Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องนี้เคยดูแล้ว
•
ติดตาม
19 ก.ค. เวลา 20:51 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
“Jurassic World Rebirth” 2025
เมื่อภารกิจลับที่เป็นความหวังของมนุษยชาติ
นำพาสุดยอดทีมมุ่งสู่ดินแดนดึกดำบรรพ์
แต่สิ่งที่รออยู่ อาจไม่ใช่แค่ไดโนเสาร์ธรรมดาเท่านั้น
Jurassic World Rebirth 2025
จูราสสิค เวิลด์ กำเนิดชีวิตใหม่ ภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ แนวผจญภัยไซไฟ ธีมโลกล้านปี ที่กำกับโดย Gareth Edwards ที่เคยฝากชื่อมาแล้วใน Godzilla 2014 และยังได้ David Koepp จาก Jurassic Park สองภาคแรกมานั่งแท่นเขียนบท โดยมีพ่อมดแห่งฮอลลีวูดอย่าง Steven Spielberg มารับตำแหน่ง Executive Producer
เรื่องราวของโลกยุคใหม่ ที่ไดโนเสาร์กลายเป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวไม่ต่างจากสวนสัตว์ จนเกิดภัยธรรมชาติที่ทำให้พวกมันค่อยๆล้มตาย ทว่าทีมวิจัยได้ค้นพบวิธีรักษาโรคหัวใจ แต่จำเป็นต้องใช้ DNA ไดโนเสาร์ 3 สายพันธุ์ ที่มีชีวิตอยู่บนเกาะต้องห้ามเท่านั้น สุดยอดทีมอย่าง โซรา (Scarlett Johansson), ดันแคน (Mahershala Ali) และ ดร.ลูมิส (Jonathan Bailey) จึงได้เดินทางไปยังเกาะแห่งนี้ โดยมีความหวังของมนุษยชาติเป็นเดิมพัน
สารภาพตามตรงเลยว่า นอกจาก Jurassic Park ภาคแรกที่ดูตั้งแต่เด็กจนแผ่นเป็นรอย (ดักแก่) ก็ไม่เคยได้ตามดูแฟรนไชส์ของ Jurassic อีกเลย คือไม่ใช่ไม่ชอบหนังไดโนเสาร์นะ แต่ตอนที่เริ่มดูหนังจริงจังมันดันมีแนวอื่นอีกมากมายที่น่าสนใจเต็มไปหมด ซีรี่ส์ Jurassic ก็เลยถูกเก็บเข้ากรุไป จนได้มีโอกาสมาดูอีกทีก็ภาคนี้ในโรงนี่แหละ!
ซึ่งต้องบอกเลยว่าความรู้สึกระหว่างดูตลอดทั้งเรื่องมันว้าวมาก ทั้งงานภาพ แสงสีเสียง ที่เหมือนได้พาตัวเองไปติดอยู่ในเกาะล้านปีร่วมกับทีมตัวเอก ความรู้สึกในวัยเด็กได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง คิดถูกจริงๆที่มาดูในโรง บรรยากาศในเกาะก็คือสวยมาก ทั้งซีนในป่า ทั้งซีนทะเล เพิ่งรู้เหมือนกันว่ามีบางฉากที่มาถ่ายที่ไทยเราด้วย
เพราะส่วนตัวอาจไม่ค่อยได้ดูหนังแนวนี้มานาน หนังเลยทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ได้ผจญภัยเปิดโลกที่ไม่ค่อยได้เห็น เผลออมยิ้มทุกครั้งที่มีฉากไดโนเสาร์โผล่มา และภาคนี้มีการดัดแปลงพันธุกรรมข้ามสายพันธ์ ทำให้น้อนๆ ที่ออกมานั้นดูแปลกใหม่ แต่แอบเสียดายที่ตัวหนังให้น้ำหนักกลุ่มตัวเอกมากไปหน่อย เลยออกไปทางหนังผจญภัยมากกว่าหนังไดโนเสาร์
ถ้าไม่ติดเรื่องบทพูดที่ค่อนข้างยืดเยื้อและไม่จำเป็นในบางฉาก Jurassic World Rebirth ก็ถือว่าทำได้ดี สอบผ่านได้สบาย ต่อให้ไม่ใช่คอหนัง Sci-fi Adventure ก็เอ็นจอยได้ไม่ยาก ให้อารมณ์แบบมาพักผ่อนในเกาะล้านปี ได้ตื่นตาตื่นใจไปกับเดอะแก๊งไดโนเสาร์ แต่ในบรรดาหลายๆตัวที่สลับซีนกันโผล่ตลอดทั้งเรื่อง เจ้าโดโรเลสของอีน้องเบลลา (Audrina Miranda) คือแย่งซีนสุด! น่ารักมากกกก
Dolores
อีกเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือครอบครัวอลเวงที่ร่องเรือมาล่มจนได้ร่วมหัวจมท้ายไปกับทีมพระเอก รู้สึกว่ากลุ่มนี้ขาดสเน่ห์ไปหน่อย บางฉากก็น่ารำคาญ จริงๆไม่ต้องใส่มาในหนังก็ได้ ส่วนทีมตัวเอกของ สการ์เลตต์ ก็ราคาคุยเกิ้นนน ถ้าไม่นับตัวหลักๆ แต่ละคนคืออนาถแท้ ราศีตัวประกอบจัด (ก็ตัวประกอบจริงๆ!) แค่เปิดเรื่องมาก็รู้ชะตากรรมแล้วว่า.. แกไม่รอดแน่!
นอกจากพล็อตที่ค่อนข้างจะเดาได้ง่ายและดุเหมือนจะปูทางไปสู่ภาคต่อ ส่วนตัวให้เลยว่าหนังสนุก ดูเพลิน ไม่มีเบื่อหรือหลับคาโรงแน่นอน ใครที่เป็นแฟนหนังไดโนเสาร์หรือสาวก Jurassic อยู่แล้วน่าจะชอบ แต่ถ้าเทียบกับภาคก่อนๆก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าดีกว่าหรือด้อยกว่ายังไง ไว้มีเวลาว่างๆจะไปไล่เก็บแล้วกัน
สำหรับหนังไดโนเสาร์ครั้งแรกในรอบหลายสิบปี Jurassic World Rebirth ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว ใครที่มีลูกเด็กเล็กแดงหรืออยากหาหนังสนุกๆสักเรื่องผ่อนคลายในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เรื่องนี้บอกได้เลยว่าไม่ผิดหวัง แนะนำให้รีบไปตำก่อนออกโรง
ปล.ความสนุกลุ้นระทึกจะลดลงแน่นอน ถ้ารอดูผ่านแพลตฟอร์มจอเล็กๆ หนังบล็อกบัสเตอร์แนวนี้มันต้องจอใหญ่เบิ้มในโรงเท่านั้นจริงๆ!
ภาพยนตร์
รีวิวหนัง
ไดโนเสาร์
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย