18 ก.ค. เวลา 09:43 • ประวัติศาสตร์

ความฝันในหอแดง 09 แดนมายาสุญญตา

เป่าวี่พอหลับตา ก็หลับดิ่งสู่ภวังค์ทันที เห็นนางฉินสื้ออยู่เบื้องหน้า จึงล่องลอยตามนางมาจนถึงสถานที่แห่งหนึ่ง รั้วแดงกำแพงหยก คลองน้ำใสแมกไม้เขียวขจี ไร้ร่องรอยผู้คนหรือฝุ่นผงแผ้วพาน เป่าวี่ในฝันกระหยิ่มยิ้มย่องตรองว่า
“ที่นี่น่าสนุกนัก หากข้าใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้ตลอดไป ย่อมดีกว่าถูกท่านพ่อท่านแม่และอาจารย์เข้มงวดควบคุม”
ขณะฟุ้งซ่านอยู่นั้น พลันได้ยินเสียงหญิงสาวร้องเพลงดังมาจากหลังเขา
春梦随去散,飞花逐水流。  
寄言众儿女,何必觅闲愁。
ฝันชื่นบานวสันต์ผ่านพานสลาย
ดอกไม้ร่วงสู่สายธารลอยล่องไหล
ฝากคำย้ำหนุ่มสาวสังวรณ์ไว้
กังวลไยเรื่องอันไร้แก่นสาร
ยังมีทันสิ้นเสียงเพลง หญิงงามนางหนึ่งหมุนกายฟ้อนรำสวยสง่า ผิกแผกจากสามัญชนปรากฏร่างขึ้น
เป่าวี่เห็นนางฟ้าฟ้อนรำ ยินดียิ่งนัก รีบกระทำคารวะ ยิ้มถามว่า
“พี่นางฟ้า ท่านมาจากไหน จะไปหนใด ข้าก็ไม่รู้ว่าที่นี่ที่ไหน พี่นางฟ้าช่วยพาข้าไปด้วย”
นางฟ้าว่า “ข้าอาศัยอยู่กลางทะเลรดระทม 灌愁海 บนฟากฟ้าลี้ความชัง 离恨天 เป็นนางฟ้าเตือนสติ 警幻仙姑 แห่งเขาวัยระเริง 放春山 ถ้ำหอมขจร 遣香洞 แดนมายาสุญญตา 太虚幻境 ดูแลสัมพ้นธ์รักของชาวโลก กำกับความลุ่มหลงของชายหญิง เนื่องด้วยบรรดาผู้ที่มีกรรมสวาทผูกพันมาชุมนุมกันในที่แห่งนี้ ข้าจึงถือโอกาสมาเยี่ยมเยียน เพื่อเผยแพร่ความคิดถึง ที่มาพบเจ้าในวันนี้ หาใช่เรื่องบังเอิญ
ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากที่พักของข้า ซึ่งไม่มีอะไรมากนอกจากใบชาเซียนที่เด็ดมากับมือ สุราเลิศรสที่หมักไว้เอง และเหล่านางรำทรงเสน่ห์ที่เพิ่งหัดฟ้อนนาฏกรรมชุด 《ความฝันในหอแดง 红楼梦》ลำนำเทพประพันธ์ใหม่สิบสองเพลง เจ้าอยากตามข้าไปเที่ยวหรือไม่”
เป่าวี่ได้ฟังก็ลิงโลด ลืมไปแล้วว่านางฉินสื้อที่ตนตามมานั้นหายไปไหน ติดตามนางฟ้าไปยังที่อยู่ของนาง พลันเห็นซุ้มประตูไผฟางศิลา ป้ายด้านบนสลักสี่อักษรใหญ่ในแนวขวางว่า “แดนมายาสุญญตา 太虚幻境” สองเสามีคำกลอนคู่จารึกว่า
假作真时真亦假,无为有处有还无。
ยามเท็จเป็นจริงจริงคือเท็จ
ที่วายกลายมีมีหวนวาย
ผ่านซุ้มประตูไผฟางมาเป็นซุ้มประตูวัง ป้ายด้านบนเขียนสี่อักษรใหญ่ในแนวขวางว่า “ฟ้าสวาททะเลกรรม 孽海情天” คำกลอนคู่ว่า
厚地高天,堪叹古今情不尽;
痴男怨女,可怜风月债难酬。
ฟ้าดินอันไพศาล อนาถสวาทเก่าใหม่ยากปลดปลง
ชายหญิงผู้ลุ่มหลง เวทนาหนี้เสน่หายากชดใช้
เป่าวี่เห็นแล้วตรองว่า “อย่างนี้นี่เอง ว่าแต่ อะไรคือ “สวาทเก่าใหม่” และอะไรคือ “หนี้เสน่หา” จากนี้คงต้องหาทางรู้ให้ได้”
เป่าวี่มัวแต่คิด เก็บเกี่ยวกิเลสไปโดยไม่รู้ตัว
พอเดินตามพระแม่ผ่านประตูชั้นที่สองเข้ามา เห็นหมู่ตำหนักปีกเรียงรายไปทั้งสองฟาก แต่ละแห่งมีชื่อและคำกลอนคู่มากจนอ่านไม่ทัน เว้นแต่ไม่กี่แห่ง เช่น “กรมพิศวาสเมามัว 痴情司” “กรมพยาบาทพัวพัน 结怨司” “กรมอรุณรำพัน 朝啼司” “กรมสายัณห์พิลาป 暮哭司” “กรมวสันตผัสสะ 春感司” “กรมสารทอาดูร (สา-ระ-ทะ..)秋悲司”
เป่าวี่ถามพระแม่เตือนสติ (จิ่งห้วน 警幻) ว่า “รบกวนพี่นางฟ้าพาข้าเข้าไปเที่ยวในกรมต่างๆ นี้ จะได้หรือไม่”
จิ่งห้วนว่า “แต่ละกรมในที่นี้เก็บรักษาทะเบียนอดีตอนาคตของสตรีทั่วหล้า เจ้าเป็นเพียงปุถุชนไม่อาจล่วงรู้ก่อนกาล”
เป่าวี่ได้ยินแต่ไม่ยอมฟัง เฝ้าแต่รบเร้า จิ่งห้วนจึงว่า
“เช่นนั้น ตามใจเจ้าเข้าไปที่กรมนี้ก็แล้วกัน”
เป่าวี่ยินดีจนลิงโลด เงยหน้ามองดูป้ายชื่อเขียนว่า “กรมชะตาอาภัพ 薄命司” สองข้างมีคำกลอนคู่ว่า
春恨秋悲皆自惹,花容月貌为谁妍。
วสันต์สารททุกข์ระทมตนแส่หา
จันทราบุปผาปานงามเพื่อใคร
เป่าวี่อ่านจบถอนหายใจแล้วก้าวเข้าประตูไป เห็นตู้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่สิบกว่าตู้ ล้วนมีแถบตราผนึกบนประตู บนแถบตรามีอักษรรายชื่อมณฑล เป่าวี่เลือกเอาแถบตราที่มีชื่อแถวบ้านของตนเอง เห็นตู้หนึ่งมีอักษรตัวโตเขียนบนแถบตราว่า “สิบสองปิ่นจินหลิงฉบับเอก 金陵十二钗正册”
เป่าวี่ถามว่า “อะไรคือสิบสองปิ่นจินหลิงฉบับเอก”
จิ่งห้วนว่า “คือฉบับที่ว่าด้วยสิบสองสตรียอดมงกุฎในเมืองของเจ้า นับเป็นเอก”
เป่าวี่ว่า “เขาว่าจินหลิงนั้นกว้างขวางใหญ่โตนัก เหตุใดจึงมีสตรีเพียงสิบสองนาง เฉพาะในบ้านข้า นับไปนับมาก็ไม่รู้กี่ร้อยนางแล้ว”
จิ่งห้วนยิ้มว่า “สตรีในมณฑลมีมากมาย ทว่าคัดเอาเพียงที่สำคัญโดดเด่นมาบันทึก สองฟากยังมีอีกสองตู้สำหรับลำดับรองลงไป ส่วนพวกสามัญที่เหลือก็ไม่มีสมุดจะบันทึกแล้ว”
เป่าวี่หันไปดูตู้ใบถัดไปเขียนว่า “สิบสองปิ่นจินหลิงฉบับโท 金陵十二钗副册” ส่วนอีกตู้เขียนว่า “สิบสองปิ่นจินหลิงฉบับตรี 金陵十二钗又副册” เป่าวี่เอื้อมมือหยิบเอาเล่มหนึ่งจากตู้ “ฉบับตรี” ออกมาเปิดดู หน้าแรกเห็นเป็นภาพที่ไม่ใช่ทั้งทิวทัศน์หรือผู้คน เหมือนใช้หมึกดำมาป้ายไว้เป็นเมฆหมอกปกคลุมอยู่เต็มหน้า ข้างท้ายมีอักษรอยู่หลายแถวเขียนว่า
霁月难逢,彩云易散。
心比天高,身为下贱。
风流灵巧招人怨。
寿夭多因诽谤生,多情公子空牵念。
จันทร์กระจ่างหลังฝนยากพบพาน
เมฆสีรุ้งมินานสลายสิ้น
ใจสูงเทียมฟ้า กายาต่ำเพียงดิน
ยุพินแคล่วคล่องชวนปองคนแอบเคือง
อายุสั้นเพราะมีผู้ให้ร้าย
คุณชายมากรักหนักใจเปล่าเปลือง
(บททำนายชะตาของฉิงเหวิน 晴雯
จันทร์กระจ่างหลังฝน ฟ้าแจ้ง คือ 晴 ฉิง ; เมฆสีรุ้ง คือ 雯 เหวิน ; สองวรรคแรกสื่อนัยถึงชื่อ ฉิงเหวิน)
เป่าวี่อ่านแล้วไม่เข้าใจ (ดังนั้น ผู้อ่านควรทำเป็นไม่รู้ชื่อ ฉิงเหวิน เช่นเดียวกับเป่าวี่) พอพลิกต่อไปหน้าหลังเห็นภาพช่อดอกไม้สด เตียงชำรุด และบทกวีว่า
枉自温柔和顺,空云似桂如兰。  
堪羡优伶有福,谁知公子无缘。
ป่วยการเปล่านอบน้อมยอมโอนอ่อน
เมฆกลางอัมพรดุจมวลบุปผา
น่าอิจฉานักแสดงโชคนำพา
ผู้ใดรู้ว่าคุณชายไร้วาสนา
(บททำนายชะตาของสีเหยิน 袭人
มวลบุปผาในวรรคที่สองสื่อนัยถึง สีเหยินผู้มีแซ่ฮวา 花 บุปผา)
(อิวหลิง 优伶 คือ นักแสดง สามีในภายหน้าของสีเหยินเป็นนักแสดง)
เป่าวี่อ่านแล้วไม่รู้เรื่องอีก จึงเอาหนังสือเก็บเข้าที่ แล้วไปเปิดตู้ “ฉบับโท” หยิบมาใหม่เล่มหนึ่งเปิดออกดู หน้าแรกมีภาพวาดเช่นกัน เป็นภาพกิ่งดอกกุ้ยฮวา 桂花 (ดอกหอมหมื่นลี้) ด้านล่างเป็นบึงน้ำแห้งเป็นตม มีดอกบัวเหี่ยวเฉารากบัวเหี่ยวแห้ง ข้างท้ายมีอักษรว่า
根并荷花一茎香,平生遭际实堪伤。
自从两地生孤木,致使香魂返故乡。
ชูก้านสุคนธ์มีอุบลร่วมราก
ความทุกข์ยากแผ้วพานผ่านวิถี
ไม้เอกาเกิดจากดินสองถิ่นที่
ตราบชีวีสลายสุคนธ์หวนคืนถิ่น
(บททำนายชะตาของเซียงหลิง 香菱
เซียงหลิง (香 สุคนธ์) เดิมชื่อ อิงเหลียน (莲 อุบล)จึงร่วมรากเดียวกัน
ไม้เอกา 木 เกิดจากดิน 土 สอง คืออักษร 桂 (กุ้ย) บวกกับภาพกิ่งดอกกุ้ยฮวา สื่อนัยถึง เซี่ยจินกุ้ย 夏金桂 มารผจญในชีวิตของเซียงหลิง)
เป่าวี่เห็นแล้วก็ยังไม่รู้เรื่อง จึงไปหยิบ “ฉบับเอก” มาดู ภาพในหน้าแรกเป็นไม้ตายซากสองต้น มีเข็มขัดหยกแขวนอยู่บนต้น บนพื้นมีหิมะอยู่กองหนึ่ง กลางกองหิมะมีปิ่นทอง มีกลอนสี่วรรคว่า
可叹停机德,堪怜咏絮才。  
玉带林中挂,金簪雪里埋。
ทอดถอนใจคุณธรรมนางล้ำเลอค่า
น่าเสียดายความรู้เชิงอักษร
เข็มขัดหยกแขวนสูงกลางดงดอน
ปิ่นทองนอนหมกหิมะอันเยือกเย็น
(บททำนายชะตาเซวียเป่าไช และหลินไต้วี่)
(停机德 คุณธรรมหยุดเครื่องทอ คือคุณธรรมของสตรีที่ส่งเสริมสามี มาจากเรื่องภรรยาของเยว่หยางจื่อ 乐羊子妻 เมืองเหลียงสมัยฮั่นตะวันออก 东汉梁国 เห็นสามีทิ้งการศึกษากลางคันเดินทางกลับบ้านเพราะคิดถึงบ้าน ภรรยากำลังทอผ้าอยู่จึงหยุดทอแล้วใช้กรรไกรตัดด้ายบนเครื่องทิ้งทำให้ผ้าทอต่อเป็นผืนไม่ได้ เพื่อเตือนสติสามีที่ทิ้งการศึกษากลางคัน กลอนวรรคนี้สื่อถึงคุณธรรมของเซวียเป่าไช)
(咏絮才 ความสามารถเชิงอักษรกาพย์กลอน สื่อถึงหลินไต้วี่)
(เข็มขัดหยก 玉带 (วี่ไต้) อ่านกลับหลังคือ ไต้วี่ ; 木 ไม้สองตัว คือ 林 หลิน แซ่ของไต้วี่ หมายถึง ป่าละเมาะ)
(แซ่เซวีย 薛 พ้องเสียง เสวี่ย 雪 (หิมะ) ชื่อเป่าไช 钗 (ไช) คือ ปิ่น)
เป่าวี่อ่านแล้วไม่เข้าใจ ครั้นจะถามก็รู้ว่านางคงไม่ยอมเผยความลับของสวรรค์ ครั้นจะหยุดอ่านก็ยังวางไม่ลง จึงเปิดดูหน้าถัดไป เห็นภาพคันธนู บนธนูแขวนผลเซียงหยวน 香橼 (มะงั่ว) มีบทเพลงต่อท้ายว่า
二十年来辨是非,榴花开处照宫闱。
三春争及初春景?虎兔相逢大梦归。
อายุได้ยี่สิบปีรู้ดีชั่ว
ดอกทับทิมเจิดจรัสทั่ววังหลัง
สามชุนมิแม้นชุนแรกบดบัง
ขาลยังเถาะประจ้นหลับฝันยาว
(บททำนายของ หยวนชุน
หยวนชุนเข้าวังเมื่ออายุได้ยี่สิบปี
ภาพ คันธนู 弓 (กง) พ้องเสียง วัง 宫 (กง)
ผลเซียงหยวน 香橼 (橼 หยวน) พ้องเสียง หยวนชุน (元 หยวน)
สามชุน คือ น้องสาวทั้งสาม หยิงชุน ทั่นชุน ซีชุน ; ชุนแรก คือ หยวนชุน พี่สาวคนโต)
หน้าถัดไปเป็นภาพคนสองคนกำลังปล่อยว่าว ทะเลกว้างมีเรือใหญ่หนึ่งลำ บนเรือมีหญิงสาวผู้หนึ่งปิดหน้าร้องไห้ ท้ายภาพมีบทกวีสี่วรรคว่า
才自精明志自高,生于末世运偏消。
清明涕泣江边望,千里东风一梦遥。
ปณิธานสูงส่งทรงภูมิปัญญา
เกิดมาในยุคเสื่อมชะตามิเป็นศรี
ชิงหมิงจำร่ำไห้ลาริมฝั่งนที
ไกลพันลี้ขี่ลมบูรพามาเพียงฝัน
(บททำนายชะตาของทั่นชุน
แต่งงานสู่แดนไกล ดังว่าวขาดลอย กลับมาได้เพียงในฝัน)
หน้าถัดไปเป็นภาพปุยเมฆ และวังน้ำที่ไหลไปไม่ไหลกลับ บทกวีว่า
富贵又何为?襁褓之间父母违。
展眼吊斜辉,湘江水逝楚云飞。
ร่ำรวยมากมายไปทำไมกัน
แบเบาะนั้นบุพการีมาสูญไป
ลืมตาเห็นแสงสายัณห์รำไร
น้ำเซียงรี่ไหล เมฆลอยสู่นภาฉู่
(บททำนายของเซียงหยุน 湘云
น้ำเซียง 湘 ; เมฆ 云 หยุน)
หน้าถัดไปเป็นภาพหยกชิ้นงามร่วงอยู่กลางโคลนตม บทกวีกำกับว่า
欲洁何曾洁?云空未必空。
可怜金玉质,终陷淖泥中。
ใคร่บริสุทธิ์หาเคยบริสุทธิ์
เห็นดุจว่างหาใช่ว่าจะว่าง
สงสารมีชาติตระกูลสูงสะอาง
ที่สุดมัวหมองหมางกลางโคลนตม
(บททำนายชะตาของเมี่ยววี่ 妙玉
ถือตัวว่าสูงส่งบริสุทธิ์ บวชชีโดยไม่โกนผม สุดท้ายหนีไม่พ้นโคลนตม)
ภาพถัดไปเป็นสุนัขป่าดุร้ายไล่ขย้ำสาวงามนางหนึ่ง มีบทกวีว่า
子系中山狼,得志便猖狂。
金闺花柳质,一载赴黄粱。
จื่อ 子 ซี่ 系 หมาป่าอกตัญญูชั่วร้าย
สมใจหมายกลับกลายทำวางก้าม
เป็นคุณหนูอัธยาศัยงดงาม
หนึ่งปีความสุขแสนสั้นฝันหวงเหลียง
(บททำนายชะตาของหยิงชุน
จื่อ 子 ซี่ 系 รวมเป็นอักษร 孫 ซุน สื่อถึงซุนเส้าจู่ 孙绍祖
หมาป่าจงซาน 中山狼 มาจากนิทานหมาป่าอกตัญญู แว้งกัดผู้ช่วยชีวิต เหมือนนิทานไทยเรื่องชาวนากับงูเห่า
ฝันหวงเหลียง 黄粱一梦 ฝันว่ามีความสุขแสนสั้น ธัญพืชหวงเหลียงไม่ทันสุกก็ตื่นแล้ว)
ตอนก่อนหน้า : ป้าอ๋องทึ่มเข้ากรุง
ตอนถัดไป : สิบสองปิ่นจินหลิง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา