15 ก.ค. เวลา 06:32 • ข่าวรอบโลก

📣 สหรัฐฯ เสี่ยงไร้หลักประกันสิทธิการศึกษา หลังทรัมป์ได้ไฟเขียวปลดพนักงานครึ่งกระทรวง

🇺🇸 Supreme Court allows Trump to proceed with mass firings at Education Department
⚖️ จุดเปลี่ยนสำคัญของนโยบายกระจายอำนาจการศึกษา
ภายใต้คำสั่งล่าสุดจากศาลฎีกาสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับไฟเขียวให้ดำเนินการเลิกจ้างพนักงานกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ ครั้งใหญ่ โดยไม่ต้องรอความเห็นชอบจากสภาคองเกรส
ภายในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงหลังคำตัดสิน กระทรวงศึกษาธิการก็เริ่มส่งอีเมลแจ้งพนักงานว่าพวกเขาจะถูกเลิกจ้างมีผลวันที่ 1 สิงหาคม 2025 นี้ แม้จะมีคำตัดสินก่อนหน้านี้จากศาลล่างที่ห้ามการปลดพนักงานชั่วคราว เพราะมองว่าเป็นการยุบหน่วยงานที่ตั้งโดยรัฐสภา
🔍 สิ่งที่น่าจับตา: คำตัดสินครั้งนี้ไม่เพียงเกี่ยวกับการเลิกจ้าง แต่ยังสะท้อนการเคลื่อนไหวเพื่อกระจายบทบาทของรัฐบาลกลางไปยังรัฐต่างๆ ซึ่งอาจกลายเป็นต้นแบบให้นโยบายกระจายอำนาจอื่นๆ ตามมาในอนาคต
💥 วิกฤตแรงงานรัฐ – หรือแผนยุบทิ้งกระทรวง?
แม้ฝ่ายบริหารจะอ้างว่านี่คือ “การปรับโครงสร้าง” เพื่อประสิทธิภาพ แต่ผู้พิพากษาเสียงข้างน้อยอย่าง โซเนีย โซโตมาโยร์ กลับชี้ว่า นี่คือความพยายามในการ “สลาย” หน่วยงานโดยไร้อำนาจตามกฎหมาย
📌 โซโตมาโยร์เตือนแรง: “การปลดพนักงานนี้จะส่งผลร้ายอย่างไม่อาจประเมินได้ โดยเฉพาะต่อนักเรียนที่เผชิญการเลือกปฏิบัติและความรุนแรง โดยไม่มีหน่วยงานกลางคอยปกป้องสิทธิ”
🇹🇭 ไทยควรเรียนรู้อะไรจากกรณีนี้?
✈️ ประเทศไทยเองก็เผชิญความท้าทายเรื่องการกระจายอำนาจด้านการศึกษา โดยเฉพาะในยุคที่พูดถึง “กระจายงบ – กระจายอำนาจ – กระจายคน” กรณีของสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นว่า การลดบทบาทส่วนกลางอาจมีผลลัพธ์ร้ายแรงหากไม่วางโครงสร้างรองรับอย่างรอบคอบ เช่น การถ่ายโอนภารกิจโดยไม่มีงบหรือบุคลากรตามมา
📚 สำหรับไทยแล้ว คำถามคือ: ถ้าไม่มีหน่วยงานกลางคอยกำกับมาตรฐานการศึกษา เด็กไทยจะมั่นใจในความเท่าเทียมได้แค่ไหน?
📉 ผลกระทบต่อหุ้นไทยที่ต้องจับตา
🟠 PLANB (แพลน บี มีเดีย) — ในฐานะผู้ผลิตสื่อและบริหารสิทธิการตลาดในโรงเรียน หากรัฐไทยใช้โมเดลสหรัฐฯ ยุบรวมหรือกระจายภารกิจด้านการศึกษาสู่ท้องถิ่น การโฆษณา/สิทธิในโรงเรียนอาจถูก "แปรรูป" หรือแข่งขันมากขึ้น ส่งผลต่อแผนธุรกิจและรายได้จากสื่อในโรงเรียน
🟢 VGI (วีจีไอ โฮลดิงส์) — ผู้นำสื่อโฆษณานอกบ้านที่เข้าถึงโรงเรียนและพื้นที่สาธารณะ หากรัฐลดบทบาทการศึกษากลางและเปิดทางให้เอกชนหรือท้องถิ่นบริหารมากขึ้น VGI อาจได้อานิสงส์จากการขยายสื่อและกิจกรรมการเรียนรู้นอกระบบในวงกว้าง
🔵 SVI (เอสวีไอ) และ SIS (เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น) — ผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีการศึกษา หากภาครัฐหันไปส่งเสริมเอกชนแทนหน่วยงานกลาง บริษัทเหล่านี้อาจได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มจากสถาบันที่บริหารตนเอง
🟡 SE-ED (ซีเอ็ดยูเคชั่น) — หากบทบาทภาครัฐลดลงและรัฐสนับสนุนให้โรงเรียนใช้สื่อการเรียนรู้ทางเลือก ซีเอ็ดอาจฟื้นตัวได้จากโมเดลธุรกิจเชิงความรู้และร้านหนังสือ
🔴 WAVE (เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล) — จากการมีธุรกิจโรงเรียนสอนภาษา หากการศึกษาเปิดกว้างมากขึ้นและพ่อแม่มีบทบาทกำหนดทิศทางเอง อาจส่งเสริมให้ธุรกิจ EdTech หรือ Language Center เติบโตต่อเนื่อง
🌐 กระแสโลก: “ลดรัฐ ขยายท้องถิ่น” กำลังมา?
นโยบายของทรัมป์อาจสร้างแรงสะเทือนในเวทีนโยบายสาธารณะทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทย ที่กำลังพิจารณากระจายอำนาจด้านสาธารณสุข การศึกษา และการจัดสรรงบประมาณ
หากแนวโน้มนี้ขยายวง อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อ NGOs บริษัทจัดหาครูเอกชน ธุรกิจสื่อการสอน และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา (EdTech) ซึ่งจะกลายเป็นกลุ่มที่ถูกแย่งบทบาทจากรัฐมากขึ้นเรื่อยๆ
💬 แล้วคุณล่ะ คิดว่าไทยควร "ลดอำนาจส่วนกลาง" เหมือนสหรัฐฯ หรือไม่?
📌 คุณคิดอย่างไรกับคำตัดสินของศาลฎีกาสหรัฐฯ ที่เปิดทางให้ยุบโครงสร้างกระทรวงระดับชาติโดยไม่มีรัฐสภาอนุมัติ?
📌 หากไทยเดินตามโมเดลนี้ ใครควรเป็นผู้ดูแลมาตรฐานการศึกษาให้เด็กทั่วประเทศ?
📌 หุ้นใดในไทยที่คุณคิดว่าน่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด?
👇 แบ่งปันมุมมองของคุณในคอมเมนต์ด้านล่างเลยค่ะ
📌 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#CampusUnderPressure #TrumpLayoffs #EducationPolitics #SupremeCourt #AcademicFreedom #โครงสร้างการศึกษากับอำนาจรัฐ #เสรีภาพทางวิชาการ #แปรรูปการศึกษา #ศาลฎีกาสหรัฐ #เลิกจ้างครูสหรัฐ #StockAtlas
📚 Reference:
CNN – Supreme Court allows Trump to proceed with mass firings at Education Department
โฆษณา