Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Top Ranking
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 12:55 • การศึกษา
รู้จักสมณศักดิ์ "สมเด็จพระราชาคณะ" ที่มาและความสำคัญของตำแหน่งพระสงฆ์ชั้นสูงสุด
ในสังคมไทย เรามักได้ยินคำว่า "สมเด็จ" นำหน้าชื่อพระเถระชั้นผู้ใหญ่หลายรูป ซึ่งบ่งบอกถึงตำแหน่งอันทรงเกียรติและเป็นที่เคารพสักการะอย่างสูง แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบถึงความหมาย ที่มา และความสำคัญของสมณศักดิ์ระดับ "สมเด็จ" อย่างถ่องแท้ บทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับตำแหน่ง "สมเด็จพระราชาคณะ" ซึ่งเป็นตำแหน่งพระสงฆ์ชั้นสูงสุดในฝ่ายบริหารของคณะสงฆ์ไทย
"สมเด็จพระราชาคณะ" คืออะไร?
สมเด็จพระราชาคณะ (อ่านว่า สม-เด็ด-พฺระ-รา-ชา-คะ-นะ) คือสมณศักดิ์ของพระภิกษุในพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทในประเทศไทย ที่ได้รับพระราชทานสถาปนาจากพระมหากษัตริย์ จัดเป็นตำแหน่งพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่มีลำดับชั้นสูงสุด รองจากตำแหน่ง สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพียงตำแหน่งเดียว
พระเถระผู้ดำรงสมณศักดิ์ชั้นนี้เปรียบเสมือน "เสนาบดีของคณะสงฆ์" มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการบริหารกิจการพระศาสนา โดยส่วนใหญ่จะทรงดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะใหญ่ ในหนต่างๆ (ภาค) ทั่วประเทศ เพื่อปกครองดูแลคณะสงฆ์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามพระธรรมวินัย กฎหมาย และระเบียบแบบแผนของคณะสงฆ์
ที่มาและประวัติศาสตร์ของสมณศักดิ์
ระบบการปกครองคณะสงฆ์โดยมีสมณศักดิ์นั้น มีรากฐานมายาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยได้รับอิทธิพลมาจากลังกา การพระราชทานสมณศักดิ์โดยพระมหากษัตริย์มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดระเบียบการปกครองสงฆ์ให้มีประสิทธิภาพ และเพื่อยกย่องพระเถระผู้มีคุณูปการต่อชาติและพระศาสนา
ในอดีต ตำแหน่ง "สมเด็จ" ยังไม่ได้เป็นสมณศักดิ์ชั้นสูงสุด แต่เมื่อมีการปฏิรูปการปกครองคณะสงฆ์ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ โดยเฉพาะในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ได้มีการจัดลำดับสมณศักดิ์ให้เป็นระบบระเบียบชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้ตำแหน่ง สมเด็จพระราชาคณะ กลายเป็นสมณศักดิ์ชั้นสูงสุดรองจากสมเด็จพระสังฆราชนับแต่นั้นเป็นต้นมา
การสถาปนาพระเถระขึ้นดำรงตำแหน่งนี้ จะต้องจารึกพระนามและราชทินนามลงใน "สุพรรณบัฏ" (แผ่นทองคำ) ซึ่งแสดงถึงเกียรติยศอันสูงสุดที่พระมหากษัตริย์ทรงยกย่อง
ลำดับชั้นและราชทินนาม
โดยธรรมเนียมแล้ว ตำแหน่งสมเด็จพระราชาคณะจะมีจำนวนจำกัด และมีราชทินนามที่ใช้สืบต่อกันมา ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะมี 8 ราชทินนามสำหรับพระฝ่ายมหานิกายและฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ดังนี้
สำหรับฝ่ายมหานิกาย:
• สมเด็จพระพุฒาจารย์
• สมเด็จพระมหาธีราจารย์
• สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์
• สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ปัจจุบันว่าง)
สำหรับฝ่ายธรรมยุติกนิกาย:
• สมเด็จพระมหาวีรวงศ์
• สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี
• สมเด็จพระวันรัต (โดยปกติเป็นตำแหน่งของฝ่ายธรรมยุต แต่ในอดีตเคยมีฝ่ายมหานิกายดำรงตำแหน่งนี้)
• สมเด็จพระญาณสังวร (เป็นราชทินนามพิเศษสำหรับสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19)
นอกจากนี้ ยังอาจมีราชทินนามพิเศษที่พระราชทานเป็นกรณีเฉพาะได้
คุณสมบัติและบทบาทหน้าที่
การที่พระเถระรูปใดจะได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องประกอบด้วยคุณสมบัติอันเพียบพร้อมหลายประการ ได้แก่:
• พรรษาสูง: มีอายุพรรษาในการอุปสมบทมายาวนาน
• ความรู้ความสามารถ: มีความแตกฉานในพระไตรปิฎกและศาสตร์ต่างๆ
• คุณธรรมและปฏิปทา: เป็นผู้มีศีลาจารวัตรงดงาม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของสาธุชน
• ผลงานเป็นที่ประจักษ์: มีคุณูปการอย่างสูงต่อการบริหารกิจการคณะสงฆ์ การเผยแผ่พระศาสนา การศึกษา และการพัฒนาสังคม
โดยสรุป ตำแหน่ง "สมเด็จพระราชาคณะ" มิใช่เป็นเพียงยศถาบรรดาศักดิ์ แต่เป็นเครื่องหมายแห่งคุณงามความดี ความรู้ความสามารถ และภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ในการธำรงรักษาและสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่พระพุทธศาสนาในราชอาณาจักรไทย การเข้าใจถึงที่มาและความสำคัญของสมณศักดิ์นี้ จะช่วยให้พุทธศาสนิกชนตระหนักถึงโครงสร้างการปกครองของคณะสงฆ์และให้ความเคารพต่อพระเถรานุเถระได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมสืบไป
#พระสมเด็จ #วัดไตรมิตร #พระธงชัย #สีกากอล์ฟ #ข่าวลือ #วงการผ้าเหลือง
สาระน่ารู้
ความรู้รอบตัว
การศึกษา
บันทึก
3
2
3
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย