Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
PPTV Wealth
•
ติดตาม
27 ก.ค. เวลา 05:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สั่งพักหนี้-ลดดอกเบี้ย ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน
คลัง ให้แบงก์รัฐ ออกมาตรการ"พักหนี้-ลดดอกเบี้ย" ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา
นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นจากเหตุปะทะกันระหว่างกำลังความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ได้ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัย ของประชาชนในพื้นที่และขยายวงกว้างไปสู่ภาคเศรษฐกิจและสังคมในระดับชุมชนโดยรอบ
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ และการดำเนินธุรกิจของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก
นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ในการนี้ รัฐบาลตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นและให้ความสำคัญกับการดูแลประชาชนในพื้นที่โดยเร่งด่วน โดยได้มอบหมายให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจดำเนินมาตรการด้านการเงินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น ซึ่งครอบคลุมทั้งมาตรการพักชำระหนี้ มาตรการลดอัตราดอกเบี้ย และมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างครอบคลุมแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
ธนาคารออมสิน จัดทำมาตรการช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ประกอบด้วย
1. มาตรการพักชำระเงินต้น สำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จนถึงงวดเดือนธันวาคม 2568 และให้จ่ายดอกเบี้ยเพียงบางส่วน เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระหนี้
2. มาตรการสินเชื่อเพื่อรายย่อย จำนวน 2 โครงการ ได้แก่
●
สินเชื่อเพื่อช่วยเหลือสำหรับประชาชนรายย่อย : ระยะเวลาผ่อนชำระ 12 เดือน ปลอดชำระเงินงวด 3 เดือนแรก ดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0.60 ต่อเดือน
●
สินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพสำหรับประชาชนรายย่อย : ระยะเวลาผ่อนชำระ 60 เดือน ดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0.75 ต่อเดือน
3.สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการ SMEs วงเงินกู้ต่อรายไม่เกิน 5 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 7 ปี ปลอดชำระเงินงวดไม่เกิน 1 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 = MLR – ร้อยละ 2.65 ปีที่ 2 เป็นต้นไป = MLR ยกเว้นค่าธรรมเนียม Front End Fee และ Prepayment Fee
ทั้งนี้ สามารถแสดงความประสงค์ขอเข้าร่วมมาตรการผ่านทางเว็ปไซต์ของธนาคารออมสินหรือติดต่อ
สาขาของธนาคารออมสินในพื้นที่ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดทำมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย - กัมพูชา ประกอบด้วย
1. โครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน ปี 2568 เพื่อเสริมสภาพคล่องเกษตรกรในด้านค่าใช้จ่ายทั่วไป เช่น ค่าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น วงเงินต่อรายไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบัน MRR ของ ธ.ก.ส. เท่ากับร้อยละ 6.725 ต่อปี) ระยะเวลากู้ไม่เกิน 3 ปี ปลอดชำระดอกเบี้ยใน 6 เดือนแรก
2. โครงการสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อเป็นค่าลงทุนในการซ่อมแซมบ้านเรือนทรัพย์สิน ค่าซ่อมเครื่องมือและอุปกรณ์การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย วงเงินต่อรายไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MRR – 2 ต่อปี ระยะเวลากู้ไม่เกิน 15 ปี
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ส่งผลให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ก่อให้เกิดผลกระทบและความสูญเสียแก่ครอบครัวและญาติพี่น้อง ของผู้ประสบเหตุเป็นอย่างมาก ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน
พร้อมดำเนินการตามนโยบายนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จัดทำ “มาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าของธนาคารจากเหตุการณ์ชายแดน” เป็นการเร่งด่วน จำนวน 3 มาตรการ ประกอบด้วย
1.สำหรับลูกค้าปัจจุบันที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือที่อยู่อาศัยเสียหายจากสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดนได้รับอัตราดอกเบี้ยลดลงจากอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันเหลือเพียง 0.01% ต่อปี นาน 5 ปีแรก และปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.75% ต่อปี กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี
และกรณีซื้ออุปกรณ์ / ชำระหนี้ เท่ากับ MRR (อัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ปัจจุบันอยู่ที่ 6.495% ต่อปี)
2. สำหรับลูกค้าปัจจุบันที่ประสบปัญหาที่อยู่อาศัยเสียหายทั้งหลังจนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ หรือทุพพลภาพถาวร หรือเสียชีวิต ได้รับอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันเหลือ 0.01% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา
3. สำหรับลูกค้าในพื้นที่ที่ต้องการกู้เพื่อปลูกสร้างอาคารใหม่ทดแทนอาคารเดิม ได้รับอัตราดอกเบี้ย 6 เดือนแรก 0% ต่อปี เดือนที่ 7 – 12 เท่ากับ 0.50% ต่อปี ปีที่ 2 – 3 เท่ากับ 2.50% ต่อปี ปีที่ 4 – 5 เท่ากับ 3.50% ต่อปี ปีที่ 6 – 10 เท่ากับ MRR-2.00% ต่อปี และปีที่ 11 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.75% ต่อปี กรณีลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี
นายกมลภพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธอส. มีความห่วงใยเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติภารกิจจากสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา จึงมีนโยบายในการสนับสนุนเครื่องอุปโภคบริโภคตลอดจนสิ่งของจำเป็นให้แก่หน่วยทหาร
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดทำมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าของธนาคารจากเหตุการณ์ชายแดน วงเงินโครงการ 200 ล้านบาท
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.)
นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank กล่าวว่า จากอิทธิพลพายุ “วิภา” ส่งผลกระทบให้หลายจังหวัดทางภาคเหนือ มีฝนตกหนัก เกิดอุทกภัย น้ำท่วมฉับพลัน กระทบต่อการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ได้รับความเสียหายทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งนี้ ธนาคารห่วงใยลูกค้าและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างยิ่ง จึงออกมาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในพื้นที่ประสบภัยพิบัติ ให้สามารถกลับมาเดินหน้าธุรกิจได้ในเร็ววัน ได้แก่
มาตรการ “พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย” สำหรับลูกค้าธนาคารที่ได้รับผลกระทบทางตรงและทางอ้อม ในพื้นที่ประสบภัยพิบัติตามที่ธนาคารกำหนด เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ด้วยการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย สำหรับกลุ่มเงินกู้ยืมแบบมีระยะเวลา (Term loan) สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน สัญญาเบิกเงินทุนหมุนเวียนประเภทตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) และสินเชื่อแฟคตอริ่ง ขยายระยะเวลาชำระตั๋วสัญญาใช้เงินออกไปอีกสูงสุด 180 วัน และสามารถพักชำระดอกเบี้ยได้
มาตรการ “เติมทุนฉุกเฉิน เพื่อซ่อมแซมฟื้นฟูกิจการ” สำหรับลูกค้าเดิมได้รับผลกระทบทางตรง ที่มีสถานประกอบการตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ภัยพิบัติตามที่ธนาคารกำหนด เพื่อให้มีวงเงินกู้ฉุกเฉิน นำไปฟื้นฟูธุรกิจเฉพาะหน้า วงเงินกู้ 10% ของวงเงินเดิม ขั้นต่ำ 30,000 บาท ถึงสูงสุด 200,000 บาท (บุคคลธรรมดา สูงสุด 100,000 บาท และนิติบุคคล สูงสุด 200,000 บาท)
อัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี ระยะเวลากู้ 3 ปี ปลอดชำระเงินต้น 12 เดือน ไม่ต้องมีหลักประกัน ยกเว้นค่าธรรมเนียม ลดกระบวนการนำส่งเอกสารในการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทางตรงเป็นการเร่งด่วน
นอกจากนั้น ธนาคารยังมีสินเชื่อช่วยเติมทุนเพิ่มเติม สำหรับเสริมสภาพคล่อง ลงทุน ยกระดับธุรกิจ ภายหลังสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลาย อัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท ได้แก่ 1.สินเชื่อ “SME Green Productivity” 2.สินเชื่อ “ปลุกพลัง SME” และ 3.สินเชื่อ “Beyond ติดปีก SME”
ทั้งนี้ มาตรการช่วยเหลือครั้งนี้เป็นทางเลือกโดยสมัครใจ ผู้ประกอบการที่ต้องการรับบริการ แจ้งความประสงค์ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ แบ่งเป็น
1. มาตรการบรรเทาผลกระทบเร่งด่วน ขยายระยะเวลาชำระหนี้สูงสุด 365 วัน และปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสูงสุดร้อยละ 20 จากอัตราเดิม และเพิ่มวงเงินชั่วคราว 1 ปี สูงสุดร้อยละ 30 ด้วยอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น ร้อยละ 2.99 ต่อปี
2. มาตรการเสริมสภาพคล่องและละต้นทุนทางการเงินสนับสนุนการเปิดตลาดใหม่
●
มาตรการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อออกงานแสดงสินค้า (EXIM-DITP Empower Financing) อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 6.15 ต่อปี
●
มาตรการเงินทุนหมุนเวียนก่อนและหลังการส่งออก (EXIM Export Booster) อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นร้อยละ 3.99 ต่อปี
●
เงินทุนหมุนเวียนหลังการส่งออกพร้อมประกันการส่งออก (EXIM Safe Trade) อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นร้อยละ 3.99 ต่อปี พร้อมการชดเชยจาก ธสน. หากไม่ได้รับชำระค่าสินค้าจากคู่ค้า
●
Export Credit Insurance ยกเว้นค่าวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับผู้เอาประกัน 5 ราย
●
สินเชื่อระยะยาวร่วมกับสำนักงานประกันสังคม อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นคงที่ร้อยละ 2 ต่อปี ระยะเวลา 3 ปี
●
สินเชื่อระยะยาวเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต (Transformation Loan) อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยสำหรับ SMEs ร้อยละ 5.68 ต่อปี
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ออกมาตรการช่วยผู้ได้รับผลกระทบ
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) มีมาตรการไอแบงก์เราไม่ทิ้งกัน เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดน ทั้งทางตรงและทางอ้อม ประกอบด้วย
พักชำระเงินต้นและกำไร กำหนดอัตรากำไรตามสัญญาสินเชื่อเดิม ระยะเวลาสูงสุด 6 เดือน ขยายระยะเวลาออกไปสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน หรือไม่เกินค่างวดชำระเดิม
ให้วงเงินเพิ่มเพื่อซ่อมแซม ฟื้นฟู ที่อยู่อาศัยและกิจการลูกค้า สำหรับสินเชื่อเพื่ออยู่อาศัยอัตรากำไรเริ่มต้นร้อยละ 1.99 ในปีแรก วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย ระยะเวลากู้สูงสุด 20 ปี
และสำหรับสินเชื่อฟื้นฟูธุรกิจ อัตรากำไรเริ่มต้นร้อยละ 3.25 ในปีแรก วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 5 ล้านบาทต่อราย ระยะเวลากู้สูงสุด 5 ปี
บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกค้าเดิมและมาตรการภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS11 “บสย. SMEs ยั่งยืน” ได้แก่
1. มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้และลูกค้าเดิมของ บสย.
- ผ่อนผันการชำระค่าธรรมเนียมค้ำประกัน และค่าจัดการค้ำประกันโดยพักชำระออกไปอีก 6 เดือน นับจากวันถึงกำหนดชำระค่าธรรมเนียม
- พักชำระค่างวดเป็นระยะเวลา 3 เดือน
2.มาตรการเสริมสภาพคล่องภายใต้โครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS11 “บสย. SMEs ยั่งยืน”
- มาตรการ SMEs Power Trade & Biz วงเงินค้ำประกัน 3,000 ล้านบาท วงเงินค้ำประกันต่อราย 500,000 – 10 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนสำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา
3. โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs Micro Biz วงเงินค้ำประกัน 2,000 ล้านบาท วงเงินค้ำประกัน
ต่อราย 10,000 – 500,000 บาท ตอบโจทย์กลุ่มรายย่อย (Micro SMEs) ที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียน แต่ขาดคน
ค้ำประกัน และขาดหลักทรัพย์ค้ำประกัน
กระทรวงการคลังให้ความสำคัญกับการบรรเทาผลกระทบในพื้นที่ โดยมุ่งช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เพียงพอในการดำรงชีวิต ประกอบอาชีพ และฟื้นฟูกิจการอย่างต่อเนื่อง และเห็นว่ามาตรการที่จัดทำขึ้นครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึง ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อย และประชาชนทั่วไปในพื้นที่ รวมถึงสามารถช่วยลดภาระต้นทุน เสริมสภาพคล่อง และสนับสนุนการปรับปรุง ซ่อมแซม หรือฟื้นฟูทรัพย์สิน เช่น อาคาร โรงงาน และเครื่องจักร ให้สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับผลกระทบสามารถขอรับความช่วยเหลือผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่เกี่ยวข้องได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยกระทรวงการคลังจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมที่จะออกมาตรการเพิ่มเติมอย่างเหมาะสมได้ทันท่วงทีต่อไป
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ :
https://www.pptvhd36.com/wealth/monetary/253425
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์
https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
Facebook PPTVHD36 :
https://www.facebook.com/PPTVHD36
YouTube :
www.youtube.com/@PPTVHD36
กัมพูชา
ดอกเบี้ย
จัดการหนี้
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย