สรุป Use Case จริง "ChatGPT Agent" ที่เพิ่งเปิดตัว ทำเรื่องง่ายแทนได้ ทั้งจองตั๋ว สั่งของ ทำสไลด์
ล่าสุด OpenAI เพิ่งเปิดตัว “Agentic AI” ให้ใช้งานได้บน ChatGPT ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะเหมือนเป็นการเปลี่ยนการทำงานของ AI จาก “ผู้ช่วยทำงาน” เป็น “ทำงานแทนได้”
เนื่องจาก Agentic AI คือ AI ที่สามารถทำงานได้อย่างอิสระ สามารถตัดสินใจเองได้ โดยที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องคอยชี้นำทุกเรื่อง
แล้ว Agentic AI ใน ChatGPT ที่เพิ่งเปิดตัวมีความสามารถอะไรที่น่าสนใจ และสามารถนำไปใช้งานในมุมไหนได้บ้าง ?
1. ความสามารถของ Agentic AI ใน ChatGPT
อธิบายง่าย ๆ ก็คือ เมื่อเราเริ่มใช้งานเครื่องมือ Agentic AI จะเหมือนกับว่าเราเปิดให้ ChatGPT สามารถเข้าถึง และสั่งงานบนอุปกรณ์ของเราได้
แต่จะไม่ใช่การเข้าไปควบคุมอุปกรณ์โดยตรง เพราะ ChatGPT จะทำงานบน “Visual Computer” ซึ่งเป็นเหมือนการจำลองคอมพิวเตอร์ของเราขึ้นมา
เพราะฉะนั้นผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องย้ายแอปพลิเคชันเพื่อสลับการทำงานอีกต่อไป เพราะสามารถสั่งงานทีเดียวบน ChatGPT ได้เลย
ยกตัวอย่างเช่น สั่งให้ ChatGPT ช่วย “ดูปฏิทิน ไปพร้อม ๆ กับช่วยสรุปการประชุมลูกค้า”
เมื่อสั่งงานเสร็จ ChatGPT จะดำเนินการผ่านคอมพิวเตอร์จำลอง ทั้งการเปิดดูปฏิทินไปพร้อมกับวิเคราะห์การประชุมไปพร้อม ๆ กันอย่างไหลลื่นตั้งแต่ต้นจนจบ
ที่น่าสนใจคือ เราสามารถควบคุมคอมพิวเตอร์จำลองนี้ได้ โดยเราสามารถขัดจังหวะ ควบคุม หรือหยุดการทำงานของ ChatGPT ได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ จากผลการทดสอบประเภทต่าง ๆ ก็ยังบ่งบอกได้อีกว่า Agentic AI ที่อยู่บน ChatGPT เป็นเครื่องมือที่เข้ามาทำงานได้ดีกว่า AI จากค่ายอื่น ๆ
โดย ChatGPT ทำงานบน Spreadsheet ได้คะแนนอยู่ที่ 45.5% เทียบกับ Copilot ทำงานบน Excel ที่ได้ 20.0%
แต่คะแนนที่ได้ก็ยังห่างกับการทำงานโดยมนุษย์จริง ๆ อยู่มาก เนื่องจากในผลการทดสอบการทำงาน ได้นำมนุษย์จริง ๆ เข้าไปทดสอบด้วย โดยคะแนนของมนุษย์จริง ๆ คือ 71.3%
เพราะฉะนั้น การทำงานที่ได้จาก Agentic AI จาก ChatGPT ก็ถือว่าดีที่สุดในเวลานี้ แต่ก็อาจยังต้องพึ่งพาการแก้ไขเล็ก ๆ น้อย ๆ จากมนุษย์เช่นกัน
2. ขั้นตอนการทำงาน และประโยชน์ของ Agentic AI ใน ChatGPT
สมมติเหตุการณ์ให้เห็นภาพการทำงานง่าย ๆ เช่น
เราสามารถสั่งให้ ChatGPT “จองร้านอาหารบุฟเฟต์ปิ้งย่างยอดนิยมใกล้สยามพารากอน และมีราคาไม่เกิน 500 บาท จำนวน 2 ที่นั่ง ช่วงเวลา 18:00 น.”
เมื่อเราสั่งงานเสร็จสิ้น เราก็สามารถปิดหน้าจอ หรือออกจาก ChatGPT ได้เลย
โดยที่ ChatGPT จะยังทำงานอยู่เบื้องหลัง ผ่านคอมพิวเตอร์จำลอง ที่จะเริ่มทำการค้นหาร้านปิ้งย่างจากเว็บไซต์ต่าง ๆ และจะตัดสินใจเลือกร้านที่มีความนิยมมากที่สุดในราคาไม่เกิน 500 บาท มาให้เราเลือก
เมื่อเราเลือกแล้ว ChatGPT ก็จะทำการจอง พร้อมกับบันทึกแจ้งเตือนลงในแอปพลิเคชันปฏิทินให้เราโดยอัตโนมัติ
อย่างไรก็ตาม ความสามารถของ Agentic AI จะเก่งมากแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และการสั่งงานของผู้ใช้งาน
โดยสิ่งที่อยากแนะนำเวลาใช้งาน Agentic AI คือ เมื่อสั่งงานควรอ้างอิงขั้นตอนตามความเป็นจริง ว่าเวลาที่เราได้ข้อมูลออกมาแล้ว เราจะนำไปใช้อย่างไรต่อ
เช่น หากเราหาข้อมูลเรื่องตั๋วเครื่องบินแล้ว เราจะสร้าง Meeting เพื่อคุยกับเพื่อนแล้วค่อยตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบิน หรือเพิ่มลงไปในสมุดบันทึกเพื่อนำไปแนะนำต่อให้คนรอบตัว
ซึ่ง Agentic AI นี้ ช่วยประหยัดเวลา และช่วยทำให้การตัดสินใจในการทำงานแต่ละอย่างของเราง่ายมากขึ้น ลองคิดภาพตามง่าย ๆ เช่น
- ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาบันทึกช่วงตั๋วเครื่องบินลดราคาในระยะเวลาต่าง ๆ
- ไม่จำเป็นต้องนั่งอ่านรีวิวร้านอาหารต่าง ๆ เพื่อให้ได้ร้านอาหารที่ดีที่สุด
- ไม่จำเป็นต้องเสียเวลารวบรวมข้อมูลบริษัทเพื่อทำงานวิจัย
- ไม่จำเป็นต้องเสียเวลานั่งทำงานนำเสนอ
พูดง่าย ๆ ได้ว่า จาก AI ที่ทำได้แค่หาไอเดีย ช่วยตอบคำถาม และสรุปข้อมูล
ตอนนี้ได้กลายเป็น AI ที่สามารถทำงานแทนได้หลาย ๆ เรื่องนั่นเอง
3. ขั้นตอนการใช้งาน
สำหรับผู้ใช้งานประเภท Pro, Plus และ Team สามารถเริ่มต้นใช้งานได้แล้ว ผ่านเมนูเครื่องมือในโปรแกรมสร้างข้อความ โดยเลือก “Agent” และเริ่มใช้งานได้เลย
ส่วนสำหรับผู้ใช้งานฟรีก็ต้องรออัปเดตกันอีกที
- 89
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
