18 ก.ค. เวลา 07:31 • ไลฟ์สไตล์
WealthMagik

รู้ก่อนได้วางแผนก่อน! สรุปรายการลดหย่อนภาษีครึ่งปี 2568

ใครที่เป็นฟรีแลนซ์ นักเขียน อินฟลูเอนเซอร์ นักวาด หรือมีอาชีพเสริมที่มีรายได้นอกเหนือจากเงินเดือนประจำคุณคือหนึ่งในกลุ่มที่ต้องยื่น ภ.ง.ด. 94 และแน่นอนว่าคุณสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีครึ่งปี 2568 ได้เช่นกัน การวางแผนตั้งแต่กลางปี ไม่เพียงแค่ช่วยลดภาระภาษี แต่ยังทำให้คุณไม่พลาดโอกาสใช้สิทธิให้ครบ วันนี้เรารวบรวมรายการลดหย่อนภาษีครึ่งปี 2568 ที่ควรรู้มาให้แล้ว
กลุ่มส่วนตัวและครอบครัว
  • ค่าลดหย่อนส่วนตัว 30,000 บาท สำหรับผู้มีเงินได้ทุกคน
  • ค่าลดหย่อนสำหรับคู่สมรส 30,000 บาท โดยที่คู่สมรสต้องไม่มีรายได้
  • ค่าลดหย่อนสำหรับบุตร คนละ 15,000 บาท โดยที่บุตรคนที่ 2 เป็นต้นไปที่เกิดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 ลดหย่อนได้คนละ 30,000 บาท
  • ค่าลดหย่อนสำหรับอุปการะบิดา มารดา คนละ 15,000 บาท โดยที่บิดามารดาต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี และมีอายุ 60 ปีขึ้นไป
  • ค่าลดหย่อนสำหรับอุปการะผู้พิการ ทุพพลภาพ คนละ 30,000 บาท โดยที่ผู้พิการต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี และต้องมีบัตรประจำตัวผู้พิการ
กลุ่มประกัน
  • ค่าเบี้ยประกันสุขภาพตนเองหักค่าลดหย่อนตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ต้องไม่เกิน 25,000 บาท
  • ค่าเบี้ยประกันชีวิตลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 95,000 บาท (เนื่องจากเงินที่จ่ายจริงจำนวน 10,000 บาทแรก เป็นค่าลดหย่อนได้เพียงครึ่งหนึ่ง เท่ากับ 5,000 บาท ส่วนอีก 90,000 บาทลดหย่อนได้เต็ม)
*ทั้งนี้เมื่อนำเบี้ยประกันสุขภาพ ประกันชีวิตและประกันแบบสะสมทรัพย์มารวมกัน จะลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 95,000 บาท ส่วนเงื่อนไขการใช้สิทธิ์คือจะต้องอนุมัติภายใน 30 มิ.ย. 2568 ก่อนถึงจะสามารถนำมาลดหย่อน ภ.ง.ด.94 ได้
  • ค่าเบี้ยประกันชีวิตของคู่สมรสที่ไม่รายได้สามารถหักค่าลดหย่อนได้ไม่เกิน 5,000 บาท
  • ค่าเบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา หักค่าลดหย่อนเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท ทั้งนี้ บิดามารดาของผู้มีเงินได้ต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี และไม่มีเงื่อนไขที่อายุของบิดามารดาต้องครบ 60 ปีขึ้นไป
กลุ่มเงินออมและการลงทุน
  • ค่าเบี้ยประกันแบบบำนาญ ลดหย่อนได้ตามจ่ายจริงสูงสุดไม่เกิน 15% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท
  • กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ลดหย่อนได้ตามที่ลงทุนจริงสูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
  • กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) ลดหย่อนได้ตามที่ลงทุนจริงสูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้แต่ไม่เกิน 300,000 บาท
  • กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (Thai ESGX) ลดหย่อนได้ตามที่ลงทุนจริงสูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้แต่ไม่เกิน 300,000 บาท
*เมื่อรวมค่าลดหย่อนของกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ และประกันบำนาญรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท
**ค่าลดหย่อนเงินที่สะสมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเอามาลดหย่อนตอนยื่น ภ.ง.ด.94 ไม่ได้ เนื่องจากการหักลดหย่อนเงินสะสมที่จ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพใช้สำหรับเงินได้ตามมาตรา 40(1) ซึ่งจะคำนวณภาษีเงินได้ตอนปลายปีเท่านั้น
กลุ่มกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ
ซื้อสินค้าหรือค่าบริการสินค้าและบริการที่มี e-Tax Invoice หรือ e-Receipt ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. – 28 ก.พ. 2568 สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนดังนี้
ส่วนที่หนึ่ง : หักลดหย่อนตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท สำหรับผู้ที่ซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบการที่จด VAT และ ไม่ได้จด VAT โดยต้องมีใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ 
(e-Tax Invoice)หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) เป็นหลักฐาน
ส่วนที่สอง : หักลดหย่อนได้เพิ่มอีกตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 20,000 บาทสำหรับผู้ที่ซื้อสินค้าหรือบริการ ดังต่อไปนี้
- ค่าซื้อสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP)
- ค่าซื้อสินค้าหรือบริการจากวิสาหกิจชุมชนที่ได้จดทะเบียนต่อกรมส่งเสริมการเกษตร
- ค่าซื้อสินค้าหรือบริการจากวิสาหกิจเพื่อสังคมที่ได้จดทะเบียนต่อสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม
กลุ่มบริจาค
  • ค่าลดหย่อนสำหรับบริจาคให้พรรคการเมือง สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
  • ค่าลดหย่อนสำหรับบริจาคเพื่อการศึกษา การกีฬา การพัฒนาสังคม และโรงพยาบาลรัฐ สามารถลดหย่อนได้ 2 เท่าของยอดบริจาค แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน
  • ค่าลดหย่อนสำหรับการบริจาคทั่วไป ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์
  • ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย ลดหย่อนได้ตามจริง แต่ไม่เกิน 95,000 บาท(เนื่องจากเงินที่จ่ายจริงจำนวน 10,000 บาทแรก เป็นค่าลดหย่อนได้เพียงครึ่งหนึ่ง เท่ากับ 5,000 บาท ส่วนอีก 90,000 บาทลดหย่อนได้เต็ม)
โฆษณา