหญิง แล้วค่อยไปเก็บกวาดบ้าน ข้ารู้เจตนาเจ้าหรอก กลัวน้าชายน้าหญิงเจ้าจะคุมตัวไว้ไปไหนไม่ได้ตามใจ เช่นนั้น เจ้าก็ไปเลือกพักบ้านเราสักหลังหนึ่ง ข้ากับน้าหญิงน้องสาวไม่ได้พบกันมาหลายปี ต้องอยู่คุยกันหลายวัน”
เซวียผานรู้ว่าดิ้นไปไหนไม่พ้น จำต้องพาขบวนเดินทางมายังจวนหยง
หวางฮูหยินรู้ข่าวแล้วว่า คดีของเซวียผานนั้นหวี่ชุนช่วยจัดการให้เรียบร้อยแล้วจึงวางใจ พอรู้ว่าพี่ชายได้เลื่อนตำแหน่งต้องไปยังชายแดน ก็รู้สึกเหงาที่จะไม่มีญาติข้างมารดาไปมาหาสู่ พอมีคนเข้ามาแจ้งว่า
“ท่านหญิงน้านำพี่ชายพี่สาวเข้ากรุงมาถึงลงรถอยู่หน้าบ้าน”
หวางฮูหยินดีใจยิ่งนัก พาคนในบ้านออกไปรับเข้ามายังห้องโถงใหญ่ พี่น้องไม่ได้พบหน้ากันนานมีเรื่องจะคุยกันมาก แต่ก่อนอื่นต้องนำของไปเยี่ยมคารวะแม่เฒ่าเจี่ย 贾母 ผู้อาวุโสของบ้าน ระหว่างกินเลี้ยงต้อนรับ เซวียผานก็ได้คารวะเจี่ยเจิ้ง 贾政 เจี่ยเหลียน 贾琏 จากนั้นค่อยไปพบพวกเจี่ยเส้อ 贾赦 เจี่ยเจิน 贾珍
เจี่ยเจิ้งให้บ่าวมาแจ้งหวางฮูหยินว่า “ท่านหญิงน้าอายุมากแล้ว หลานอายุยังน้อยไม่ค่อยรู้ความ หากไปอยู่ข้างนอกเกรงว่าอาจเกิดเหตุได้ ลานหอมสาลี่ 梨香院 (หลีเซียงย่วน)ทางมุมตะวันออกเฉียงใต้มีห้องว่างสิบกว่าห้อง ให้คนเชิญท่านหญิงน้ากับหลานพี่น้องไปพักที่นั่นจึงควร”
หวางฮูหยินอยากจะรั้งตัวไว้อยู่แล้ว แม่เฒ่าเจี่ยส่งคนมากำชับอีกคนว่า
“เชิญท่านหญิงน้าพักเสียที่นี่ จะได้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น”
แม่น้าเซวีย 薛姨妈 ใคร่พำนักด้วยเป็นทุนอยู่แล้ว จึงตอบรับ แต่บอกกับหวางฮูหยินว่า
“เรื่องกินอยู่ใช้สอยประจำวัน อย่าได้กังวลจัดหาให้ จึงจะอยู่ด้วยได้ยาว”
หวางฮูหยินรู้ดีว่า ฐานะทางบ้านของนางไม่ขาดแคลนเรื่องเหล่านี้ จึงแล้วแต่สะดวก
นับแต่นั้นแม่ลูกบ้านเซวียก็พำนักอยู่ที่ลานหอมสาลี่
ลานหอมสาลี่ 梨香院 นี้เป็นที่พำนักยามสงบในวัยชราของท่านหยงกง 荣公 ขนาดกะทัดรัดมีสิบกว่าห้อง ครบครันทั้งห้องโถงและห้องพัก มีประตูเข้าออกถนนใหญ่ของตนเอง ทั้งยังมีประตูมุมตะวันตกเฉียงใต้เปิดสู่ทางแคบเชื่อมมายังลานตะวันออกที่พักของหวางฮูหยิน หลังอาหารหรือยามเย็นของแต่ละวัน แม่น้าเซวียจึงมาเยี่ยมเยียนสนทนากับแม่เฒ่าเจี่ยหรือหวางฮูหยินได้สะดวก เป่าไชก็มาหาไต้วี่ หยิงชุนพี่น้องเพื่ออ่านหนังสือ เล่นหมากรุก ทำงานเย็บปักสนุกสนาน
มีแต่เซวียผานไม่เต็มใจพำนักที่จวนเจี่ยมาแต่ต้น ด้วยเกรงว่าจะถูกน้าหญิงคุมแจจนขาดอิสรภาพ จำต้องอยู่เพราะมารดายืนกราน จึงให้คนไปปัดกวาดบ้านพักของตนเตรียมไว้สำหรับโยกย้าย ทว่า อยู่ไปไม่ทันถึงหนึ่งเดือน สนิทสนมคุ้นเคยกับลูกหลานจวนเจี่ยเสียกว่าครึ่ง รสนิยมเดียวกัน ดื่มเหล้าชมบุปผา เข้าบ่อนเที่ยวซ่อง ไปไหนไปกัน ชักนำเซวียผานจนเสเพลกว่าเดิมอีกสิบเท่า
