🔰ความก้าวหน้าในการรักษาโรคความดันโลหิตสูง: จากแนวทางปฏิบัติสู่ยาใหม่
สถานการณ์ความดันโลหิตสูงในปัจจุบัน
- เกณฑ์การวินิจฉัย:
- สหรัฐอเมริกา: ≥130/80 mmHg
- ยุโรป ไทย: ≥140/90 mmHg
- สถิติน่าตกใจ:
- 48.1% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ มีความดันโลหิตสูง
- มีเพียง 20-29% ที่ควบคุมความดันได้ดี
- ผลกระทบรุนแรง:
- เสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง
- ทำลายอวัยวะสำคัญเช่น ไต และตา
แนวทางการรักษาแบบเดิม
✅ ยาลดความดันกลุ่มแรก:
- ยาขับปัสสาวะ
- ACE inhibitors / ARBs
- Calcium channel blockers
.
✅ การรักษาแบบผสมผสาน:
- ใช้เมื่อความดันโลหิตเกินเป้าหมายมากกว่า 20/10 มม.ปรอท
และควรพิจารณาสำหรับผู้ป่วยที่มีความดันโลหิต ≥140/90 มม.ปรอท
- การใช้ยา 2 ชนิดร่วมกันจะทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และทนต่อยาได้ดีขึ้น เมื่อเทียบกับการใช้ยาชนิดเดียวในปริมาณสูง
- ไม่แนะนำให้ใช้ยา Beta blockers และ mineralocorticoid receptor antagonists เป็นการรักษาเบื้องต้นสำหรับความดันโลหิตสูง แต่ยังคงเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีข้อบ่งชี้ทางคลินิกเฉพาะ
- ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงจะมีโรคร่วมอื่นๆ เช่น เบาหวาน โรคอ้วน โรคไต หรือโรคหัวใจ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาความดันร่วมกับยาเฉพาะโรคอื่นๆ
.
.
🔸อัตราการเกิดความดันโลหิตสูงที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการควบคุมความดันที่ทำได้ไม่ดี ตอกย้ำถึงความจำเป็นในการรักษาความดันโลหิตสูงแบบใหม่ที่มุ่งเป้าไปที่กลไกการออกฤทธิ์ทางเลือก แม้จะมีการรักษาด้วยยาที่หลากหลาย แต่ผู้ป่วยจำนวนมากยังคงไม่สามารถควบคุมความดันโลหิตได้อย่างเพียงพอ
🔸เกือบ 20% ของผู้ที่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมจัดอยู่ในกลุ่มความดันโลหิตสูงที่ดื้อยา ที่ความดันโลหิตสูงกว่าเป้าหมายหลัก (≥130/80 มิลลิเมตรปรอท) แม้จะใช้สูตรยาลดความดันโลหิต 3 ชนิดหรือมากกว่า (รวมถึงยาขับปัสสาวะ) ในขนาดสูงสุดที่ผู้ป่วยสามารถทนได้
🔸ยาที่ได้รับการอนุมัติใหม่ และยาที่อยู่ระหว่างการทดลองในระยะท้ายมีเป้าหมายเพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้
💊ยาตัวใหม่ล่าสุด
1. Aprocitentan (TRYVIO™):
- กลุ่ม Endothelin receptor antagonist
- สำหรับผู้ป่วยความดันดื้อต่อการรักษา
- ลดความดันได้ประมาณ 4 mmHg
- ข้อควรระวัง: บวมน้ำ และอันตรายต่อทารกในครรภ์
2. ยาสูตรผสม (Widaplik™):
- Telmisartan + Amlodipine + Indapamide
- ช่วยเพิ่มการกินยาอย่างสม่ำเสมอ
- มี 3 ระดับความแรง สามารถปรับขนาดยาตามผู้ป่วย
3. Lorundrostat และ Baxdrostat:
- กลุ่มยับยั้งการสร้าง Aldosterone
- ลดความดันได้ 7-14 mmHg
- ผลข้างเคียงสำคัญ: โพแทสเซียมในเลือดสูง
- อยู่ในระหว่างการวิจัย phase III
4. Zilebesiran:
- ยากลุ่ม small interfering RNA (siRNA) ที่ออกฤทธิ์นาน 6 เดือนต่อการฉีด 1 ครั้ง
- ลดความดันได้ 10-12 mmHg
- ข้อควรระวัง: ภาวะไตวายเฉียบพลัน
- อยู่ในระหว่างการวิจัย phase II
🧑🔬บทบาทของเภสัชกร
- ให้ความรู้ผู้ป่วย เกี่ยวกับการใช้ยาที่ถูกต้อง
- ติดตามผลข้างเคียง โดยเฉพาะจากยาตัวใหม่
- ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ
- ช่วยคัดกรองและส่งต่อผู้ป่วยที่ควบคุมความดันได้ไม่ดี
🎯ความท้าทายในอนาคต
- การเข้าถึงยาตัวใหม่ที่มีราคาแพง
- การติดตามผลระยะยาวของยานวัตกรรม
- การปรับแนวทางรักษาให้เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละราย
แม้จะมียาลดความดันมากมาย แต่ยังมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ควบคุมความดันไม่ได้ ยาตัวใหม่เหล่านี้ให้ความหวังสำหรับผู้ป่วยกลุ่มดื้อยา โดยเภสัชกรมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ผู้ป่วยใช้ยาได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
💢Hypertension: A Silent Killer Requiring Novel Therapies
Pharmacy Times articles / Jul 20, 2025
.
อ่านเพิ่มเติม
แนวทางรักษาโรคความดันโลหิตสูง ในเวชปฏิบัติทั่วไป พ.ศ. 2567
.
.
BETTERCM 2025.07.20
😠HYPERTENSION
New Hypertension Guidelines Apply to Diverse Socioeconomic Settings
ยาความดัน
สรุปยารักษาโรคความดันโลหิตสูงและอาการข้างเคียงที่สาคัญ
โดย งานเภสัชกรรมปฐมภูมิ รพ.ระยอง.
🔰ACEi ARBs กับ อาการไอ🔰
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
