21 ก.ค. เวลา 06:17 • ไลฟ์สไตล์
ขอขอบคุณสำหรับทุกๆความคิดเห็นค่ะ โดยเฉพาะคุณด้านมืดของดวงจันทร์ คุณAnother Side คุณ Chen Eing ได้กรุณาให้ความคิดเห็นอย่างใส่ใจมาก
ต่อไปนี้ ขอเเสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมค่ะ
1
คุณSydney ได้บอกว่า การบอกให้ตัดใจ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ใช่ค่ะ โดยเฉพาะกับคนที่ได้พยายามเเล้วเเต่กลับต้องเจอความผิดหวัง สานต่อไปก็ไร้ประโยชน์
1
คุณด้านมืดได้บอกเล่าเหตุการณ์ที่ตนเจอมาเมื่อครั้งติดอยู่ในความทุกข์อารมณ์ย่ำเเย่เเล้วเจอคนประเภทบอกให้สู้ ก็ได้พบว่า ยิ่งรู้สึกไม่ดีเข้าไปใหญ่ ผู้ให้คำเเนะนำจึงควรทำความเข้าใจเรื่องราวของคนมีปัญหาเสียก่อน จึงจะสามารถเเสดงท่าทีที่เหมาะสมได้ว่าจะให้กำลังใจหรือปลอบโยนจึงจะดี มิฉะนั้น จะเป็นการเพิ่มความเจ็บปวดให้เจ้าทุกข์ หรือกดดันบีบคั้นหัวใจกันเกินไป
เรื่องของการใช้หรือเลือกสรรคำพูดนี่สำคัญมาก คนญี่ปุ่นบอกว่า ถ้าไม่ระวัง คำพูดจาจะกรีดเฉือนจิตใจคนฟัง พูดเเบบนี้เลยเเหละค่ะ
1
คุณAnother Side บอกว่า เขาถนัดฟัง เเละย้ำว่าการให้คำเเนะนำด้วยความปรารถนาดีอย่างเดียวไม่พอเพราะคนเรามีรายละเอียดในชีวิตต่างกัน
ใช่ค่ะ เคยได้ยินมาบ่อยๆว่าการที่คนเราขัดเเย้งกัน ก็เพราะไม่ฟังกัน ถือว่าต่างฝ่ายต่างยึดถือเหตุผลของตน ถ้าเปิดใจฟังกัน ก็จะคลายทิฐิมานะลงเพราะการฟังกันเท่ากับบอกว่า เราเป็นพวกเดียวกันอยู่นะ จำไม่ได้ว่าเหตุเกิดที่ไหนเเต่เป็นเรื่องราวในศาลจากการอ่านหนังสือ เยาวชนคนหนึ่งกระทำผิดเเละถูกตั้งข้อหา ผู้พิพากษาก็ถามเด็กหนุ่มด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่าจริงไหม มีเหตุผลอันใด เด็กหนุ่มซึ่งมีท่าทีจะตอบโต้ก่อนเเล้ว พอได้ยินคำถาม กลับร้องไห้โฮเลย เพราะหวังว่า ตนเองกำลังจะได้รับความเป็นธรรม
ส่วนคุณChen Eing ซึ่งชอบถ่ายทอดประสบการณ์ตนเองให้ชาวบีดีฟัง อ่านเเล้วรับรู้ถึงความจริงใจ เเต่น่าเสียดายที่ความหวังดีนั้นก็อาจจะการันตีให้เป็นสูตรสำเร็จไม่ได้ ต่อให้ได้ผ่านได้รับรู้อะไรมาเยอะ เพราะคนทุกข์เเละคนอ่านเป็นใครต่อใครก็ไม่รู้มีที่มาต่างกัน เเต่เชื่อว่า คนที่หมั่นตอบคำถามในบีดีนี้ มันต้องมีคนเเบบคุณChen Eing อยู่ด้วย ไม่งั้นความคิดเห็นต่างๆจะมาจากความเห็นจากคนไม่มีประสบการณ์
1
ขอขอบคุณล่วงหน้าหากใครจะเเสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมค่ะ
โฆษณา