ถึง...นักอ่านโพสต์ทุกๆ ท่าน นะคะ📬
วันนี้ วันที่ 20 ก.ค 68🗓
เนื่องจาก...ทางผู้เขียนเป็นคนที่ชอบศึกษาและชอบอ่านแนวกรณีศึกษา Case Study ค่อนข้างมากค่ะ อาจจะได้รับการฝึกฝนมาจากที่ผู้เขียนได้เข้าไปเรียนปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อ 3 ปีที่แล้ว และคิดว่าเคสต่างๆ ที่เราได้อ่านและศึกษามาสามารถนำมาใช้แก้ปัญหาในด้านต่างๆ ได้เป็นอย่างดีค่ะ
เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ!!! จากที่ผู้เขียนได้โพสต์ไปด้วยคำถามที่เราหลายๆ คน บ้างก็แอบสงสัยกันบ้างล่ะน่ะ ว่า เอ๊ะๆๆ!! ถ้าฉันอยากจะขายของกิน อาหาร ขนมนมเนยแล้วฉันจำเป็นต้องมีสิ่งเหล่านี้เลยไหมนะ แอบนอยด์ใหญ่ๆ เลย เพราะ Checklist ที่เราต้องทำ มันค่อนข้างใช้เงินลงทุน💸ค่อนไปทางสูง ถ้าจะทำทีเดียว ซึ่งผู้ประกอบการรายย่อย เช่น SME หรือ Start up อาจจะยังไม่สามารถทำทีเดียวได้เรียบร้อยทั้งหมดในคราวเดียวได้ค่ะ
✅️Checklist ที่ว่าแบบเข้าใจง่าย มีดังนี้ค่ะ
- 1.โรงงานผลิตที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงาน เช่น ISO 22000, GMP, HACCP เป็นต้น
- 2.ขออนุญาตฉลาก อย., ฉลากโภชนาการ ฉลากอื่นๆ อีกมากมาย
- 3.ใบรับรอง หรือ เอกสารการอนุญาตจากหน่วยงานต่างๆ
แล้ว...แล้วฉันจะทำอย่างไรได้บ้างล่ะ!!!🤔
ไม่ยากค่ะ ทางผู้เขียนใช้หลักการนี้ในการอธิบายให้ผู้ประกอบการเข้าใจแบบง่ายๆ แบ่งย่อยออกมาจากภาษากฏหมายให้เรียบร้อยแล้วค่ะ
นั่นคือ!!! แบ่งออกตามช่องทาง🪟 การวางขายสินค้า ยังไงล่ะคะ😁
ส่วนคำสรรพนามหรือบทบาทของตัวละคร ขออนุญาตใช้เป็น "ผู้ขายกับผู้บริโภค" นะคะ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันให้สอดคล้องกับภาษากฏหมายและสามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจได้ค่ะ ✍️📚
✅️ช่องทางการขายสินค้าโดยตรงแบบตัวต่อตัว เช่น ร้านค้า, ตลาด, งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ พื้นขายที่อื่นๆ ที่มีผู้ขายหรือผู้นำเสนอยืนให้ข้อมูลของสินค้าได้โดยตรงกับผู้บริโภค
➡️เหตุผล เพราะว่าสินค้าที่ผู้ขาย ขายตรงให้กับผู้บริโภคโดยตรง จะสามารถใช้ตัวผู้ขายทำหน้าที่แทนหรือรับบทบาทนั้นแทนตัวฉลากค่ะ
✅️ช่องทางการขายสินค้าแบบผู้ประกอบการมีร้านอาหารและเครื่องดื่มเป็นของตัวเอง
➡️เหตุผล คล้ายๆ กับช่องทางแรกค่ะ ผู้ขายสามารถให้ข้อมูลกับผู้บริโภคได้โดยตรง ซึ่งช่องทางนี้ ค่อนข้างเหมาะสมกับผู้ประกอบการที่อยากจะขยายสินค้าให้มีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น เช่น ขายอาหารอยู่แล้ว ฉันอยากขายขนมด้วยล่ะ!!! สามารถทำได้ค่ะ ทดลองตลาดผ่านช่องทางนี้ได้เลย โดยที่ยังไม่ต้องขออนุญาตฉลากก่อน ทำไปซักพักขายดี เออว่ะ!! ขายดี ก็สามารถนำมาลงทุนขยายผลต่อโดยกลับไปที่ Checklist ที่ให้ไว้ได้เลยค่ะ🤩
✅️ช่องทางการขายสินค้าแบบออนไลน์ สำหรับช่องทางนี้ขออนุญาตแนะนำเป็น การขายอาหารผ่านเดลิเวอร์รี่ นะคะ เช่น Grab, Lineman
➡️เหตุผล ผู้ขายสามารถขายสินค้าหรือปรุงอาหารและเครื่องดื่มให้กับผู้บริโภคแบบโดยตรง Order by Order สำหรับลูกค้าแต่ละคน รวมถึงสามารถให้ข้อมูลกับผู้บริโภคได้โดยตรงเช่นกัน อาจจะเป็นการโทรศัพท์คุยรายละเอียดกัน หรือ ชิทแชทหากันค่ะ
❌️ส่วนช่องทางอื่นๆ ไม่แนะนำค่ะ เช่น Shopee, Lazada, Amazon (เผื่อว่าเอ๊ะ!!! อยากขายสินค้าไปต่างประเทศ) เพราะไม่สามารถขายได้ ถ้าหากไม่มีฉลากสินค้ามาคีย์ในระบบของเขาค่ะ
🌈🎉✍️ผู้เขียนหวังว่า...น่าจะพอเป็นแนวทางให้กับผู้ประกอบการ SME หรือ Start up นำไปปรับใช้งานกันได้แบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อนมากมายอะไรนะคะ
👉🏼รับปรึกษางานด้านกฏหมายอาหารและการขึ้นทะเบียน อย. (อาหารและเครื่องดื่ม)
👉🏼รับปรึกษางาน ราคาสบายๆ กระเป๋า เข้ากับสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ค่ะ เริ่มต้นที่ 500 บาท ถามคำถามได้ไม่จำกัดครั้ง
👉🏼https://fastwork.co/user/c6ueesd9/fda-registration-40852522?source=app_seller-center_my-service_share-link
#fastwork
#รับปรึกษางานด้านกฏหมายอาหารและการขึ้นทะเบียนอย. (อาหารและเครื่องดื่ม)
👉🏼แหล่งอ้างอิงของข้อมูล : พระราชบัญญญัติอาหาร พ.ศ 2522 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ที่กำหนดให้อาหารที่ไม่ต้องแสดงฉลาก
👉🏼https://oryor.com/media/men/media_printing/2355
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
