28 ก.ค. เวลา 04:18 • อาหาร

สวัสดีครับทุกท่าน ผมหายไปนานเลย ยอมรับว่า "หมดไฟ" ครับ

อันที่จริงก็ไม่ได้หายไปไหนสักเท่าไรครับ ก็เข้ามาอ่าน มาขอความรู้ ทุกท่านอยู่เนืองๆ ละครับ
แต่ด้วยความสะดวกสบายในเทคโนโลยีของสมัยนี้ มันเลยทำให้การสื่อสารผ่านตัวหนังสือยาวๆ ไม่เป็นที่นิยม คนรุ่นผมที่ชอบอานก็ สายตาไม่ค่อยดี หนักไปกว่านั้นคือ สมาธิสั้น อ่านช้าไม่เป็น เร่งอ่านแบบรวบๆ ทำให้คนเขียนเองก็พลอยหายตามไปด้วย
วันนี้ที่ลงมือเขียนถึงทุกท่านนั้น ก็อยากจะบอกว่า คิดถึงครับ ไม่ได้เขียนมานาน มิตรสหายหลายท่านยังอยู่ หลายท่านก็อาจหมดไฟเหมือนเช่นผม คือกันเนาะ
เอาล่ะวันนี้มี "ข้าวต้มแกว" มาฝาก คำว่า “แกว” คือคำที่คนไทยภาคอีสานใช้เรียก ชาวญวน/เวียดนาม ในสมัยก่อน (ขออภัยอาจไม่สุภาพสำหรับบางท่าน)
สมัยก่อน ชาวเวียดนามบางกลุ่มเรียกตนเองว่า Kẻ (แก๋) หรือ Giao ในชื่อท้องถิ่น เช่น Kẻ Chợ (แปลว่า คนเมือง – ใช้เรียกชาวฮานอย) จึงอาจเป็นไปได้ว่าเพื่อนบ้าน (จีน ลาว ไทย) หยิบคำนี้มาเรียกเวียดนามโดยรวมว่า “แกว”
ข้าวต้มแกวในแบบ ก้อนสี่เหลี่ยมห่อใบตองนึ่ง เป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลจาก ชาวเวียดนามอพยพ ที่เข้ามาตั้งรกรากในจังหวัดสกลนครตั้งแต่ช่วง สงครามอินโดจีน (ประมาณปี 2490–2500)
มีต้นแบบจากอาหารเวียดนามชื่อว่า “บั๊ญจึง (Bánh Chưng)” ซึ่งเป็นข้าวต้มก้อนสี่เหลี่ยมไส้หมู ห่อใบตองหรือใบตะไคร้
ที่ตลาดเช้าสกลนคร ราคาอยู่ที่ห่อละ 20 บาท ถือว่าถูกมากเลยนะครับ
เหมาะแก่การเป็นของฝาก สำหรับญาติผู้ใหญ่เลยทีเดียว วันนนี้ผมได้มา 10 ห่อ กำลังร้อนๆเลย
คุณพ่อผมทานแทนข้าวเช้า พร้อมไข่เป็ดต้ม ถือว่าเข้ากันได้ดี
เอาล่ะครับ วันนี้คงลาไปเพียงเท่านี้ อ่อๆ ผมเปลี่ยน Logo ใหม่ เป็น "ร้านเล่าลุงคำ" จริงๆ ไม่มีอะไร ผมเพิ่งอ่าน เพชรพระอุมา จบก็เลยอินนั่นเองล่ะ
ขอบคุณที่อ่าน และ ผมระลึกถึงทุกคนเสมอนะครับ สวัสดีครับ
โฆษณา