Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เขียนไว้ให้เธอ
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
20 ก.ค. เวลา 01:01 • ความคิดเห็น
เพราะฉันไม่ดีหรือเพราะเธอเปลี่ยนไป
ปัญหานักท่องเที่ยวจีนมาไทยน้อยลงเรื่อยๆ และดูจะเป็นปัญหาถาวรไปแล้วนั้น ก่อนจะแค่ประชดว่าก็ช่างเขา เราไม่จำเป็นต้องง้อ มีตลาดอื่นอีกมากมาย
2
ถ้าลองส่องดูสาเหตุดีๆ ก็อาจจะเจอรากของปัญหาอื่นปะปนอยู่ในนั้นอีกมากก็เป็นได้…
ผมเพิ่งได้สนทนากับน้องเฟิร์นที่ทำธุรกิจไปมาอยู่เมืองจีน มีบริษัทอยู่ที่จีนด้วย ล่าสุดก็ไปอยู่จีนมาครึ่งปี อย่างที่รู้ๆ กันว่าคนจีนมองไทยว่าน่ากลัว มีทั้งหลอกเรื่องคอลเซนเตอร์ จีนเทาเต็มเมืองไทย ข่าวตึกถล่ม
มีเรื่องข่าวลือน่ากลัวต่างๆ มากมาย จนภาพลักษณ์ทรุดลงและกระทบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่รู้สึกว่าเมืองไทยไม่ปลอดภัยและมีทางเลือกอื่นเช่นเวียดนามขึ้นมาทดแทน..
1
ผมชวนเฟิร์นผู้ที่พบเจอ ทำธุรกิจที่จีนและไปๆมาๆจีนในรอบหลายปีที่ผ่านมา ให้วิเคราะห์ถึงรากเหง้าของปัญหาว่าเกิดจากอะไรกันแน่ ทำไมอยู่ดีๆ แค่สามปี ภาพลักษณ์ไทยที่เคยดูดี ดูปลอดภัย ดูน่าเที่ยวถึงพังทลายลงในสายตาคนจีนได้ขนาดนี้
เฟิร์นเล่าให้ฟังว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เมืองจีนเจริญขึ้นมากและมีความมั่้นใจในชาติของตัวเองอย่างที่สุดเพราะเกิดจากความเอาจริงของภาครัฐและทำได้จริงในหลายๆเรื่อง ในช่วงโควิดก็คิดวัคซีนได้ก่อน คุมโรคได้ดี เก่งขนาดสร้างโรงพยาบาลหนึ่งแห่งได้ภายใน 22 ชั่วโมงในช่วงนั้น
นอกจากโครงสร้างพื้นฐานที่เจริญขึ้นแล้ว คนจีนเองในเวลาไม่กี่ปีก็เคารพกฎ มีวัฒนธรรม เคารพกฏระเบียบมากขึ้นมาก การเข้าคิวยาวๆ ไม่แซงคิว กลายเป็นเรื่องปกติ เป็นต้น
6
อันนี้ใครอยากเถียงว่าไม่จริง และไม่ได้ไปเมืองจีนหลายปีแล้ว ก็ขอให้ไปเที่ยวจีนซักเมืองแล้วค่อยวิพากษ์ก็จะดีนะครับ…
2
นอกจากนั้น รัฐบาลจีนยังเอาจริงเอาจังกับการปราบคอร์รับชั่นอย่างหนัก ถ้าไปเสิร์ชแชตจีพีทีก็จะเห็นลิสต์ยาวเหยียดถึงการลงโทษตั้งแต่ระดับติดคุกจนประหารชีวิต กฏเข้มที่ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐใส่แบรนด์เนม ห้ามมีรถหรู ห้ามใช้ชีวิตฟู่ฟ่า ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประชาชน ถึงกับทำให้ยอดแบรนด์เนมตกหนักในจีน
