Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
sansati ศานสติ
•
ติดตาม
28 ก.ย. เวลา 12:45 • การศึกษา
ภาชนะรองรับธรรม
คนบางคนมักชอบตำหนิ และโยนความผิดให้กับผู้อื่นหรือสิ่งอื่น แม้กระทั่งการเรียนธรรมะ ก็ยังโทษว่าธรรมะเป็นสิ่งที่เข้าใจยาก เข้าถึงยาก จึงไม่สนใจอยากที่จะเรียนรู้ และนำไปปฏิบัติ ทั้งๆที่เป็นประโยชน์อย่างมาก
จริงๆแล้วธรรมะมีทั้งระดับที่ใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป จนถึงในระดับสูง แล้วแต่ว่าคุณจะเข้าถึงธรรมได้มากน้อยเพียงใด และนำไปปฏิบัติใช้จริงได้มากน้อยแค่ไหน เพราะธรรมะแท้จริงแล้วนั้น เป็นอะไรที่เรียบง่ายธรรมดาที่สุด ดั่งคำกล่าวที่ว่า “ธรรมะ คือ ธรรมชาติ” ก็เพราะความเรียบง่าย สูงสุดคืนสู่สามัญนี่แหละ เรียบง่ายธรรมดา เป็นธรรมชาติ กลมกลืนไปซะจนคนส่วนใหญ่มองข้าม มองไม่เห็น
ธรรมะของแท้นั้นมีความบริสุทธิ์อยู่ในตัว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ธรรมะที่แท้จริงก็ยังเป็นธรรมะอยู่ดี ต่อให้เขียนอยู่บนผนังเก่าๆโทรมๆ อยู่บนหลังถุงกล้วยแขก หรือออกจากปากคนหยาบช้าลามก แม้กระทั่งพระทุศีล ก็ยังคงความบริสุทธิ์อยู่นั่นเอง
ธรรมะไม่ได้มีอยู่อยู่แค่ในใบลาน และอาจารย์สอนธรรมะก็ไม่ได้มีแค่ที่เป็นคน ต่อให้เป็นหมูหมากาไก่ ก็สามารถสอนธรรมะเราได้ เราเคยได้ยินคนเล่าว่า ท่านพุทธทาสมีหมาตัวหนึ่ง ชื่อว่า “อาจารย์” มันมักจะเดินตามท่านไปทุกๆที่ สาเหตุที่ตั้งชื่อมันว่าอาจารย์ เพราะมันสามารถเป็นอาจารย์สอนธรรมะได้ แสดงให้เห็นว่าธรรมะมีอยู่ในทุกที่ และอาจารย์สอนก็ไม่จำเป็นต้องเป็นคน
คำสอนอยู่ในธรรมชาติทั้งหมด หากมีปัญญาเข้าถึง แม้แต่ดินน้ำลมไฟก็เป็นอาจารย์สอนธรรมะได้ ดั่งคำกล่าวของหลวงปู่มั่นที่ว่า “ธรรมะมีอยู่ทุกหย่อมหญ้าสำหรับผู้มีปัญญา” เราควรจะอ่อนน้อมถ่อมตน น้อมนำธรรมะเข้าสู่จิตใจ โดยสังเกตธรรมชาติ หากยึดมั่นถือมั่นเต็มเปี่ยมไปด้วยอัตตา จะมองข้ามสิ่งเล็กน้อยที่อยู่ในธรรมชาติเหล่านี้ไป เรียกว่าใจบอดไม่เห็นธรรมนั่นเอง
สิ่งที่เราควรจะพิจารณาอีกอย่าง คือ ภาชนะที่ใช้รองรับธรรม “เพราะใจที่เหมาะแก่การรองรับธรรมนั้น มีลักษณะที่ซื่อสัตย์ อ่อนโยน มีเมตตา อ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ใช่ใจที่คิดคด หยาบกระด้าง อวดโอ่โอหัง เหตุด้วยว่าใจที่อ่อนโยนนั้น สามารถซึมซับธรรมะได้ดี เหมือนกับฟองน้ำ เมื่อธรรมะไหลผ่าน ส่วนใจที่หยาบกระด้างนั้น เหมือนหินอันกลมเกลี้ยง ธรรมะไม่อาจซึมซับได้เลย มีแต่จะไหลผ่านไปเท่านั้น :เพิ่มเติมและสรุปความ จากการเทศน์ของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม”
ธรรมะเป็นของกลาง ซึ่งทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ทว่ามีเพียงคนที่เปิดรับเท่านั้น ถึงจะได้รับธรรมะเข้าไปอยู่ในใจ ดั่งคำกล่าวของหลวงปู่มั่นว่า “อย่าลดละ ท้อถอยความเพียร ธรรมเป็นสมบัติกลาง และเป็นสมบัติของทุกคนที่ใคร่ต่อธรรม พระพุทธเจ้ามิได้ผูกขาดไว้แก่ผู้หนึ่งผู้ใดโดยเฉพาะ ต่างมีสิทธิครอบครองเป็นเจ้าของได้ ด้วยการปฏิบัติของตนด้วยกัน”
เพื่อการนั้น เราต้องทำตัวให้เป็นภาชนะที่เหมาะแก่การรองรับธรรม พึงทำได้ด้วยการขัดเกลาตัวเองให้สะอาดขึ้นเป็นลำดับด้วยศีล สมาธิ ปัญญา เริ่มต้นด้วยการรักษาศีล 5 อยู่เสมอ และตั้งอยู่ในสัมมาทิฏฐิ คือ การเชื่อถูก เห็นถูก เข้าใจถูก เปรียบเหมือนการติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูกต้อง แล้วจะนำมาซึ่งการพูด คิด ทำที่ถูกต้องด้วย สัมมาทิฏฐิจึงมีความสำคัญมาก
และการจะให้ธรรมะกับผู้ใดจะต้องพิจารณา ไม่งั้นก็จะเหมือนกับการยัดเยียด ป้อนข้าวให้กับเด็กเล็กๆ ซึ่งถ้าเขาไม่ต้องการกิน แม้จะยัดเข้าไปได้ ก็จะถูกคายออกมาอยู่ดี ดั่งคำสอนที่หลวงปู่มั่นกล่าวไว้ว่า “คนไม่สนใจธรรม ธรรมก็ไม่เข้าถึงใจคน จึงกลายเป็นคนก็สักว่าคน ธรรมก็สักว่าธรรม ไม่อาจยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ แม้คนจะมีจำนวนมาก และแสดงธรรมให้ฟังทั้งพระไตรปิฏก จึงเป็นเหมือนเทน้ำใส่หลังหมา มันสลัดออกเกลี้ยงไม่มีเหลือ ธรรมจึงไม่มีความหมายในใจของคน เหมือนน้ำไม่มีความหมายบนหลังหมา ฉันนั้น”
เรียนธรรมะไม่ยาก หากรู้จักเปิดประตูให้ธรรมะไหลเข้าไปสู่ใจ ถ้าใจปิดก็รับธรรมะไม่ได้ แม้จะอ่านพระไตรปิฎก หรือปฏิบัติธรรมอยู่ก็ตาม และหากอยากได้ธรรรมะต้องขัดเกลาใจตัวเอง วางใจให้ถูกในการศึกษาและปฏิบัติธรรม
อุปมาดั่งแก้วน้ำหากสกปรก ไม่อาจรองรับน้ำสะอาดไปดื่มกินได้ เพราะน้ำแม้สะอาดบริสุทธิ์เพียงไหน แต่พอลงไปอยู่ในแก้วที่สกปรก ก็ถูกปนเปื้อนด้วยความสกปรกเท่านั้น และน้ำในแก้วนั้นก็ไม่น่าบริโภคต่อไป มีแต่ต้องเททิ้ง ใจที่สกปรกเหมือนกระจกเป็นฝ้า ที่ถูกรมด้วยเขม่าน้ำมันทั้งดำทั้งเหนียว คราบสกปรกต่างๆฝังแน่นยาวนาน ตามภพชาติที่เกิดตาย
และมีแต่จะหนาแน่นขึ้น จึงไม่อาจรองรับธรรมอันบริสุทธิ์ได้ เนื่องจากถูกปนเปื้อนด้วยกิเลส ตัณหา อุปาทานครอบงำ ปรุงแต่งจิตจนเข้าใจธรรมะผิดเพี้ยนไป แทนที่จะเกิดสัมมาทิฏฐิกลับเกิดมิจฉาทิฏฐิขึ้นแทนที่ นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมคนทั้งหลายฟังธรรมอันเดียวกัน แต่เข้าถึงความลึกซึ้งของธรรมได้ไม่เท่ากัน หรือแม้กระทั่งเข้าไม่ถึงเลย แถมยังตีความไปในทางต่ำทำให้ตัวเองตกนรกได้อีก เพราะใจที่สกปรกและสะอาดไม่เท่ากัน ทำให้เกิดปัญญารู้แจ้งในธรรมไม่เท่ากันนั่นเอง
หากอยากเข้าถึงธรรม ก็ต้องทำความสะอาดแก้วน้ำของคุณก่อน อาจจะทำในจุดเล็กๆ เพื่อที่จะขยายไปในส่วนที่มันติดแน่นฝังลึกมาก ขั้นตอนแรกก็ขัดใจอย่างหยาบด้วยศีล ต่อมาก็ขัดอย่างละเอียดด้วยสมาธิ และล้างคราบออกไปอย่างหมดจดด้วยปัญญา ใจของคุณก็จะค่อยๆสะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากความเห็นผิด และความยึดมั่นถือมั่น จิตจะละเอียดขึ้น เหมาะแก่การรับธรรมอันละเอียดลึกซึ้ง ในขั้นสูงยิ่งๆขึ้นไปได้ แล้ววันหนึ่ง ในชาติใดชาติหนึ่ง หากบุญที่สั่งสมมากพอ ก็จะได้มีโอกาสหลุดพ้นไปจากสังสารวัฏอย่างถาวร
สิ้นสงสัยก็สิ้นสงสาร รู้แจ้งในธรรม
ศานสติ
ขอบคุณภาพจาก
https://www.pinterest.com/pin/58898707620472416/
พุทธศาสนา
การศึกษา
บทความ
1 บันทึก
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย