30 ก.ค. เวลา 23:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

มาทำความรู้จัก 3 หน่วยทหารใหม่ ที่กองทัพจีนจัดตั้งแทน กองกำลังสนับสนุนทางยุทธศาสตร์ (SSF) ตอนที่ 1

โดย พ.อ. ชัยยศ ศุภมิตรกฤษณา
Strategic Support Force (SSF) หรือ กองกำลังสนับสนุนทางยุทธศาสตร์ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (People's Liberation Army Strategic Support Force - PLASSF) ถูกจัดตั้งขึ้นในปี 2558 เป็นหน่วยงานที่เคยมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการปรับโครงสร้างกองทัพจีนให้ทันสมัยและมุ่งเน้นการทำสงครามข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยี
  • ​SSF ประกอบด้วยสองหน่วยงานหลัก คือ กรมระบบอวกาศ (Space Systems Department (航天系统部)): รับผิดชอบการปฏิบัติการด้านอวกาศเป็นหลัก และ กรมระบบเครือข่าย (Network Systems Department (网络系统部)): รับผิดชอบการปฏิบัติการด้านข้อมูลข่าวสารเป็นหลัก โดยมีบทบาทสำคัญดังนี้
  • ​สงครามไซเบอร์ (Cyber Warfare): SSF มีบทบาทสำคัญในการดำเนินการโจมตีและป้องกันทางไซเบอร์ โดยมีเป้าหมายในการทำลายหรือก่อกวนโครงข่ายคอมพิวเตอร์และระบบข้อมูลของศัตรู รวมถึงการปกป้องระบบของตนเอง
  • ​สงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare - EW): SSF พัฒนาและใช้งานระบบ EW เพื่อรบกวน ควบคุม หรือทำลายระบบอิเล็กทรอนิกส์ของศัตรู เช่น เรดาร์ ระบบสื่อสาร และระบบนำทาง จีนได้เปิดตัวเครื่องบินรบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ เช่น J-16D และ J-15D ที่บ่งชี้ถึงขีดความสามารถที่ก้าวหน้าในด้านนี้
  • ​สงครามข้อมูลข่าวสาร (Information Warfare): ครอบคลุมการรวบรวม วิเคราะห์ และเผยแพร่ข้อมูลเพื่อสร้างความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ รวมถึงการทำลายความน่าเชื่อถือของข้อมูลศัตรู
  • ​C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance): SSF มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบ C4ISR ที่เชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารจากแหล่งต่างๆ เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจและสั่งการในสมรภูมิ
  • ​สงครามเครือข่าย (Network-Centric Warfare): เป็นแนวคิดที่เน้นการเชื่อมโยงข้อมูลและระบบต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อสร้างความเข้าใจสถานการณ์ร่วมกันและเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติการ SSF เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนแนวคิดนี้ของกองทัพจีน
  • ​Military IT: SSF มีหน้าที่รับผิดชอบในการพัฒนาและดูแลระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้ในกองทัพทั้งหมด
  • ​การปฏิบัติการด้านอวกาศ: การปล่อยและการควบคุมดาวเทียมเพื่อวัตถุประสงค์ทางทหาร การโจมตีดาวเทียมของศัตรู หรือการก่อกวนระบบดาวเทียม การบริหารจัดการและควบคุมระบบดาวเทียมนำทาง Beidou ของจีน
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือ SSF ได้ถูกยุบเลิกอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 และถูกแบ่งออกเป็นหน่วยงานใหม่ 3 หน่วยงานที่รับผิดชอบภารกิจเดิมของ SSF โดยตรงภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมาธิการการทหารกลาง (Central Military Commission - CMC)
แม้จะถูกยุบไปแล้ว แต่การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ SSF ก็ยังคงสำคัญ เพราะมันเป็นตัวสะท้อนถึงวิสัยทัศน์และแนวทางของจีนในการพัฒนาขีดความสามารถทางทหารในโดเมนใหม่ๆ
  • ​ภาพรวมและการจัดตั้ง SSF:
การก่อตั้ง: SSF จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ในฐานะส่วนหนึ่งของการปฏิรูปกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนครั้งใหญ่ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง โดยมีสถานะเป็นเหล่าทัพที่ 5 เคียงข้างกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และ "**กองทัพจรวด**"
วัตถุประสงค์: เป้าหมายหลักของการจัดตั้ง SSF คือการรวมศูนย์ขีดความสามารถด้านอวกาศ ไซเบอร์ อิเล็กทรอนิกส์ และสงครามจิตวิทยา ซึ่งเดิมเคยกระจัดกระจายอยู่ในหน่วยงานต่างๆ ของกองทัพเข้าไว้ภายใต้การบังคับบัญชาเดียวกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำสงครามที่เน้นข้อมูลข่าวสาร (informationized conflicts) และเสริมสร้างอำนาจในการแสดงแสนยานุภาพในโดเมนอวกาศและไซเบอร์
  • ​โครงสร้างการจัด (ก่อนการยุบ):
SSF ประกอบด้วยสองหน่วยงานหลักที่มีสถานะกึ่งอิสระและเท่าเทียมกัน รายงานตรงต่อคณะกรรมาธิการการทหารกลาง (CMC):
1. Space Systems Department (航天系统部): รับผิดชอบการปฏิบัติการด้านอวกาศเป็นหลัก ซึ่งรวมถึง:
  • ​การส่งดาวเทียมและการปฏิบัติการ: การปล่อยและการควบคุมดาวเทียมเพื่อวัตถุประสงค์ทางทหาร
  • ​C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance): การให้ขีดความสามารถ C4ISR ผ่านดาวเทียม เช่น การรวบรวมข่าวกรอง การเฝ้าระวัง การลาดตระเวน การสื่อสาร และการนำทาง (รวมถึงระบบนำทางเป่ยโต่ว - Beidou)
  • ​การปฏิบัติการต่อต้านอวกาศ (Counter-space operations): รวมถึงความสามารถในการโจมตีดาวเทียมของศัตรู หรือการก่อกวนระบบดาวเทียม
  • ​การจัดการดาวเทียม Beidou: มีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการและควบคุมระบบดาวเทียมนำทาง Beidou ของจีน
2. Network Systems Department (网络系统部): รับผิดชอบการปฏิบัติการด้านข้อมูลข่าวสารเป็นหลัก ซึ่งรวมถึง:
  • ​สงครามไซเบอร์ (Cyber Warfare): การดำเนินการโจมตีและป้องกันทางไซเบอร์ เพื่อทำลาย ก่อกวน หรือเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์และโครงข่ายข้อมูลของศัตรู รวมถึงการปกป้องระบบของตนเอง
  • ​สงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare - EW): การใช้มาตรการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อรบกวน ควบคุม หรือทำลายระบบอิเล็กทรอนิกส์ของศัตรู เช่น เรดาร์ ระบบสื่อสาร และระบบนำทาง
  • ​สงครามจิตวิทยา (Psychological Warfare): การใช้ข้อมูลและการเผยแพร่ข่าวสารเพื่อส่งผลต่อขวัญกำลังใจ ความคิด และการตัดสินใจของศัตรูหรือประชาชน
  • ​การเก็บรวบรวมและบริหารจัดการข่าวกรองทางเทคนิค: การรวบรวมและวิเคราะห์ข่าวกรองจากแหล่งทางเทคนิคต่างๆ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการ
นอกจากนี้ SSF ยังมีหน่วยงานสนับสนุนทั่วไปเช่นเดียวกับเหล่าทัพอื่นๆ ได้แก่ ฝ่ายกำลังพล ฝ่ายงานการเมือง ฝ่ายส่งกำลังบำรุง และคณะกรรมการตรวจสอบวินัย
  • ​บทบาทและภารกิจหลักของ SSF (ก่อนการยุบ):
SSF มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการปฏิบัติการรบของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแสวงหาความได้เปรียบในโดเมนอวกาศและไซเบอร์ รวมถึงการรับรองการปฏิบัติการที่ราบรื่น โดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะดังนี้:
  • ​การได้มาซึ่งเป้าหมาย (Target Acquisition): การระบุและยืนยันตำแหน่งของเป้าหมาย
  • ​การลาดตระเวน (Reconnaissance): การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับศัตรูและสภาพแวดล้อมทางยุทธการ
  • ​การเฝ้าระวัง (Surveillance): การติดตามกิจกรรมของศัตรูอย่างต่อเนื่อง
  • ​การรวบรวมข่าวกรอง (Intelligence Collection): การรวบรวม วิเคราะห์ และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่มีคุณค่าทางยุทธศาสตร์
  • ​การดำเนินการสงครามอิเล็กทรอนิกส์และไซเบอร์: รวมถึงการตอบโต้มาตรการของศัตรู
  • ​การสนับสนุนข้อมูลข่าวสารเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Information Support): การให้การสนับสนุนข้อมูลข่าวสารในระดับยุทธศาสตร์แก่กองทัพปลดปล่อยประชาชนโดยรวม เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการปฏิบัติการร่วมและการปฏิบัติการระยะไกล
  • ​การสนับสนุนการปฏิบัติการร่วม (Joint Operations): SSF ถูกออกแบบมาเพื่อบูรณาการขีดความสามารถด้านข้อมูลข่าวสารเข้ากับการปฏิบัติการของเหล่าทัพอื่นๆ เพื่อสร้าง "ร่มข้อมูลข่าวสาร" (information umbrella) ที่ครอบคลุมทั้งกองทัพ
หมายเหตุ : คำว่า information สามารถแปลเป็นภาษาไทยได้ 2 ลักษณะ คือคำว่า "ข้อมูลข่าวสาร" ซึ่งเป็นคำในบริบทด้านการข่าว และคำว่า "สารสนเทศ" ซึ่งเป็นคำในบริบทด้านเทคโนโลยี ทั้งสองคำนั้นคือเรื่องเดียวกัน เนื่องจาก ข้อมูลข่าวสาร ในปัจจุบันเป็น "ดิจิทัล" มากกว่า "กระดาษ"
ติดตามตอนที่ 2
อ้างอิง
โฆษณา