15 ก.ค. เวลา 08:24 • หุ้น & เศรษฐกิจ

EP3: ระบบเทรดแรกของผม — ไม่ใช่ระบบที่ดีที่สุดในโลก... แต่เหมาะกับผมที่สุดในตอนนั้น

(จากซีรีส์ “จากห้องเรียนสู่สนามเทรด: จุดเริ่มต้นของอาจารย์ที่อยากหลุดจากรายได้เดือนชนเดือน)
ใครยังไม่เคยอ่านบทความ Series นี้ ติดตามอ่านย้อนได้ที่
#จากชอล์กสู่ชาร์ต
#ระบบไม่ต้องเทพแต่ต้องเข้าใจ
#เทรดคือการเข้าใจตัวเอง
1🔍 เริ่มต้นด้วยความรู้… และความหวังใหม่
หลังจากผ่านช่วงเจ็บปวดจาก EA และ Copytrade ก่อนหน้านี้มา
(ใครยังไม่ได้อ่านบทความก่อนหน้านี้ ลองย้อนกลับไปดูก่อนได้นะครับ)
ผมก็มาถึงจุดที่เหมือน “กลับไปเริ่มต้นจากศูนย์”
แต่ครั้งนี้... ไม่ได้เริ่มคนเดียว
ผมได้เรียนรู้จาก พี่มะลิ และ พี่แล็คเกอร์
สองท่านนี้คือเทรดเดอร์สายคลาสสิคที่ไม่ได้เน้น “ขายฝัน”
แต่เน้น “ปั้นคนให้เข้าใจตลาดจริง ๆ”
ผมนั่งเรียนตั้งแต่พื้นฐานโครงสร้างตลาด (Market Structure)
ดูแนวโน้ม ดู High–Low ดูจุด Break–Retest
จับจังหวะ Entry จากแท่งเทียน
เสริมด้วยอินดิเคเตอร์ตัวแรกที่เข้าใจง่ายและคลาสสิกที่สุด — MACD
ทั้งหมดนี้เทรดบน Timeframe H1 ซึ่งเป็นหน้าเทรดที่ง่ายที่สุด ไม่เร็ว ไม่ช้าเกินไป
ผมไม่เร่งรีบ แต่ให้เวลาได้เรียนรู้ ดูพฤติกรรมของกราฟ เพื่อทำความเข้าใจมัน
ผมเริ่มเปิดพอร์ตเทรดใหม่อีกครั้ง...
พร้อมความรู้ใหม่ แม้จะมีความกลัวๆ อยู่ในใจ แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ ผมเริ่มรู้และเข้าใจว่า กราฟทำไมถึงขึ้น และกราฟทำไมถึงลง (ก่อนหน้านี้ สารภาพเลยว่าใช้ EA หรือ CopyTrade เราจะไม่รู้ ไม่เข้าใจเลย ทำไมกราฟวิ่งขึ้นอยู่ดีๆ มันก็กลับลง 🫥 แต่ตอนนี้เราเริ่มเข้าใจมันล่ะ แม้จะไม่มากมายเท่านั้น)
และที่สำคัญไฟในใจ และความฝันที่กลับมาลุกโชน..อีกครั้ง
2🧠 ระบบเทรดแรกที่ผมสร้างเอง
การเทรดที่ดี ทำกำไรได้ จำเป็นต้อง สร้างระบบการเทรดของตัวเอง
ระบบแรกของผมไม่ได้ซับซ้อนครับ
มันเรียบง่ายแต่ชัดเจน
1.ดูโครงสร้างแนวโน้มก่อน (ขึ้น/ลง/Sideway)
2.รอจังหวะราคาย่อตัว → ดู MACD ว่ามี Divergence หรือไม่ (หน้าเทรด พี่แลคเกอร์จะสอนเรื่อง Divergence หรือการขัดแย้งของกราฟกับ Indicator ทำให้มีโอกาสกลับตัวของกราฟ (เดี๋ยวจะค่อยมาคุยกันอีกทีนะครับ)
3.เข้าตอน MACD เกิด Divergence กับราคา
4.กำหนด TP/SL ชัดเจนแบบ R:R = 1:2
ผมเริ่มมีหน้าเทรดที่เป็นของตัวเอง
มีจุดเข้า จุดออก
มีการบันทึกการเทรดแบบ Journal
รู้สึกเหมือน “ควบคุมได้” และเทรดด้วยเหตุผล ไม่ใช่ความรู้สึก 💕
3. 📈 เริ่มมีกำไร… แต่ “รอด” กับ “รวย” มันคนละเรื่อง
ช่วงเดือนแรก ๆ ที่ใช้ระบบนี้
ผมเทรดได้กำไรจริง ๆ ครับ😄😄😃
แต่ก็เหมือนกับบทเรียนที่ตลาดชอบหยอกเล่น
เพราะทันทีที่เริ่มมั่นใจ... ผมก็เริ่ม “อยากได้มากขึ้น”
❌เริ่มเบิ้ล Lot
❌เริ่มเลื่อน Stop Loss
❌เริ่มคิดว่า “มันน่าจะกลับมา”
และเมื่อผิดทาง... กำไรที่เคยได้ ก็หายวับในพริบตา
4. 💥 จุดแตกของระบบ... ไม่ใช่ตรงกราฟ แต่ตรงหัวใจ💕💕
สุดท้าย ผมขาดทุนจากระบบที่ตัวเองสร้าง
ไม่ใช่เพราะระบบไม่ดี
แต่เพราะผม ไม่ดีพอสำหรับระบบนั้น
ผมไม่มีวินัยในการใช้ Lot size ที่เหมาะสม
ผมไม่มีวินัยในการยอมรับขาดทุน
ผมไม่มีวินัยในการ “ไม่เทรด” ตอนตลาดไม่น่าเข้า
ทั้งหมดคือเรื่องของ จิตวิทยาการเทรด
ผมเคยคิดว่า “กราฟคือศัตรู”
แต่จริง ๆ แล้ว... ใจของเราต่างหากที่เป็น Boss ตัวจริงของพอร์ต
5. 🌱 ไม่ใช่ระบบที่ดีที่สุด... แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าใจตัวเอง
แม้จะจบด้วยการขาดทุนอีกครั้ง
แต่ระบบเทรดแรกนี้...
พาผมเข้าใจว่า “ระบบใดก็ล้มเหลวได้ ถ้าเราไม่มีวินัย”
ผมจึงเริ่มสนใจเรื่อง Money Management อย่างจริงจัง
เริ่มศึกษาจิตวิทยาการเทรดจากพี่แล็คเกอร์แบบเข้มข้น
และเริ่มเปลี่ยน Mindset จาก
“เทรดให้ชนะ” → “เทรดให้รอด”
ระบบนั้นอาจไม่ทำให้ผมกลายเป็นเศรษฐีใน 3 เดือน
แต่มันสอนให้ผม เข้าใจตลาด และเข้าใจตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม
และนั่นแหละคือจุดกลับตัวที่แท้จริงของผมในตอนนั้นครับ
📘 ตอนต่อไป: จิตวิทยาการเทรด — ศัตรูที่มองไม่เห็น แต่ตีเราเจ็บที่สุด
#จากชอล์กสู่ชาร์ต
#จิตวิญญาณแห่งวินัย
#ระบบดีอย่างไรถ้าใจไม่พร้อม
#เทรดแบบไม่ต้องขอโทษตัวเอง
โฆษณา