แม้ว่าเจี่ยเจิ้งจะอบรมลูกหลานอยู่ในกรอบประเพณี ปกครองบ้านอย่างมีวินัย ทว่า ตระกูลใหญ่คนมาก ดูแลไม่ทั่วถึง อีกทั้งประมุขของตระกูลในปัจจุบันคือ เจี่ยเจิน หลานคนโตแห่งจวนหนิง 宁府 ลานหอมสาลี่ที่พักของเซวียผานก็มีประตูเข้าออกเป็นเอกเทศ พวกลูกหลานเสเพลเหล่านี้จึงรอดพ้นหูพ้นตาผู้ใหญ่โดยง่าย
เซวียผานอยู่ท่ามกลางสมาคมนี้ จึงเลิกล้มความคิดจะย้ายออกไปอยู่ตามลำพัง
(จบบทที่สี่)
หลินไต้วี่ 林黛玉 พำนักที่จวนหยงอย่างสุขสบาย แม่เฒ่าเจี่ยให้ความรักความเอ็นดู กินอยู่เช่นเดียวกับเป่าวี่ ออกจะแซงหน้าพวกหยิงชุน ทั่นชุน ซีชุนสามพี่น้องเสียด้วยซ้ำ
เป่าวี่กับไต้วี่สนิทสนมกลมเกลียวกันเป็นพิเศษเหนือใคร กลางวันเดินนั่งเคียงคู่กัน กลางคืนพักนอนใกล้ชิดกัน วาจาความคิดสอดคล้องกัน เสมือนเงาของกันและกัน
จู่จู่เซวียเป่าไช 薛宝钗 ก็ปรากฏตัว อายุมากกว่าไต้วี่ไม่มากนัก บุคลิกดีใบหน้างดงาม ใครใครต่างว่าไต้วี่มิอาจเปรียบ เป่าไชเอื้ออารีปรับตัวเก่งเข้าหาง่าย ผิดกับไต้วี่ที่ถือตัวเข้าหายาก บ่าวไพร่จึงโน้มเอียงมานิยมเป่าไชมากกว่า ไต้วี่จึงแอบไม่พอใจอยู่บ้าง ซึ่งเป่าไชไม่เคยรู้
ส่วนเป่าวี่นั้นเหมือนเด็กไม่รู้จักโต นิสัยแปลกมาแต่กำเนิด มักคลุกคลีใกล้ชิดกับพี่น้องหญิงไม่ทิ้งระยะห่าง ยิ่งกับไต้วี่ที่พักอยู่เรือนเดียวกัน ยิ่งใกล้ชิดสนิทสนมจนเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการกระทบกระทั่งกันโดยไม่ตั้งใจ วันนี้ไม่รู้เหตุใดเกิดพูดโต้เถียงกัน ไต้วี่ไปนั่งร้องไห้คนเดียวในห้อง เป่าวี่ต้องไปง้อ จนไต้วี่ยอมหันมาคุยด้วย
ดอกเหมยบานในสวนตะวันออกของจวนหนิง นางอิ๋วสื้อ 尤氏 ภรรยาของเจี่ยเจิน 贾珍 จึงจัดเตรียมสุรา แล้วให้เจี่ยหยง 贾蓉 ผู้บุตรชายกับภรรยามาเชิญแม่เฒ่าเจี่ย สิงฮูหยิน หวางฮูหยินกับครอบครัวมาชมดอกไม้ หลังอาหารเช้า พวกแม่เฒ่าเจี่ยก็ข้ามมายังสวน เริ่มจากดื่มน้ำชาแล้วตามด้วยสุรา
ดื่มสุราชมสวนไป เป่าวี่เกิดเพลียอยากนอนกลางวันขึ้นมา แม่เฒ่าเจี่ยจึงสั่งให้คนพาเป่าวี่กลับไปนอนพัก แล้วค่อยกลับมาใหม่
นางฉินสื้อ 秦氏 ภรรยาเจี่ยหยงยิ้มว่า
“ที่นี่เรามีห้องจัดให้อารองเป่า 宝二叔 นอนพักได้ เหล่าไท่ไท่โปรดวางใจ ให้ข้าจัดการเอง”
แล้วหันมาบอกแม่นมและสาวใช้ของเป่าวี่ว่า
“หม่อมอ 嬷嬷 กับพวกพี่พาท่านอารองเป่าตามข้ามา”
แม่เฒ่าเจี่ยรู้ดีว่านางฉินสื้อเป็นคนรู้ที่เหมาะที่ควร นางมีรูปร่างอ้อนแอ้นสะโอดสะอง อัธยาศัยดี เป็นหลานสะใภ้ที่ถูกใจแม่เฒ่าเจี่ยที่สุด มีนางดูแลเป่าวี่ก็วางใจ
นางฉินสื้อนำทางเข้ามาในเรือนใหญ่ เป่าวี่เงยหน้าเห็นภาพเขียน 《จุดไฟไม้หลี 燃藜图》 แล้วรู้สึกอึดอัด
(ภาพวาดจากนิทานแต่งโดยหวางจยา 王嘉 สมัยจิ้นตะวันออก 东晋 ว่า หลิวเสี้ยง 刘向 นั่งอ่านตำราอยู่กลางความมืด มีเซียนเฒ่าสวมชุดเหลืองถือไม้เท้าหลีเดินเข้ามาจุดไฟที่ปลายไม้เท้าให้แสงสว่าง มีความนัยส่งเสริมการศึกษาเล่าเรียน)
สองข้างภาพมีคำโคลงคู่เขียนว่า
世事洞明皆学问
人情练达即文章
เข้าใจโลกถี่ถ้วนล้วนความรู้
ดูใจคนจัดเจนเห็นบทความ
พออ่านคำโคงสองวรรค แล้วสังเกตห้องหับจัดเป็นระเบียบสำหรับทำงานอ่านหนังสือ ก็ตัดสินใจได้ว่าห้องนี้ไม่น่าพัก เป่าวี่ว่า
“รีบออกไป รีบออกไป”
นางฉินสื้อได้ยินก็ขำว่า “ที่นี่ไม่ดี งั้นไปที่ไหนดี ไปห้องนอนข้าดีไหม”
เป่าวี่พยักหน้ายิ้ม
หม่อมอนางหนึ่งว่า “มีอย่างที่ไหนกัน ให้อาไปนอนในห้องหลานสะใภ้”
นางฉินสื้อหัวเราะว่า “ไม่ต้องกลัว ไว้โตกว่านี้ค่อยระวังข้อห้าม น้องชายข้ามาเมื่อเดือนที่แล้ว เขาเกิดปีเดียวกับท่านอา ถ้ามายืนเทียบกันตัวสูงกว่าตั้งเยอะ”
เป่าวี่ว่า “ทำไมข้าไม่เห็น ท่านพามาเทียบกันดูหน่อย”
ทุกคนพากันหัวเราะว่า “อยู่ไกลกันยี่สิบสามสิบลี้ จะพาไปอย่างไร วันหน้าคงมีโอกาสพบ”
พอมาถึงห้องนอนของนางฉินสื้อ ก็ได้กลิ่นหอมจางจาง เป่าวี่ระทดระทวย อุทานว่า “หอมจริง”
ในห้องแขวนภาพ 《ดอกไห่ถังนิทราคราวสันต์ 海棠春睡图》ของถังป๋อหู่ 唐伯虎
(ภาพหยางกุ้ยเฟยยามเมาหลับ)
สองข้างมีคำโคลงคู่ของฉินไท่ซวี 秦太虚 บัณฑิตสมัยซ่งเขียนไว้ว่า
嫩寒锁梦因春冷
芳气笼人是酒香
วสันต์เย็นยะเยือกสะดุดฝัน
เมรัยอันหอมหวนอวลอบคน
ในห้องยังตกแต่งด้วยโบราณวัตถุอันเย้ายวนชวนใคร่อันขึ้นชื่อ เช่น คันฉ่องของอู่เจ๋อเทียน 武则天 จานทองเจ้าเฟยเอี้ยน 赵飞燕 เริงระบำ มูลี่ไข่มุกขององค์หญิงถงชาง 同昌公主 เป่าวี่ผู้ซึ่งเวียนหัวเมื่อเห็นสิ่งของอันเกี่ยวเนื่องด้วยการศึกษา เห็นของตกแต่งในห้องนี้ จึงชอบใจใหญ่ หัวเราะแล้วว่า
“ที่นี่ดี ที่นี่ดี”
นางฉินสื้อว่า “ห้องของข้านี้ ทวยเทพและเซียนยังนิยมพำนัก”
ว่าแล้วก็คลี่ผ้าห่มที่นางซีซือ 西施 เคยซัก จัดหมอนยวนยางที่นางหงเหนียง 红娘 เคยนอนหนุน พวกแม่นมพยุงเป่าวี่เข้านอน แล้วแยกย้ายกันไป เหลือในห้องแต่สีเหยิน 袭人 ฉิงเหวิน 晴雯 เส้อเยว่ 麝月 ชิวเหวิน 秋纹 สี่สาวใช้ไว้คอยปรนนิบัติ
นางฉินสื้อพาพวกสาวใช้อื่นไปดูแมวกัดกันที่ระเบียง
ตอนก่อนหน้า : คดีน้ำเต้า
https://www.blockdit.com/posts/6870d851b486f0653275c716
ตอนถัดไป : แดนมายาสุญญตา
https://www.blockdit.com/posts/687a173ddf2f137fb449e0a2
1 บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ความฝันในหอแดง
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย