15 ก.ค. เวลา 04:25 • ความคิดเห็น

Tight – Loose – Tight

คุณซิกเว่ เบรกเก้ (Sigve Brekke) เจ้านายเก่าผมที่ดีแทค ที่ปัจจุบันเป็นซีอีโอของกลุ่มทรู และคุณอาทิตย์ นันทวิทยา แห่ง SCB X เป็นสองผู้นำที่เวลาผมทำงานด้วยแล้วสนุกมาก ทั้งได้ทำงานที่มีความคิดสร้างสรรค์และได้ผลงานที่ดีเสมอ
1
ผมทำงานกับทั้งคู่มาคนละ 6 ปี จะรู้สึกตื่นเต้นและท้าทาย พัฒนาตัวเองมาตลอด เพราะรู้สึกได้ถึงความชัดเจนและความเชื่อใจที่ทั้งคู่มีให้
ผมพยายามคิดถึงวิธีอธิบายลักษณะการบริหารทีมของทั้งคู่ก็ยังอธิบายได้ไม่ดีนักจนได้ฟังคุณแทป รวิศ แห่ง mission to the moon ที่ได้มีโอกาสสัมภาษณ์คุณซิกเว่ ก็เลยอธิบายได้ว่าทำไมผมถึงสนุกกับวิธีการทำงานของสองคนนี้
คุณแทปเล่าว่า ตอนสัมภาษณ์คุณซิกเว่นั้น ซิกเว่บอกว่าถ้าจำอะไรไม่ได้เลยจากการสัมภาษณ์นี้ให้จำแค่สามคำ ก็คือ tight – loose – tight ซึ่งเป็นวิธีการบริหารทีมที่คุณซิกเว่ใช้
tight แรกก็คือการกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน ชัดขนาดที่ไม่ต้องตีความ เดินออกจากห้องสิบคน ดึงตัวมาถามทีละคนต้องตอบได้เหมือนกันหมด ส่วน loose คือวิธีการทำงาน ไม่ต้องไม่ยุ่งกับทีมมาก ให้แค่กรอบกว้างๆกับเครื่องมือพอ แต่ละคน แต่ละทีมก็ไปหาทางบรรลุเป้าหมายกันเอง
1
tight สุดท้ายคือวิธีการวัดผล ต้องเป๊ะมาก คุณซิกเว่เคยเล่าให้ผมฟังด้วยว่าอะไรที่วัดได้จะปรับปรุงได้และทำให้สำเร็จได้
1
ผู้บริหารนั้นมีหลายแบบ แบบ tight tight tight เลยก็เป็นแนวเผด็จการ มาสายหนึ่งนาทีก็เรียกมาด่า ควบคุมทุกอย่าง แบบนี้ลูกน้องก็จะกลัวไม่กล้าคิดอะไร ทำตามสั่งพอ
1
loose loose loose ก็ทำงานด้วยความน่าเบื่อเพราะหัวหน้าไม่ชัดเจน ไม่รู้เอาอะไร ทำแล้วจะได้อะไร คนทำงานก็ไม่สนุก แบบ loose tight loose นี่ก็แอบนึกถึงการบริหารแบบเถ้าแก่โบราณไม่ได้ ตอนสั่งก็วกวน แต่ชอบลงรายละเอียด พอทำได้หลายครั้งก็มีข้ออ้างที่จะไม่ให้รางวัลตามที่สัญญา เป็นต้น
พอฟังคุณแทปสรุปจากซิกเว่อีกทีถึงเข้าใจได้ว่าทำไมเวลาทำงานกับคุณซิกเว่และคุณอาทิตย์ถึงสนุกมาก เพราะทั้งคู่เป็นคนชัดเจนว่ามีเป้าหมายอะไร อาจจะยากแต่ก็ชัด ส่วนวิธีการทำงานทั้งคู่ปล่อยอิสระมากด้วยความเชื่อใจ แต่ไปวัดผลเข้มข้นกันตอนจบ
คนทำงานแบบผมก็ทำงานง่ายและคิดอะไรสนุกๆ ได้เยอะแต่ก็รู้ถึงความรับผิดชอบไปด้วยว่าต้องทำอะไรให้สำเร็จ
ผมเองก็เลยนำเอาแนวทางนี้มาใช้โดยไม่รู้ตัว คือจะกำหนดเป้าหมายให้ชัดว่าโครงการนี้อยากได้อะไรกันแน่ และวัดผลกันยังไง ส่วนตรงกลางนี่ปล่อยลูกน้องลุยกันเต็มที่ เราคุมแค่กรอบก็พอ หลักการนี้ใช้กับเจนไหนก็ได้ผล ถ้าเราชัดเจนถึงเป้าประสงค์และผลลัพธ์
ถ้าใครยังงงกับ loose ตรงกลาง นั้น… มีน้องพีอาร์คนหนึ่งชอบทำงานแถลงข่าวกับผมมากเพราะเวลาแถลงข่าวผมจะสนใจแค่เรื่องว่าเราส่งสารอะไรออกไปแล้วนักข่าวไปลงอะไรบ้าง ส่วนตอนแถลงจะไฟตกบ้าง สไลด์ไม่ตรงบ้าง พูดผิดไปบ้าง พลาดโน่นบ้างนี่บ้างก็ไม่เป็นไร
น้องๆที่ทำงานก็ไม่เกร็งและสนุกกับไอเดียใหม่ๆ น้องคนนี้เลยตั้งวิธีการแบบผมว่า มั่วๆ เอากะๆ เอา ซึ่งผมก็คิดว่าตรงมากเพราะเป็นการนิยามคำว่า loose ตรงกลางได้ดีทีเดียว
คุณ Satya Nadella แห่งไมโครซอฟท์ผู้พลิกฟื้นบริษัทเทคตกยุคที่มีคนแสนห้าหมื่นคนจนกลายเป็นบริษัทอันดับ top 3 ของโลกในตอนนี้ มีไกด์ให้ผู้บริหารในการเลือกหัวหน้าในแต่ระดับว่า …
หัวหน้าที่ดีเวลาเดินเข้ามาในห้อง ต้อง bring clarity. เอาความชัดเจนเข้ามาให้ทีม และต้อง bring energy คือเอาพลังงานบวกเข้ามาด้วย ทำให้ทีมคึก สุดท้าย หัวหน้าต้อง bring success ก็คือต้องสามารถพาทีมให้ทำงานสำเร็จได้ เพราะก็จะได้เจริญก้าวหน้าไปทั้งทีม
Bring clarity bring energy bring success นี่เรียงกันแล้วเหมือนซ้อนกับ tight – loose – tight ได้พอดีเป๊ะเลย
ผู้นำที่เก่งระดับท็อปนี่ดูจะมีกระบวนท่าคล้ายๆกันอยู่ไม่น้อยเลยนะครับ…
โฆษณา