17 ก.ค. เวลา 02:53 • ประวัติศาสตร์

กลอนคนโบราณตะกั่วป่า

คนเฒ่าๆ หลายคนเคยเล่าให้ฟัง ว่าตะกั่วป่ามีกลอนที่เล่าเรื่องราวสมัยก่อนไว้ (อ่านเป็นสำเนียงกั่วป่า)
“ปีมะเส็งเดือนสี่ เจริญศก ถ้าวแก่บุนตกคิดอ่านทำการใหญ่ ถ้าวแก่ซูกุ้นหวุ่นไขว่ ดับห่อพายใหญ่แล่นเข้าค่าย”
เป็นกลอนเล่าเรื่อง ครั้ง หงี่หิ้นกงสี รบ กับ โฮเซ่งกงสี เพราะตอนนั้น เพิ่งสิ้นพระยาเสนานุชิต (นุช) เลยมีกงสีใหม่อยากเข้ามาเป็นใหญ่ในเมืองตะกั่วป่า ถ้าบ้านเราก็คงเรียกว่า “มาทำถ้าว” ด้วยความเจ้าถิ่นเดิม คือถ้าวแก่บุนตก หรือ หลิมบุนตก (ต้นตระกูลบุญสูง) คงไม่สามารถยอมรับได้จึงเกิดการสู้รบกันเกิดขึ้น
ในกลอนได้เล่าว่า ถ้าวแก่ซูกุ่น สู้ไม่ได้ ต้องหอบของหนีเข้าไปในค่ายเจ้าเมือง จึงทำให้รอดพ้นภัยมาได้
แต่เมื่อศึกษา จะพบว่า กลอนนี้ไม่ได้บอกแค่เรื่องราว แต่บอก ช่วงเวลาเกิดเหตุไว้ด้วย “ปีมะเส็งเดือนสี่ เจริญศก” จากค้นคว้าข้อมูลพบว่า “ศก” เป็นคำเรียกปีแบบสมัยก่อน โดยนับปีที่ลงท้ายของจุลศักราช โดยจะนับเรียงกันไป 1 2 3 ... เป็น เอกศก โทศก ตรีศก ตามลำดับจนถึง 0 เรียกว่า สัมฤทธิศก ซึ่งเมื่อดูแล้วจะไม่พบคำว่า “เจริญศก”
ต้องไปตรวจสอบหลักฐานจากหนังสือสัญญาสงบศึก ที่ได้มีการลงนามกันระหว่าง หงี่หิ้นกงสี และ โฮเซ่งกงสี พบว่าบันทึกไว้ ประมาณว่า
“๕ ๑๓ฯ๔ ค่ำ ปีมะเส็งตรีศก จีนเซียวแซ่เอียว พวกหงี่หิ้น จีนย่องแซ่ตัน พวกโฮเซ่ง เกิดวิวาทคุมพวกทั้ง 2 ฝ่ายออกสู้รบกัน พวกโฮเซ่งสู้รบพวกหงี่หิ้นไม่ได้ ถอยเข้าไปในตึกปิดประตูกักไว้ พวกหงี่หินเอาไม้กระทุ้งประตูตึกโฮเซ่ง พวกโฮเซ่งหนีไป พวกหงี่หิ้นเข้าเอาทรัพย์ในตัวตึก ...”
จากประโยค ๕ ๑๓ฯ๔ ค่ำ ปีมะเส็งตรีศก ทำให้สามารถระบุวันได้ ว่าเป็นวัน พฤหัสบดี ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 4 ปีมะเส็ง ตรีศก พอเทียบเคียงกับปฏิทินปัจจุบันจะตรงกับ วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม ค.ศ.1882 หรือ จุลศักราช 1243 ลงท้ายด้วย 3 จึงกลายเป็นตรีศก
ดังนั้นกลอนนี้ที่ถูกต้องอาจจะต้อง ท่องว่า
“ปีมะเส็งเดือนสี่ ตรีศก ถ้าวแก่บุนตกคิดอ่านทำการใหญ่ ถ้าวแก่ซูกุ้นหวุ่นไขว่ ดับห่อพายใหญ่แล่นเข้าค่าย”
คนต่างๆ เหล่านี้ มีอยู่จริงในเมืองตะกั่วป่า ในช่วงเวลาหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์ของเมือง พอให้ได้รับรู้และเข้าใจว่ากว่าจะเป็นเมืองตะกั่วป่า ต่างมีเรื่องราวให้เล่ามากมาย
ขอบคุณครับ
นายนุ
โฆษณา