3
ตอนที่ไปปักกิ่งรอบก่อน คมสันต์ ลี แห่ง Flash ผู้อยู่ที่ปักกิ่งเป็นหลักก็เล่าถึงร้านคาราโอเกะที่เจ๊งไปเกือบหมดเพราะข้าราชการไม่กล้าเที่ยวกันหมด
ความจริงจังของการปราบโกงนั้น เป็นกันทั้งประเทศ ล่าสุดมีเคส ลูกสาวเจ้าหน้ารัฐระดับสูงเกษียณแล้วที่เสฉวนลงรูปใส่ตุ้มหู แล้วมีโซเชียลไปส่องราคา พบว่าราคาแพงผิดปกติ
แป๊บเดียว เจ้าหน้าที่ผู้นั้นถูกสอบสวนอย่างหนัก ลามไปถึงเพื่อนร่วมงานทั้งหมดและพบว่าเคยทุจริตสมัยแผ่นดินไหว โดนลงโทษหนัก ติดคุกติดตารางกันทั้งคณะ
3
เฟิร์นเองเพิ่งไปลั่วหยางแล้วโดนแท็กซี่ไม่กดมิเตอร์ ท้าทายให้ไปแจ้งตำรวจเพราะคิดว่าเป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่ประสีประสา เฟิร์นก็ไปแจ้งที่ป้อม ตำรวจคีย์ทะเบียนรู้เลยว่ารถอยู่ตรงไหน ภายในห้านาที (ห้านาทีเป๊ะๆเพราะตำรวจบอกเวลาเลยตอนที่ไปแจ้ง) ก็ลากตัวแท็กซี่มาลงโทษได้
6
เฟิร์นบอกว่าแค่เคสนี้มีรถตำรวจห้าคันกับรถที่ัขังผู้ต้องหาได้อีกหนึ่งคันขับมา เล่นใหญ่มาก เพราะว่าคดีที่โน่นน้อยยิ่งกว่าน้อย และเทคโนโลยีล้ำสมัยไปมาก ตำรวจเลยไม่ได้มีคดีมากนัก
1
เฟิร์นเล่าว่า เดี๋ยวนี้แค่ฟุตบาทเผยอขึ้นมา มีคนร้องเรียน ผู้รับเหมาก็โดนลงโทษแล้ว…
2
ค่านิยมของการเกลียดการคอร์รัปชั่น ฉ้อฉล เอาเปรียบเลยกลายเป็นค่านิยมใหม่ของคนจีน พอได้ข่าวเดิมๆ ของไทยที่มีมานาน ยังมีอยู่และมีต่อไปทั้งด้านการโกงนักท่องเที่ยว อภิสิทธิ์ต่างๆ
เรทการ์ดของตำรวจ อันตรายจากการหลอกลวงทุกรูปแบบ
2
ความขยะแขยงในเรื่องพวกนี้ก็กระทบภาพประเทศไทยหนักขึ้นเรื่อยๆ ว่าเป็นประเทศขี้โกงในทุกเรื่อง เป็นความไม่ชอบใจที่ขัดกับความเชื่อใหม่ของสังคมเขา
2
ที่สิงคโปร์เคยมีกรณีจีนเทาขนทรัพย์สินผ่องถ่ายเข้าประเทศ รัฐบาลสิงคโปร์ไล่จับ ยึดทรัพย์ ประจานเลย จีนเทาก็ไม่กล้าเข้าไป แต่ที่เมืองไทยเป็นที่รู้กันในหมู่คนจีนปกติว่าคนไม่ดีบ้านเขาอยู่บ้านเราเต็มไปหมด
5
ความกลัวเรื่องนี้ก็เป็นสาเหตุหนึ่ง ผสมกับความไม่ชอบใจ ขยะแขยงกับความโกงเล็กโกงน้อยที่เหมือนเดิม ที่ไม่จำเป็นก็ไม่อยากมาไทย
1
ไม่ใช่เพราะเราทำอะไรต่างไปจากเดิม แต่เขาเปลี่ยนไปต่างหาก…
1
ความ “เหมือนเดิม” ของไทย ไม่ได้มีอะไรที่ปรับปรุงไปจากเดิมในช่วงสามสี่ปี สำหรับเราดูเหมือนจะไม่ได้นานอะไรด้วยความคุ้นชิน แต่ที่จีนนั้น การมาอัมพวาที่เคยน่าตื่นเต้น กลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ
เพราะหลายปีที่ผ่านมานี้ รัฐบาลจีนสร้างแหล่งท่องเที่ยวระดับ 4 ดาว เยอะขึ้นมาก (5 ดาวคือระดับกำแพงเมืองจีน)
เฟิร์นบอกว่าแหล่งท่องเที่ยวระดับ 4 ดาวนั้นมีรถไฟฟ้าลงถึงเกือบทุกที่ สถานที่ท่องเที่ยวริมน้ำแบบอัมพวามีเต็มไปหมด ทั้งเยอะ ทั้งใหญ่กว่า และสะดวกกว่า ลองคิดภาพถึงอัมพวาจิ๋วเดียว ไปก็ยากดู ก็จะพอเข้าใจชัดเจน
1
มีนักธุรกิจส่งออกที่เพิ่งไปจีนมา ก็บอกว่าช่วงนี้มีคลิปเรื่องความไม่ค่อยสะอาดของ street food ไทยในจีนมากขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นกระทบภาพลักษณ์อาหารไทยเข้าไปอีก
นักธุรกิจส่งออกอาหารคนนี้ถึงกับบอกว่าช่วงนี้อะไรไทยๆไม่ค่อยบวกนัก เคยทำขนมกรอบรสต้มยำกุ้งก็เลยเปลี่ยนเป็นชิลลี่แอนด์ไลม์แทน เพราะอะไรที่ไปเตือนว่าเป็นของไทยดูจะมีภาพลบมากกว่าบวกในตอนนี้
ทั้งหมดทั้งปวงไม่ใช่เพราะเรามาตรฐานแย่ลง แต่เพราะมาตรฐานเขาดีขึ้นต่างหาก…
1
เฟิร์นบอกว่า คนจีนที่เคยมาไทย ไม่ได้กลัวไทยเท่าไหร่ แต่คนจีนที่ไม่เคยมานั้นกลัวประเทศไทยมากๆในด้านความปลอดภัย เฟิร์นเคยเอ่ยปากเล่นๆ ชวนคนรู้จักใหม่ๆ ว่ามาไทยมาค้างบ้านไอได้นะ
คนจีนก็ไปแอบกระซิบว่า ไม่กล้าหรอก กลัวโดนตัดไต พ่อแม่ก็ไม่อยากให้ลูกไป กลัวถูกลักพาตัวไปคอลเซนเตอร์
2
นอกจากกลัวเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังกลัวเรื่องกัญชาอย่างมากด้วย มีคำเตือนเต็มโซเชียลว่ากินดื่มอะไรต้องระวังเพราะบางทีมีกัญชาปนเพราะกัญชาถูกกฎหมายในไทย
2
คนจีนกลัวพลาดแล้วกลับไปประเทศเขา โดนตรวจเจอโดนเข้าคุกหัวโต การมาเมืองไทยถึงเป็นเรื่องเสี่ยงภัย เสี่ยงอันตรายไปเสียอย่างนั้น
ข่าวสารบ้านเราก็เป็นแหล่งข่าวชั้นดีให้สำนักข่าวจีนแปล เฟิร์นบอกว่า ประเทศเราชอบเล่นข่าวดราม่า ข่าวอาชญากรรม ล่าสุดก็เรื่องพระ เรื่องเขมร ประเทศอื่นไม่ค่อยมีข่าวแบบนี้
2
สำนักข่าวจีนก็แปลข่าวแปลกๆในสายตาเขาไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์เราป่นปี้ซ้ำๆ ต่อไปอีก
ไม่ใช่เพราะว่าเราเพิ่งมีข่าวดราม่าอะไรใหม่ๆ แต่โลกโซเชียลมันเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมเช่นกัน…
เฟิร์นไม่ได้มีแค่บทวิเคราะห์ แต่ก็มีคำแนะนำที่ดีสำหรับภาครัฐไทยว่า ที่จีนนั้นเมืองหลักๆนั้นมี 3 tier
tier หนึ่งคือเมืองอย่างปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว ที่กงสุลไทยอยู่และจัดงานชวนเที่ยวไทยบ่อยๆ จะชวนคนจีนกลุ่มนี้ยากขึ้นมาก
เราควรไปเน้น tier 2 เช่น คุนหมิง ลั่วหยาง หนานหนิง หรือ tier 3 ที่ชื่อเมืองที่เราไม่คุ้นอาจจะมีผลลัพธ์ที่ดีมากกว่า เพราะกลุ่ม tier 1 นั้นมาตรฐานสูงเกินความคาดหวังที่ไทยจะทำได้ไปพอสมควร
นอกจากนั้น ในภาคการศึกษา ก็ยังมีโอกาสอยู่ในกลุ่มโรงเรียนนานาชาติ เพราะคนจีนจำนวนไม่น้อยที่พอมีสตางค์ ไม่อยากให้ลูกเหนื่อยในระบบการศึกษาปกติ ก็จะนิยมส่งลูกเรียนอินเตอร์ต่างประเทศ
มีเงินมากหน่อยก็ส่งไปยุโรป รองลงมาก็สิงคโปร์ ฮ่องกง รองลงมาอีกก็ไทย ซึ่งก็ยังเป็นที่ยอมรับในมาตรฐาน และที่สำคัญถูกกว่าเรียนอินเตอร์ที่จีน 50% แต่ต้องมีหอใน เพราะพ่อแม่จีนห่วงเรื่องความปลอดภัยอีกเช่นกัน
3
ท้ายสุด เฟิร์นตั้งข้อสังเกตว่า คนไทยชอบนินทารัฐบาลว่าทำไมไม่ทำโน่นทำนี่ ผิดหวังหงุดหงิดมาตลอดแต่เวลาคุยกับนักธุรกิจจีน เขาจะบอกว่าจะไปคิดแทนรัฐบาลทำไม เพราะคนเก่งที่สุดของจีนนั้นช่วยคิดแทนอยู่แล้ว
1
รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ คือเป็นคนระดับท็อปของประเทศ คณะที่ปรึกษาคือเทพหมด คอยวางแผนและคิดหาทางออก และนโยบายใหม่ๆ ที่พัฒนาประเทศตลอดเวลา ไม่เห็นต้องไปคิดแทนรัฐบาลเลย
3
มองกลับมาที่ระบบการเมืองบ้านเราที่ระยะหลังคือไม่เคยได้คนเก่งเป็นเจ้ากระทรวง ได้แต่ใครก็ไม่รู้มา เพราะกลายเป็นสมการคณิตศาสตร์การเมืองและการแบ่งเค้กของนักการเมืองไปจนหมด
3
ฟัง update จากน้องสาวที่เพิ่งกลับจากจีนหลังจากไปอยู่มาครึ่งปีล่าสุด ฟังแล้วก็มองดูละครแล้วย้อนดูตัว ก็แสบๆ คันๆไม่น้อย และก็น่าคิดต่อเป็นบทเรียนภาคธุรกิจได้ว่า การอยู่กับที่นี่คือเท่ากับถอยหลังจริงๆ
แม้แต่ปรับตัวแล้ว แต่ปรับไม่ทันการเปลี่ยนแปลงภายนอก ก็เอาไม่อยู่เช่นกัน เป็นบทเรียนจากตัวอย่างจริงที่แสนจะเจ็บปวด เพราะเป็นตัวอย่างของประเทศเราเอง
2
ส่วนในระดับภาครัฐ ทีมไทยแลนด์ ครม ที่ยังเหมือนเดิมไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัย ยังต้องระแวงกับเจ้ากระทรวงของเราทั้งความสามารถและความไม่ไว้ใจนั้น……………..
(เติมคำในช่องว่างกันตามสะดวกนะครับ)
31 บันทึก
88
7
103
31
88
7
103
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย