Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ชลมณี
•
ติดตาม
20 ก.ค. เวลา 13:43 • นิยาย เรื่องสั้น
กระท่อมน้อยของลุงทอม
ขอยกให้เป็นสุดยอดหนังสือดีอันดับ1ที่อ่านในเดือนนี้แม้ยังไม่ถึงสิ้นเดือน และเข้าชิงหนังสือดีอันดับ1ในดวงใจตั้งแต่เริ่มอ่านหนังสือมาได้ไม่น้อยกว่า 45 ปีด้วย
ถ้าวิมานลอยคือสุดยอดวรรณกรรมคลาสสิกระดับโลกที่ตีแผ่ความเลวร้ายของเหตุการณ์สงครามภายในของสหรัฐอเมริกา และความรู้สึกนึกคิดของชาวใต้ที่พ่ายแพ้และถูกกระทำต่าง ๆ นานา
เล่มนี้ก็เปรียบเสมือนคัมภีร์สูงสุดที่สร้างกระแสแห่งความตื่นตัวจากการทำตนเป็นผู้ไม่อินังขังขอบของชาวเหนือ ต่อกรณีการซื้อขายและข่มเหงทาสของพ่อค้าและผู้ที่เสาะหาคนมาเป็นข้ารับใช้ทั้งหลาย จนสามารถก่อแรงกระเพื่อมจากคนที่ได้อ่านกระจายแพร่ขยายแนวความคิดของผู้เขียน ไปสู่การปฏิวัติเพื่อปลดแอกชาวอัฟริกันที่ถูกกดขี่ข่มเหงทุกคนจนเกิดสงครามคร่าชีวิตกันเองระหว่างฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ในอีก 9 ปีต่อมาหลังจากที่มีการวางขายวรรณกรรมเรื่องนี้เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ.1852 หรือเมื่อ 173 ปีก่อน
#กระท่อมน้อยของลุงทอม Uncle Tom's Cabin
หจก.บำรุงสาส์น จัดพิมพ์ ปี 2534 (ก่อนหน้าเคยมีการจัดพิมพ์มาก่อน)
ผู้เขียน แฮเรียต บีเชอร์ สโตว์
ผู้แปล อ.สนิทวงศ์ (อุไร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) สุดยอดนักแปลมือวางอันดับต้นของแวดวงวรรณกรรมไทย
หนา 546 หน้า พิมพ์กระดาษปรู๊ฟ
หาราคาที่พิมพ์ไม่เจอ หรือดูไม่ละเอียดพอก็ไม่แน่ใจ
🛖
ผมชอบหนังสือเก่าที่พิมพ์ด้วยกระดาษปรู๊ฟมาก เหตุผลคือเนื้อกระดาษเบาดี ถือได้อย่างสบายไม่รู้สึกว่าข้อมือต้องรับภาระเยอะในการอ่านกว่าจะจบเล่ม ความหนาถึง 546 ตัวอักษรสมัยเก่าที่อัดแน่นในแต่ละหน้า นี่ถ้าพิมพ์โดยจัดวางรูปเล่มและใช้กระดาษที่คุณภาพดี ความหนาระดับนี้หรือมากกว่านี้ คงทำให้น้ำหนักหนังสือน่าจะเกือบหนึ่งกิโลกรัมได้กระมัง จะเป็นความลำบากและทรมานอย่างมากในการอ่านแต่ละที
อีกประการคือเมื่อได้จับกระดาษปรู๊ฟพลิกไปแต่ละหน้า ความรู้สึกถึงวันวานในอดีตย้อนกลับคืนมา ทั้งกลิ่นที่มีความเฉพาะตัว กับรูปเล่มและการวาดปกแบบเก่าก็ยิ่งคงความงามที่แตกต่าง ซึ่งไม่อาจหาได้ในการอ่านหนังสือที่จัดพิมพ์ใหม่ในยุคปัจจุบัน ท่านผู้อ่านที่เติบโตมาในยุคที่ทันกับหนังสือที่พิมพ์ด้วยกระดาษปรู๊ฟคงจะพอเข้าใจสิ่งที่ผมเอ่ยนี้
🛖
มาเข้าเรื่องกันดีกว่าว่าดีอย่างไร เหตุใดคนไทยทุกคนที่อ่านหนังสือออก ถ้าไม่ขัดสนจนยากเกินไปที่ไม่สามารถจะหาเวลาชีวิตเสาะหา กระท่อมน้อยของลุงท่อม มาอ่านได้เลยนั้น มิควรพลาดเป็นอันขาดที่ครั้งหนึ่งในชีวิตนี้ต้องอ่านให้ได้
💥เรื่องย่อ (แต่ละเอียด 55 ถ้ากลัวสปอยก็หยุดเสียแต่บัดเดี๋ยวนี้)
มิสเตอร์และมิสซิสเชลบี ผู้มีฐานะดีพอสมควรและมีบ้านช่องที่ดินถิ่นฐานในเคนทักกี้ พวกเขามีทาสไว้รับใช้ในครอบครัวจำนวนไม่น้อย และทาสที่ซื่อสัตย์ที่สุดได้แก่ชายรูปร่างล่ำสันแข็งแรง ที่ทุกคนพากันขนานนามว่าลุงทอม เขาเป็นที่รักของทุกคนทั้งนายและบริวารของนาย ด้วยเหตุว่าเขามีจิตใจอันประเสริฐ แม้นผิวกายจะเป็นเช่นดังชาวอัฟริกันทั่วไป
ลุงทอมเป็นคริสเตียนที่เคร่งครัด เป็นสมาชิกของโบสถ์ ขยันในการงานทุกอย่างตามที่นายมอบหมาย ไม่เคยโกง มีน้ำใจแก่คนทุกคนโดยไม่เลือกหน้า เขามีภรรยาคือป้าโคลที่ทำหน้าที่เป็นแม่ครัวใหญ่ของบ้าน และลูกเล็กอีกหลายคนที่กำลังเติบโตทั้งบุตรและธิดา
🛖
นอกจากลุงทอมแล้ว ยังมีสาวต้นห้องที่นับได้ว่าเป็นทาสหญิงคนสนิทของมิสซิสเชลบี ได้รับความไว้วางใจอย่างมาก เนื่องเพราะมิสเตอร์เชลบีซื้อเธอมามอบให้ภรรยาตั้งแต่ยังเด็กวัยสัก 7-8 ขวบ เด็กคนนี้มีชื่อว่า เอลิซ่า มิสซิสเชลบีอบรมเลี้ยงดูเอลิซ่ามาอย่างผู้เจริญ มอบการศึกษาให้ ดูแลปรานีและมีความรักและปรารถนาดีต่อเธอ ถึงกับจัดการแต่งงานให้แก่เอลิซ่า ที่พบรักกับชายหนุ่มรูปสวยซึ่งเป็นทาสเช่นเดียวกับเธอ แต่อยู่ในปกครองของเจ้านายคนอื่น
ทั้งเอลิซ่าและยอร์จ แฮริส สามีของเธออยู่ในวัยผู้ใหญ่เต็มที่ประมาณ 25 ปี หน้าตาสวยงามมีผิวขาวเพราะเป็นลูกทาสที่เกิดจากสายเลือดของคนขาวครึ่งหนึ่ง ทั้งสองมีลูกเล็กน่าเอ็นดูชื่อแฮรี่ อายุ 4-5 ขวบ เอลิซ่าได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีและนับถือศรัทธาในศาสนาอย่างมาก ขณะที่ยอร์จนั้นไม่เคยเชื่อในพระผู้สร้าง เพราะความเจ็บช้ำในอดีต ที่ต้องพรากจากแม่และพี่สาวตอนที่ถูกพ่อค้าทาสนำออกประมูล แล้วต่างแตกฉานซ่านเซ็นไปคนละทิศ ไม่เคยได้พบเจอกันอีกเลย
🛖
วันหนึ่งถึงคราวเคราะห์ มีพ่อค้าทาสนิสัยหยาบช้ามาติดต่อธุระกับมิสเตอร์เชลบี โดยเหตุที่ฝ่ายสามีนั้นดำเนินธุรกิจจนติดหนี้กับพ่อค้าทาสคนนี้เป็นเงินก้อนใหญ่ เขาไม่อาจหามาชดใช้คืนได้จึงเหลือหนทางสายเดียวที่คิดได้นั่นคือ ยอมขายทาสในปกครองของตน ซึ่งเขาเสนอขายลุงทอมเพราะได้ราคาสูงกว่าทาสคนอื่น บังเอิญวันนั้นแฮรี่น้อยโผล่หน้ามาและเป็นที่ถูกใจพ่อค้าคนนี้ พอยิ่งได้เห็นเอลิซ่าที่ออกมาตามลูกก็ยิ่งถูกใจหน้าตาผิวพรรณ
หลังจากเธอออกจากห้องไป พ่อค้าทาสพยายามหว่านล้อมขอซื้อแฮรี่และเอลิซ่าด้วย แต่มิสเตอร์เชลบีไม่ยอมขายเอลิซ่า ด้วยรู้ว่าเมียของตนรักถนอมคนรับใช้ส่วนตัวคนนี้ที่สุด
เอลิซ่านั้นแอบได้ยินจึงตกใจและหวาดกลัวมากจนไปร้องไห้ขอต่อมิสซิสเชลบีอย่าให้คุณผู้ชายขายลูกของเธอเลย เธอทนอยู่ต่อไปไม่ได้แน่ ก่อนหน้านี้ก็สูญเสียลูกด้วยความตายไปแล้วถึงสองคน นายหญิงปลอบประโลมบอกว่าสามีเธอจะต้องขายทาสทำไม เป็นความเข้าใจผิดมากกว่า เพราะหารู้ไม่ถึงหนี้สินที่สามีติดไว้กับพ่อค้าใจโฉด
🛖
ในที่สุดความกลัวของเอลิซ่าก็เป็นจริง เธอแอบได้ยินนายหญิงสอบถามสามี และเขายอมรับว่าทำสัญญาขายลุงทอมกับแฮรี่ให้พ่อค้าคนนั้นแล้ว วันรุ่งขึ้นพ่อค้าจะมารับตัวทั้งสองไป มิสซิสเชลบีเสียใจอย่างมาก แต่ไหนเลยจะเท่าเอลิซ่า เธอไม่อาจทนเฉย รีบเก็บของใช้น้อยนิดแล้วอุ้มลูกพาไปเคาะประตูกระท่อมที่พักลุงทอมกับป้าโคลและลูก ๆ เล่าให้ฟังว่าจะหนีไปคืนนี้เพราะนายตกลงขายลูกชายและลุงทอมแล้ว
ลุงกับป้าตกตะลึงไม่นึกฝัน ลุงเห็นใจเอลิซ่า ป้าโคลสนับสนุนให้ลุงทอมหนีตามไปด้วย แต่ลุงไม่ยอมบอกว่าถ้าเขาหนีอีกคนนายต้องเดือดร้อน ขอให้เอลิซ่าพาลูกไปเถิด ดังนั้นเธอจึงอุ้มลูกฝ่าความหนาวเย็นของอากาศหนีกระเซอะกระเซิงไปผจญโลกภายนอก
🛖
เมื่อพ่อค้าทาสมารับตัวทราบว่าแม่เด็กพาลูกหนีไปแล้วก็ไม่พอใจมาก นำม้าออกติดตามจะจับกลับมา แต่ด้วยความช่วยเหลือของข้าทาสคนอื่นในบ้านมิสซิสเชลบี จึงทำให้เอลิซ่าหนีรอดหวุดหวิดราวปาฏิหาริย์ระหว่างกระโดดข้ามไปบนแผ่นน้ำแข็งจนถึงฝั่งตรงข้ามแม่น้ำ ทว่าพ่อค้าทาสไม่ยอมแพ้ เขาจ้างวานชายฉกรรจ์หลายคนที่พบในบาร์คืนนั้น ให้ติดตามจับสองแม่ลูกกลับมาให้ได้ โดยยินดียกแม่ให้แต่ขอให้ส่งลูกคืนตัวเอง
เมื่อตกลงกันเสร็จก็กลับไปรับตัวลุงทอมเพื่อเดินทางไปซื้อขายทาสรายอื่นต่อ แล้วลงเรือที่จะพาไปยังแดนใต้เพื่อขายให้กับเจ้าของที่ดินที่ต้องการคนไปทำงานในไร่ฝ้าย
🛖
ทางด้านยอร์จ แฮริส สามีของเอลิซ่า ที่ทำงานในโรงงานและได้รับความเอ็นดูจากหัวหน้างานและคนงานในนั้นเพราะเขามีความรู้ความสามารถ จนเจ้านายเกิดความอิจฉาริษยา ไม่ต้องการให้ทาสของตนได้หน้า มีคนรักใคร่จนขัดตาตัวเอง จึงบังคับให้เขาออกจากงาน ไม่ให้ไปไหนนอกจากรับใช้ตน ห้ามไปพบลูกเมีย ให้แต่งงานใหม่กับคนที่เขาเห็นสมควร ยอร์จทนไม่ไหวด้วยความคับแค้น จึงหนีจากนายตัวเองเพื่อหวังเดินทางไปยังแคนาดา
ระหว่างทางที่ปลอมตัวเป็นคนอื่นเพื่อจะหนีออกนอกประเทศพร้อมกับทาสอีกคนที่ชื่อจิม ซึ่งจะพาแม่ที่ป่วยไปแคนาดา ยอร์จได้พบกับเอลิซ่าและลูก อย่างไม่คาดฝัน โดยเธอได้หนีจากพวกที่ติดตามไล่ล่ามาจนพบกลุ่มคนใจดีที่ช่วยให้ที่พักชั่วคราวในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
🛖
ด้านลุงทอม บังเอิญว่าช่วงที่อยู่ในเรือโดยสาร เขาปฏิบัติตัวดีพอจนพ่อค้าทาส ให้อิสระสามารถเดินไปมาด้านบนโดยไม่ต้องถูกขังหรือใส่โซ่ตรวนที่มือเท้าในบริเวณโซนใต้ท้องเรือ ลุงทอมได้โดดลงทะเลไปช่วยเด็กหญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่ง ที่พลัดตกจากริมกาบเรือจมน้ำหายไป เด็กหญิงชื่ออีวาเจลีน อายุราว 6 ขวบ มีลักษณะฉลาดเฉลียว ประกายตาบ่งบอกว่ามีจิตวิญญาณที่ดีอยู่ภายใน
เธอขอร้องให้พ่อที่เป็นคนมีเงินพอสมควรซื้อลุงทอมจากพ่อค้าทาส ดังนั้นลุงทอมจึงได้นายใหม่และติดตามสองพ่อลูกกลับไปยังนิวาสถานที่อยู่ห่างไกลจากเคนทักกี้ไปหลายร้อยไมล์และอยู่คนละรัฐ ซึ่งเจ้านายคนนี้มีชื่อว่า ออกัสติน เซนต์แคล มีภรรยาชื่อมารีที่มีหน้าตาสวยงาม แต่เห็นแก่ตัวและเป็นลูกเศรษฐี
ออกัสตินมีพี่ชายฝาแฝดชื่ออัลเฟร็ด พ่อทั้งสองมีนิสัยเข้มงวดและไม่มีความเอื้ออารีต่อข้าทาส ต่างจากแม่ที่มีเมตตาและเชื่อในพระเจ้าสุดใจ เขาอยู่กับแม่ถึงอายุแค่ 13 ปี พอถูกส่งไปเรียนแล้วกลับมาแม่ก็ตายแล้ว หลังพ่อตายและยกมรดกให้สองพี่น้อง เขาไม่มีนิสัยรักทำไร่สวนเหมือนพี่ จึงย้ายมาอยู่ที่ที่อยู่ปัจจุบัน มีสมบัติพอเลี้ยงตนและข้าทาสจำนวนมาก ซึ่งเขาเป็นนายที่ไม่เคยลงโทษหรือกระทำการใดอันข่มเหงน้ำใจเหล่าทาส ทุกคนจึงรักแต่ก็มีข้อเสียคือทาสหลายคนก็ขี้เกียจ สร้างความไม่พอใจให้กับมารีอย่างมาก
🛖
ลุงทอมกลายเป็นที่รักของทุกคนในบ้านในเวลาไม่นาน ยกเว้นคุณนายมารี ที่มักจะไม่พอใจที่เห็นสามีตามใจข้าทาสจนเกินไป ส่วนอีวาเจลีนนั้นเล่า เธอติดลุงทอมมาก ชอบให้ลุงอ่านพระคัมภีร์ให้ฟัง ยังชอบฟังเพลงสวดที่ไพเราะของลุงทอม ที่ร้องให้คนอื่นฟังบ่อย ๆ ลุงทอมอยู่ที่นี้อย่างมีความสุขเพราะเจ้านายใจดี แต่ไม่เคยลืมบ้านเกิด อยากจะกลับไปอยู่กับป้าโคลคู่ชีวิตและครอบครัวมิสซิสเชลบี จึงเขียนจดหมายให้อีวาช่วยสะกดเพื่อส่งไปหาป้าโคล บอกว่าอย่าลืมเก็บเงินมาเป็นค่าไถ่ตัวเขากลับไป
ออกัสตินยังรับตัวญาติผู้พี่ที่เป็นหญิงให้มาช่วยดูแลงานทุกอย่างในบ้านแทนมารีภรรยาตน ที่เอาแต่บ่นและชอบเพ้อรำพันว่าตนป่วยอย่างโน้นอย่างนี้ เพื่อร้องหาคนมาเอาใจใส่ดูแล และยังซื้อทาสเด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งกิริยาทรามมาให้ญาติช่วยหัดสอนเพื่อเปลี่ยนนิสัย เด็กคนนี้ชื่อท็อปสี
🛖
แม้ลุงทอมจะโชคดี แต่ไม่มีใครจะโชคดีอยู่ได้นาน กาลต่อมาอีวามีอาการป่วยหนักจากโรคที่ถือว่าร้ายแรงมากในสมัยนั้น เธอขอคำมั่นจากพ่อว่าถ้าตัวเองไม่อยู่แล้ว โปรดมอบอิสระคืนแก่ลุงทอมเพื่อกลับไปอยู่กับครอบครัว พ่อรับปากเธอและยังเตรียมพร้อมร่างรายละเอียดเอาไว้ หลังจากมรณาของอีวาผ่านพ้นไปด้วยความเศร้าโศกทุกข์ระทมของทุกคนในบ้านรวมถึงข้าทาสทุกนายนาง
ใครจะนึกว่าเคราะห์กรรมยังคงโหมซัดครอบครัวเซนต์แคลต่อ ออกัสตินเสียชีวิตกะทันหันโดยไม่ทันได้จัดการปลดปล่อยทาสทุกคนให้เป็นอิสระ คุณนายมารีจึงเป็นใหญ่ในบ้านแทน เธอปล่อยให้ทนายจัดการขายทุกอย่างรวมถึงข้าทาสให้แก่อัลเฟร็ด พี่ชายของออกัสติน ไม่เว้นแม้แต่ลุงทอมที่เกือบจะได้อิสรภาพแล้ว ส่วนญาติผู้พี่ของออกัสตินนั้นได้ขอให้เขาทำหนังสือสัญญาระบุว่ายกให้ท็อปสีอยู่ในความดูแลของเธอก่อนเขาจะตาย ดังนั้นเธอจึงสามารถพาตัวทาสคนนี้กลับไปยังครอบครัวของตน
🛖
ที่สุดทาสทั้งหลายในความดูแลของออกัสตินได้ถูกขายเลหลังกระจัดกระจายไปคนละทาง ลุงทอมถูกซื้อตัวโดยนายใหม่ที่เป็นชายรูปชั่วและหยาบช้า มีใจเหี้ยมโหด เขายังซื้อเด็กสาวอายุ 15 ที่มีหน้าตาสะสวยเพื่อจะเอาไปบำเรอตนด้วย จุดหมายปลายทางของลุงทอมคราวนี้คือรัฐทางใต้ ที่ไร่ฝ้ายของนายใหม่ซึ่งเลี้ยงทาสนิโกรสองคนไว้คอยคุมคนงานอีกที และเช่นเคยที่ไม่ว่าไปอยู่ในที่ใด ลุงทอมไม่เคยเปลี่ยนไปจากธาตแท้อันมีใจงดงามประจำตน เขาเพาะสร้างน้ำใจแก่เหล่าทาสคนอื่นในไร่โดยไม่หวังผลใด ๆ จนทาสเหล่านั้นรักลุงทอม
นายใหม่เกิดความไม่พอใจรุนแรง เพราะลุงทอมทำให้คำสั่งของเขาไม่ศักดิ์สิทธิ์เสียแล้ว เขาที่เกลียดศาสนาไม่เชื่อในพระเจ้า ไม่รู้จักความเห็นใจใด ๆ ต่อชีวิตของข้าทาสที่ตนซื้อมา ใช้แต่อำนาจข่มเหงและลงโทษอย่างทารุณ เมื่อลุงทอมไม่ยอมทำตามคำสั่งที่ให้เฆี่ยนโบยทาสหญิงที่ป่วยจนเก็บฝ้ายไม่ได้ตามกำหนด นายใหม่จึงให้เฆี่ยนลุงทอมแทนจนลุงเจ็บหนัก แต่ยังมีนางทาสวัยกลางคนนางหนึ่งที่ช่วยดูแลบาดแผลให้ลุง นางมีความเจ็บแค้นฝังลึกต่อเจ้าของไร่ด้วยสาเหตุที่ซับซ้อน
🛖
กล่าวถึงด้านเอลิซ่าและยอร์จสามี ทั้งสองและลูกน้อยสามารถปลอมตัวขึ้นเรือและหลบพ้นสายตาของพวกที่ตามจับ จนสามารถขึ้นฝั่งแคนาดาและได้รับความช่วยเหลือของสาธุคุณที่นั่นจนปลอดภัยสร้างหลักใหม่ได้ ส่วนนางโคลเมียลุงทอม ได้รับจดหมายที่ญาติสาวของ
ออกัสตินส่งไปรายงานครั้งสุดท้ายให้ทราบก่อนที่เธอจะพาท็อปสีกลับไปบ้านเดิมว่า ขอให้รีบมาไถ่ตัวลุงทอมโดยเร็วเพราะนายของลุงตายแล้ว ลุงจะถูกขายไปที่อื่นในไม่ช้า เป็นการได้รับเมื่อเหตุการณ์ได้ล่วงเลยไปจนลุงทอมโดนขายไปอยู่ที่ใดแล้วไม่รู้
กว่าที่ยอร์จซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวของมิสเตอร์และมิสซิส เชลบีนายเก่าของลุง จะสืบเสาะจนพอทราบที่ตั้งของไร่ฝ้ายอันเจ้าของผู้ซื้อลุงไปว่าอยู่ที่ไหน เขาก็ต้องเดินทางไกลมากเพื่อนำเงินที่เตรียมมาจะไถ่ตัวทาสผู้ซื่อสัตย์และจงรักภักดีของแม่ ให้คืนสู่อ้อมกอดของบ้านหลังเก่าอันอบอุ่น หลังจากที่มิสเตอร์เชลบีได้เจ็บป่วยตายลง และเขาเติบโตเป็นหนุ่มพอจะดูแลธุระการงานของครอบครัวได้ ทว่าห้าปีที่ลุงทอมต้องออกจากบ้านไป สุขภาพของลุงได้ทรุดโทรมลงตามลำดับ
สุดท้ายแล้วความหวังของลุงทอมที่จะได้กลับไปยังที่ตนจากมา จักสำเร็จสมหวังทันก่อนที่ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของเขาจะมาถึงหรือไม่
ต้องไปอ่านเท่านั้นแล้วคุณจึงจะนอนหลับโดยไม่รู้สึกติดค้างในใจ นี่อาจไม่ใช่การป้ายยาแต่คือการวางยาก็ได้ (ฮา)
เล่มนี้ดีอย่างไรทำไมจึงไม่ควรพลาด✒️
หนึ่งนั้น สำนวนการแปลของ อ.สนิทวงศ์นับได้ว่าดีงามจนนับแต่อดีตจวบปัจจุบัน ไม่ว่าจะมีการตีพิมพ์ใหม่อีกกี่ครั้ง ก็เชื่อว่าไม่มีนักแปลท่านใดจะกล้ารับประกันตนเองได้ว่าจะสามารถถอดความหมายของสำนวนเดิมของผู้เขียน ให้ออกมาได้อย่างประณีตงดงามเทียบเท่าที่ท่านได้แปลไว้ ดังนั้นไม่ว่าจะสนพ.ใด ก็ยังคงสำนวนแปลของ อ.สนิทวงศ์ในการพิมพ์ครั้งล่าสุดอยู่เสมอ
แล้วดีงามอย่างไรกัน ก็คงจะอธิบายได้ยากถ้าไม่ได้ลองอ่านด้วยตนเอง แม้คำความที่ใช้จะไม่ใช่คำยากหรือคำศัพท์ที่อยู่ในระดับสูงอะไร แต่ได้รับการคัดสรรมาแล้วว่าเหมาะสมที่สุดกับเนื้อความในแต่ละท่อน จึงเป็นความละเมียดละไม กลมกล่อม ที่ทำให้ผู้อ่านได้รับอรรถรสจากงานเขียนที่ถูกแปลจากภาษาอื่น ได้อย่างเต็มที่ราวกับว่าได้อ่านจากต้นฉบับ
✒️
สองนั้นคือ ผู้เขียนต้นฉบับได้แก่นางแฮเรียต ซึ่งแทบไม่น่าเชื่อว่าเธอใช้เวลาเพียงช่วงกลางดึก หลังว่างจากภาระการงานของแม่บ้านที่ต้องเลี้ยงดูแลลูก ๆ และสอนหนังสือเองถึงหกคน ดังที่คำนำของ อมราวดี สุดยอดนักเขียนนักแปลอีกท่านได้ระบุไว้ แสดงว่าผู้เขียนเป็นทั้งแม่ที่เก่งกล้า ขยันรับผิดชอบในหน้าที่ตนมิบกพร่อง ยังเป็นผู้ใฝ่รู้สู้ศึกษาและฝึกฝนตนอยู่ตลอดเวลา
เห็นได้จากการไม่ปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์เลย ทั้งที่เวลานอนก็น้อย ยังสามารถสร้างสรรค์งานเขียนระดับมาสเตอร์พีซเช่นนี้ แล้วส่งไปลงพิมพ์ในนิตยสารรายสัปดาห์เมื่ออายุเพียง 40 ปี แล้วออกเป็นรูปเล่มในปีถัดมา คือ ค.ศ. 1852 นี่ไม่ธรรมดาแต่ต้องเรียกว่าพรสวรรค์ และรู้จักใช้ไปในทางที่ดีด้วย
✒️
สาม เนื้อหาตลอดเล่มนั้นช่างจับจิตจับใจเหลือเกิน อ่านไปแต่ละหน้าด้วยความที่มือก็สั่น ใจยิ่งสั่นไหว อ่อนระทวยตั้งแต่แค่ไม่กี่หน้าแรกที่เธอบรรยาย เพราะเห็นภาพราวเรื่องเล่าของเธอเกิดขึ้นในหัวของตัวเราเอง รู้ว่าจะเกิดอะไรต่อไป พาให้ใจเกิดอาการไม่อยากอ่านจะได้ไม่ต้องรับรู้ต่อไปถึงสิ่งที่โหดร้ายอันจะเกิดขึ้นกับตัวละคร แต่อีกใจนั้นเล่าก็มิอาจทนต่อแรงยั่วเย้าอันหอมหวน ที่กำลังกวัดไกวคล้ายโบกมือเรียกอยู่ไหว ๆ ให้เปิดหนังสือออก แล้วดื่มด่ำกับแถวตัวอักษรบรรทัดต่อไปและต่อไป ประโยคแล้วประโยคเล่า
นี่คือมนต์สะกดที่ทรงพลังสุดยอดจนน่าตกใจมิใช่หรือ สุดท้ายผมก็ทนแรงเร้าไม่ไหว แม้ใจจะเจ็บก็ขอให้ได้อ่านต่อไปด้วยเถิด นี่คือเรื่องซึ่งเกิดขึ้นจริง มีหนังสือไม่มากนักที่สร้างความรู้สึกเช่นนี้ให้ผมสัมผัสได้
✒️
สี่ การเล่าเรื่องของผู้เขียน เป็นมุมมองบุคคลที่สามคือมุมมองพระเจ้า แต่สำนวนนั้นทำให้รู้สึกแนบชิดสนิทสนมราวกับการเล่าของบุคคลที่หนึ่ง เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็ด้วยการเล่าที่ใส่เอาความเป็นกันเองเปรียบประดุจญาติใกล้ชิดสนิทสนมกำลังมาเล่าเรื่องราวชีวิตจริงความเป็นไปของคนคนหนึ่งและบุคคลแวดล้อมของเขาให้เราที่เป็นคนอ่านฟัง ในหลายที่ซึ่งปรากฏรูปประโยคราวกับชวนคุยดังเช่น ท่านผู้อ่าน และแทนตนด้วยคำว่าข้าพเจ้า จึงสร้างความรู้สึกที่เชื่อมต่ออย่างประหลาด ไม่ดูห่างเหินเหมือนพระเจ้าที่มองลงมาจากสถานที่อันห่างไกล
แต่คือใครสักคนที่อยู่ไม่ไกลจากเราเท่าไรนักเลย การรู้จักจังหวะในการสลับฉาก ว่าเวลานี้ควรเล่าเรื่องของตัวละครนี้ถึงจุดไหนที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม แล้วเปลี่ยนไปเล่าเรื่องอีกฝากฝั่งของอีกตัวละครหนึ่งเพื่อตัดอารมณ์ ด้วยตัวละครหลักแม้จะได้แก่ลุงทอม ทว่าตัวละครรองอันได้แก่เอลิซ่าก็มีความสำคัญต่อเนื้อหา และส่งผลให้เนื้อเรื่องเดินหน้าต่อไปอย่างน่าติดตาม ชวนลุ้นให้ผู้อ่านอยากรู้ความเป็นไปของครอบครัวเธอ ว่าสามารถหนีพ้นเหล่าคนพาลได้หรือไม่
จึงเป็นอันว่าตลอดของความยาวกว่า 546 หน้าของฉบับพิมพ์นี้ ไม่มีหน้าใดเลยที่ทำให้เกิดความรู้สึกเบื่อ ไม่เอาละ ไม่อยากรู้อีก มีแต่กระหายใคร่อยากทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปกับตัวละครลุงทอม และเอลิซ่าบ้าง
✒️
ห้า ไม่น่าเชื่อว่าทั้งที่ลุงทอมกับเอลิซ่าคือตัวละครที่อยู่ในนิยาย แต่ได้โลดแล่นราวมีชีวิตจนกระทั่งเข้ามานั่งอยู่ในใจของคนอ่านอย่างผมได้ในเวลาอันรวดเร็ว ยอมรับว่ารักและเอาใจช่วยทั้งคู่แทบทุกบรรทัดที่อ่านผ่านไป หวังใจว่าเขาและเธอจะได้พบเจอนายที่ดี และหนีพ้นน้ำมือคนใจร้ายใจดำ
ส่วนตัวละครสนับสนุนตัวอื่นอีกหลายคน ก็มีบุคลิกและลักษณะนิสัยที่สร้างความประทับใจอย่างมาก อาทิมิสซิสเชลบี, เอวาเจลีน เป็นต้น ถือเป็นความสามารถของผู้เขียนที่เข้าใจใส่จิตวิญญาณให้กับตัวละครเหล่านั้น ให้มีความโดดเด่นและแตกต่างชัดเจนในแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นตัวละครสีดำ สีขาว หรือแม้แต่ที่มีส่วนผสมทั้งขาวและดำปะปน
✒️
หก โวหารที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นบรรยายโวหาร สลับบางช่วงที่ใช้รูปแบบพรรณนาโวหารให้เห็นภาพ อ่านแล้วแทบไม่อยากเชื่อว่านี่คือนิยายเล่มแรกของผู้เขียน ด้วยเนื้อหาลีลา ข้อมูล และประเด็นทางสังคมที่สอดแทรกเกี่ยวกับการค้าทาส การกดขี่ข่มเหงทารุณกรรมของเจ้านายและพ่อค้าทาส การออกกฎหมายห้ามช่วยเหลือทาสที่หลบหนี ความคิดของชาวเหนือที่ไม่เห็นด้วยกับการทารุณแต่ส่วนหนึ่งก็ยังยินดีพอใจต่อการต้องมีคนคอยรับใช้ อีกทั้งความศรัทธาของตัวละครหลายตัวที่มีต่อศาสนาคริสต์อย่างสูงส่ง
เหล่านี้ล้วนเป็นประเด็นที่ถูกใส่เข้ามาได้เข้ากับบรรยากาศของเรื่อง ที่ทำให้ผู้อ่านพลอยถูกความรู้สึกอันรุนแรงของผู้เขียน ที่บรรยายผ่านตัวอักษรและระบายผ่านปากของตัวละครระบาดใส่ จนพลอยได้รับการชักจูง หรือดึงเข้าเป็นพวกที่เห็นด้วยกับสิ่งที่ผู้เขียนต้องการนำเสนอได้อย่างง่ายดาย และมันเป็นความจริงที่น่าหดหู่ที่เกิดขึ้นจริงบนแผ่นดินอเมริกาในห้วงเวลานั้น ไม่ใช่แค่ในนิยาย
จึงยิ่งส่งผลกระทบต่อความนึกคิดของประชาชนที่ได้อ่านในวงกว้างอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงพลังแห่งตัวอักษรที่ทำเพื่อผลประโยชน์แก่สังคมและสร้างความเปลี่ยนแปลงในโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างน่าทึ่ง
✒️
เจ็ด เราจะได้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างคนชั่ว ที่ชั่วสุด ๆ กับคนดีที่ดีสุด ๆ เช่นกัน โดยมีลุงทอมเป็นภาพแทนคนดีจิตใจบริสุทธิ์ยอมเป็นฝ่ายถูกกระทำแต่จะไม่ยอมทำสิ่งใดก็ตามที่เป็นความชั่วบาปให้แปดเปื้อนมือตนเลย ไม่ว่าต่อใครก็ตามแม้แต่คนชั่วที่ทำร้ายตนเอง เพื่อแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณสูงส่งที่เข้าถึงคำสอนลึกซึ้งของพระเยซูในร่างของทาสผิวดำ
นับเป็นงานเขียนที่เชิดชูและยกย่องพระผู้สร้างไว้สุดสูง ขณะเดียวกันก็เห็นถึงภาพของตัวแทนฝ่ายมารหรือซาตานผ่านการกระทำของพวกพ่อค้าทาส และเจ้านายจอมโหดโฉดชั่ว ที่ย่ำยีคนอัฟริกันที่โดนกดให้ต่ำยิ่งกว่าสัตว์ เป็นเพียงแค่สิ่งของที่ใช้เงินซื้อหา จะทิ้งเมื่อไรก็ได้ ไม่ต้องซ่อมไม่ต้องดูแลรักษา ไร้ความเมตตาปรานีใด ใจดำยิ่งกว่าหมึกแต่อยู่ในร่างของพวกอารยันผิวขาว และยังได้เห็นถึงตัวละครที่เป็นพวกกึ่ง ๆ เหมือนจะดีแต่ก็ดีไม่สุด มีแอบชั่วบ้างเหมือนกันถ้าตนอยู่ในฐานะอันต้องเดือดร้อน
เช่นนายคนแรกของลุงทอมอย่างมิสเตอร์เชลบี ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ใครเป็นลูกน้อง เป็นบริวารภายใต้นายลักษณะนี้ ก็ต้องอยู่อย่างร้อน ๆ หนาว ๆ เพราะผีเข้าผีออก ไม่รู้วันใดจะขายเราออกไป หรือย่างออกัสตินนายคนที่สองของลุงทอม ดีนั้นดีอยู่ แต่ก็ยังเป็นดีที่มีอัตตาตัวตนปนอยู่เยอะ ยังทำอะไรเอาความพอใจตนเป็นที่ตั้ง หาได้มองการณ์ไกลไปถึงอนาคตแล้ววางแผนรองรับ ความไม่แน่นอนที่อาจมาเยี่ยมกรายเมื่อใดก็ได้หากว่าตนไม่อยู่แล้ว เรียกว่ายังใช้ชีวิตตั้งตนอยู่บนความประมาท
ที่สุดจึงทำให้ข้าทาสของตนเองต้องเดือดร้อนภายหลัง หรือตัวละครไบโพลาร์ ประสาทไม่ปกติอย่างคุณนายมารีแม่ของเอวาเจลีน ที่ค่อนไปทางชั่วมากกว่าดี และอีกหลายตัวละครที่ล้วนแต่น่าสนใจศึกษาทั้งสิ้น
✒️
แปด ตอนจบโคตรดีแฮปปี้เอนดิ้ง แม้นในเรื่องมีการตายของตัวละครหลายตัว แต่บทสรุปสุดท้ายช่างเขียนได้กินใจล้ำลึก คิดได้อย่างไรในการผูกตัวละครเหล่านั้นที่มาจากคนละที่ละทาง ให้มาลงเอยได้พบเจอกันในท้ายที่สุดอย่างน่าอัศจรรย์พลันเรียกน้ำตาได้อย่างดี นี่นับว่าหาได้ยากมาก ที่หนังสือซึ่งเริ่มต้นได้ดี ตอนกลางก็ยังรักษาความดีนั้นไว้ได้ไม่หล่นหาย และพอถึงตอนท้ายยังดีไม่แพ้ตอนเริ่มต้นด้วย เรียกว่าดียกกำลังสาม
รวมความว่าเล่มนี้อ่านรอบเดียวคงไม่พอ ถ้าใครมีอยู่เป็นเจ้าของแต่ยังไม่เคยหยิบมาอ่าน อย่าได้ช้าเลยครับ เพราะหากเกิดอะไรขึ้นแก่เราเสียก่อนดังเช่นตัวละครออกัสติน จะเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและน่าเสียดายจริง ๆ ส่วนใครที่ยังไม่มีและไม่เคยอ่าน ก็ขอให้พยายามหากันมาอ่านเถิด จะด้วยการซื้อถ้าท่านมีเงิน หรือจะยืมอ่านจากห้องสมุดดังเช่นคนโพสต์ก็ได้
พูดจริง ๆ นะ ถ้าราคาหนังสือเก่าเรื่องนี้ไม่สูงมาก ก็อยากหาซื้อมาเพื่ออยู่ใกล้มือ จะได้หยิบอ่านยามใดที่ต้องการอีกบ่อย ๆ หนังสือดีแบบนี้หาไม่ง่ายจริง ๆ แม้นผมจะนับถือพุทธและศรัทธาบูชาพระพุทธองค์สูงสุดเหนืออื่นใด แต่เมื่อได้อ่านวรรณกรรมที่เขียนเกี่ยวกับศาสนาคริสต์และพระเยซูคราวใด ก็อดซาบซึ้งประทับใจและรักในพระเยซูมิได้เช่นกัน
รีวิวหนังสือนิยาย
นิยาย
หนังสือ
1 บันทึก
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย