🌊 เมื่อพลังน้ำกลายเป็นเกมยุทธศาสตร์: จีนเริ่มสร้าง “เขื่อนพลังน้ำใหญ่ที่สุดในโลก” กลางทิเบต
🌏 China begins building world’s biggest hydropower dam in Tibet
🔺 “โปรเจกต์แห่งศตวรรษ” หรือการเริ่มต้นของแรงสั่นสะเทือนข้ามพรมแดน?
ในหุบเขาลึกของแม่น้ำยาลุงซางโป (Yarlung Tsangpo) กลางเขตปกครองตนเองทิเบต จีนได้จุดประกายโครงการมูลค่า 1.2 ล้านล้านหยวน (กว่า 6 ล้านล้านบาท) เพื่อสร้างเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ โดยมีนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง เป็นผู้ประกาศเริ่มต้นโครงการด้วยตนเองเมื่อวันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม 2025 ที่ผ่านมา
เขื่อนนี้จะสร้างบนพื้นที่ที่แม่น้ำลดระดับลงกว่า 2,000 เมตรในระยะเพียง 50 กิโลเมตร จุดนี้เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีศักยภาพการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำสูงที่สุดในโลก โดยจะมีสถานีผลิตไฟฟ้าแบบขั้นบันไดถึง 5 แห่ง และคาดว่าจะผลิตไฟฟ้าได้ถึง 300 ล้าน MWh ต่อปี มากกว่าเขื่อนสามผา (Three Gorges Dam) ถึง 3 เท่า
🌊 คลื่นสะเทือนจากยอดดอยสู่ปลายน้ำ: อินเดีย-บังกลาเทศกังวล
แม่น้ำยาลุงซางโปเปลี่ยนชื่อเป็นแม่น้ำพรหมบุตรเมื่อไหลลงสู่อรุณาจัลประเทศและอัสสัมของอินเดีย ก่อนกลายเป็นแม่น้ำจามูนาในบังกลาเทศ หากจีนสามารถควบคุมต้นน้ำได้ การควบคุมปริมาณน้ำอย่าง “พลการ” ไม่ว่าจะเพื่อผลิตไฟฟ้าหรือความมั่นคงทางยุทธศาสตร์อาจกระทบประชากรกว่าร้อยล้านคนปลายน้ำ
❝จีนสามารถใช้แม่น้ำนี้เป็นอาวุธได้❞ คือคำเตือนของผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิรัฐศาสตร์จากอินเดียที่สื่ออังกฤษยกมากล่าว
🏞️ เมื่อ ‘พลังสะอาด’ ปะทะ ‘ความศรัทธา’ และ ‘ความเปราะบางทางนิเวศ’
แม้โครงการจะถูกวางตัวในฐานะความหวังด้านพลังงานสะอาดของโลก แต่นักอนุรักษ์และกลุ่มสิทธิมนุษยชนทิเบตกลับมองต่าง เขื่อนขนาดยักษ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีแหล่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวพุทธ และยังเสี่ยงต่อดินถล่ม แผ่นดินไหวและการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศขั้นรุนแรง
📌 ปีที่แล้ว การประท้วงต้านเขื่อนกั่งถัว (Gangtuo) บนแม่น้ำดริชู (แยงซีตอนต้น) ในเขตเต๋อกือ ทางตะวันออกของทิเบต ซึ่งเป็นพื้นที่ภูมิประเทศและวัฒนธรรมใกล้เคียงกับโครงการใหม่นี้ ส่งผลให้ผู้ประท้วงหลาย 100 คนถูกจับกุม พร้อมคำเตือนจากนักอนุรักษ์ว่า
“โครงการพลังงานสะอาด อาจไม่สะอาดเลยในมุมมนุษย์และธรรมชาติ”
⚡ กระแสสะเทือนถึงไทย: โอกาสหรือความเสี่ยง?
แม้เขื่อนจะตั้งอยู่ไกลจากไทย แต่แรงกระเพื่อมของ “จีนเร่งสะสมอำนาจพลังงานสะอาด” อาจเขย่าความมั่นใจในหลายมิติของภูมิภาค รวมถึงไทยด้วย โดยเฉพาะในแง่ของ
🟢 การแข่งขันเทคโนโลยีสะอาด
🟡 ความสัมพันธ์เชิงภูมิรัฐศาสตร์อาเซียน
🔴 ความมั่นคงทางทรัพยากรและการลงทุนข้ามชาติ
📈 หุ้นไทยที่อาจได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม (Ripple Effect) มีดังนี้:
🔹 CKP (ซีเค พาวเวอร์) – ผู้เชี่ยวชาญด้านโรงไฟฟ้าพลังน้ำในลาว การที่จีนลงทุนมหาศาลในโครงการพลังน้ำขนาดใหญ่ อาจกดดันการแข่งขัน ทั้งในแง่ต้นทุนและเทคโนโลยี หรือในอีกด้านหนึ่งก็อาจเปิดโอกาสความร่วมมือเทคโนโลยีใหม่จากจีน
🔹 GUNKUL (กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง) – ธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานทดแทนและโครงสร้างไฟฟ้า หากรัฐบาลไทยต้องเร่งตามกระแส “พลังงานสะอาดเชิงรุก” หุ้นในกลุ่มนี้อาจได้รับอานิสงส์จากนโยบายหนุน
🔹 EA (พลังงานบริสุทธิ์) – แม้จะเด่นเรื่องแบตเตอรี่และ EV แต่การพัฒนาโครงสร้างพลังงานหมุนเวียนระดับโลก เช่น เขื่อนจีน อาจส่งผลต่อทิศทางราคาพลังงานหมุนเวียนโดยรวม
🔹 WHAUP (ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์) – เกี่ยวข้องกับสาธารณูปโภคและระบบน้ำในนิคม หากเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือทรัพยากรในภูมิภาค หุ้นกลุ่มน้ำและพลังงานมีแนวโน้มความผันผวน
🔹 SNNP (ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง) – ผู้ผลิตขนมและเครื่องดื่มที่พึ่งพาวัตถุดิบเกษตร หากเกิดความผันผวนด้านน้ำหรือภูมิรัฐศาสตร์ในอาเซียน อาจกระทบต้นทุนและพฤติกรรมผู้บริโภคทางอ้อมได้
📌 วิเคราะห์เชิงนโยบาย
การเคลื่อนไหวของจีนในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงเรื่องของพลังงานหรือเศรษฐกิจ แต่สะท้อนถึง การใช้อำนาจเหนือทรัพยากรข้ามพรมแดน ซึ่งอาจเป็นจุดตั้งต้นของความตึงเครียดระลอกใหม่ในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หากไทยยังไม่มีท่าทีเตรียมพร้อมด้าน “การทูตทรัพยากร” หรือ “ภูมิรัฐศาสตร์พลังงาน” การเปลี่ยนแปลงแบบนี้อาจกลายเป็นความเสี่ยงมากกว่าผลประโยชน์
💬 คุณคิดว่าไทยควรมีบทบาทอย่างไรท่ามกลางการแข่งพลังงานสะอาดของภูมิภาคนี้?
เราควรจับตาเฉพาะผลกระทบทางเศรษฐกิจหรือควรหันมาใส่ใจมิติสิ่งแวดล้อมและมนุษยธรรมมากขึ้น?
ร่วมแสดงความเห็นของคุณได้ในทุกมิติด้านล่างนี้เลยค่ะ ⬇️✨
Hashtags:
#SuperpowerStage #เวทีมหาอำนาจ #ChinaHydropower #TibetDam #พลังงานสะอาดหรืออาวุธทางการเมือง #SETกระเพื่อม #StockAtlas #วิเคราะห์หุ้น #ข่าวต่างประเทศ #GlobMaps #StockAtlas
Reference:
📰 The Guardian – China starts building world’s biggest hydropower dam
- 2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
