Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
kasama
•
ติดตาม
21 ก.ค. เวลา 04:08 • ความคิดเห็น
Chiangmai, Thailand
คนกัมพูชาไม่ใช่เขมร: แค่คำพูด หรือความเข้าใจผิดเชิงลึกของสังคม?
ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับคำว่า “เขมร” ได้ยินมาตั้งแต่เด็ก ได้ยินในข่าวบ้าง ในหนังไทยบ้าง เรียกเพื่อนเล่นบ้าง (แม้จะไม่ควร) และเคยได้ยินผู้ใหญ่ใช้คำนี้แทนคำว่า “คนกัมพูชา” มาตลอด จนกระทั่งเมื่อวันก่อนที่ผมไปเจอคลิปวิดีโอของผู้หญิงชาวกัมพูชาคนหนึ่งที่พยายามอธิบายว่า
1
“ฉันคือคนกัมพูชา ไม่ใช่เขมร อย่าเรียกแบบนั้น!”
คำพูดประโยคนี้ ชวนให้ตั้งคำถามขึ้นในใจว่า “เอ๊ะ… แล้วคำว่าเขมรผิดยังไง?”
เขมรคือใคร? แล้วเกี่ยวอะไรกับกัมพูชา?
ในทางภาษาศาสตร์และชาติพันธุ์ “เขมร” (Khmer) เป็นชื่อเรียกกลุ่มชาติพันธุ์ใหญ่สุดของประเทศกัมพูชา ซึ่งคิดเป็นประชากรประมาณ 90% ของทั้งประเทศ พวกเขามีภาษาเป็นของตนเอง เรียกว่า ภาษาเขมร (Khmer Language) ซึ่งจัดอยู่ในตระกูลภาษาออสโตรเอเชียติก (Austroasiatic) เช่นเดียวกับภาษาเวียดนาม และมอญ
คำว่า “เขมร” (Khmer) จึงไม่ใช่คำผิดในตัวมันเอง หากใช้ในเชิงชาติพันธุ์หรือภาษา เช่น
• ดนตรีพื้นบ้านของชาวเขมร
• ภาษาเขมรเก่ามีรากศัพท์ร่วมกับภาษามอญ
แต่เมื่อถูกใช้แทนทั้งประเทศหรือคนทั้งชาติ โดยเฉพาะในบริบทที่มีอคติปะปนอยู่ คำว่า “เขมร” อาจกลายเป็นเครื่องมือในการลดทอนอัตลักษณ์ของ “รัฐชาติ” ที่ชื่อว่า กัมพูชา (Cambodia)
พูดให้ชัดคือ คนกัมพูชาไม่จำเป็นต้องเป็น “เขมร” ทุกคน และ คำว่า “เขมร” ไม่ควรถูกใช้แทนชื่อประเทศหรือประชาชนทั้งชาติ
รัฐชาติ vs ชาติพันธุ์: เข้าใจให้ชัด
คำว่า “กัมพูชา” (Cambodia) คือชื่อรัฐชาติที่เกิดขึ้นหลังจากได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1953 ซึ่งเป็นการรวมหลากหลายกลุ่มชาติพันธุ์ไว้ด้วยกัน เช่น
• ชนกลุ่มน้อยชาวจาม (Cham)
• กลุ่มมุสลิมเขมร
• ชาวเวียดนามที่อยู่ชายแดน
• รวมถึง “ชาวเขมร” ซึ่งเป็นกลุ่มหลักของประเทศ
นี้คือความต่างระหว่าง “ชาติพันธุ์” (ethnicity) กับ “รัฐชาติ” (nation-state)
• ชาติพันธุ์ เป็นเรื่องของภาษา วัฒนธรรม วิถีชีวิต และความเชื่อที่สืบทอดกันมา
• รัฐชาติ คือองค์กรทางการเมืองที่มีอำนาจปกครองดินแดน มีรัฐบาล มีพลเมือง มีธงชาติ และมีอำนาจในการเป็นตัวแทนในเวทีโลก
การเรียกคนทั้งประเทศว่า “เขมร” จึงเหมือนการเรียกคนไทยว่า “ภาคกลาง” หรือเรียกคนอินเดียว่า “ทมิฬ” มันเป็นการสรุปเหมารวมที่ไม่ถูกต้อง และอาจสะท้อนทัศนคติที่ไม่รู้ตัวของผู้พูด
ถ้าเราพูดกันตรง ๆ ในบริบทไทย “เขมร” มักจะปรากฏในภาพจำเชิงลบ เช่น
• เขมรแดง ที่เป็นชื่อกลุ่มปกครองของพอล พต ซึ่งมีส่วนในเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกัมพูชาช่วงปี 1975–1979
• คำพูดเปรียบเปรย เช่น “สกปรกเหมือนเขมร” หรือ “เหม็นเหมือนเขมร”
• การใช้ในหนังตลก ละคร หรือบทสนทนา เพื่อสื่อความหมายถึงความล้าหลัง หยาบคาย หรือบ้านนอก
ภาพจำเหล่านี้เกิดจากประวัติศาสตร์การเมืองระหว่างไทย-กัมพูชาที่ตึงเครียดมาเป็นระยะ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเขตแดน ปราสาทพระวิหาร หรือแม้กระทั่งการขัดแย้งระหว่างคนไทยกับแรงงานต่างชาติในยุคปัจจุบัน
แม้เราอาจจะไม่ได้มีเจตนา แต่คำพูดที่หลุดออกไป มันก็อาจสะท้อนมายาคติที่เราซึมซับมาจากสังคมโดยไม่รู้ตัว
ในช่วงหลัง ๆ โดยเฉพาะยุคที่โซเชียลมีเดียทำให้คนพูดถึงกันข้ามประเทศได้ง่ายขึ้น ชาวกัมพูชาหลายคนได้ออกมาแสดงจุดยืนชัดเจนว่า ไม่ต้องการให้เรียกพวกเขาว่า “เขมร” ในความหมายเหมารวม พวกเขามองว่า “Khmer” เป็นเพียงกลุ่มชาติพันธุ์ ไม่ใช่ตัวแทนของคนกัมพูชาทั้งหมด และพวกเขาต้องการได้รับการยอมรับในฐานะ Cambodians พลเมืองของรัฐชาติที่มีอธิปไตยของตัวเอง
ภาษาไม่ใช่แค่คำพูด แต่คือ “อำนาจ” คำที่เราใช้เรียกคนอื่น ไม่ใช่แค่คำกลาง ๆ แต่มีความหมายเชิงอำนาจ (power dynamic) ซ่อนอยู่
การที่คนไทยสามารถเรียกคนกัมพูชาว่า “เขมร” โดยไม่ถามว่าเขาโอเคมั้ย เท่ากับเรากำลังใช้ อำนาจทางภาษา เหนือเขาอย่างไม่รู้ตัว เป็นการ “นิยาม” ตัวตนของคนอื่น แทนที่จะให้เขานิยามตัวเอง
ในสังคมสมัยใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน การใช้คำที่ผู้ถูกเรียกไม่รู้สึกโอเค จึงไม่ใช่แค่ “เรื่องคำพูด” แต่มันคือเรื่องของ การเคารพตัวตน และ การอยู่ร่วมกันในความหลากหลาย
เปลี่ยนมาเรียกให้ถูกต้อง: “ชาวกัมพูชา” หรือ “คนกัมพูชา”
การเรียก “ชาวกัมพูชา” หรือ “คนกัมพูชา” แทนคำว่า “เขมร” จึงไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือยหรือเว่อร์แต่อย่างใด มันคือการพูดอย่างมีจิตสำนึก และแสดงออกถึงความเข้าใจในอัตลักษณ์ของอีกฝ่าย
• ถ้าเราจะพูดถึงประเทศ → ใช้คำว่า “กัมพูชา”
• ถ้าเราจะพูดถึงคน → ใช้คำว่า “ชาวกัมพูชา” หรือ “คนกัมพูชา”
• ถ้าจะพูดถึงกลุ่มชาติพันธุ์ → “ชาวเขมร” หรือ “ชนเผ่าเขมร” (เฉพาะเจาะจง)
การที่เราเรียกใครสักคนด้วยชื่อที่เขาไม่ต้องการให้เรียก แม้ไม่ได้ตั้งใจ ก็อาจส่งผลต่อความรู้สึกของเขาโดยไม่รู้ตัว เหมือนกับเวลาที่เราถูกคนต่างชาติเรียกชื่อประเทศเราผิด หรือใช้คำที่ดูถูกเรา ทั้งที่เขาอาจไม่ได้ตั้งใจเลย
ตอนแรกผมก็ไม่คิดว่าคำว่า “เขมร” จะมีปัญหาอะไร จนเมื่อผมเริ่มฟัง เริ่มเปิดใจ และเริ่มเข้าใจว่า ภาษาก็มี “พลัง” พอ ๆ กับการกระทำ
และถ้าเราจะสร้างสังคมที่ดีขึ้นได้จริง บางทีมันอาจเริ่มต้นง่าย ๆ แค่เราเลือกใช้คำที่เคารพคนอื่นมากขึ้น
หมายเหตุ: บทความนี้เขียนขึ้นจากมุมมองของผมโดยไม่ได้มีเจตนาตำหนิหรือกล่าวโทษใคร แต่หวังให้ผู้อ่านได้ตั้งคำถามกับสิ่งที่เคยเชื่อ เคยพูด และเคยใช้ เพื่อเปิดทางให้กับความเข้าใจที่ลึกซึ้งและสร้างความสัมพันธ์ที่เท่าเทียมมากขึ้นระหว่างมนุษย์ด้วยกัน🙏🏻
เรื่องเล่า
blockdit
ไลฟ์สไตล์
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย