ภาพลวงตาของการไม่เท่ากัน
ถ้าหากว่าคุณเป็นหนึ่งในคนที่เล่นโซเชียล คงคุ้นเคยกับ “การถูกปิดกั้นการมองเห็น” หรือกระทั่ง บางคนอาจจะมีประสบการณ์ตรงด้วยตัวเอง มันคือการถูกจำกัดการที่ผู้อื่นจะมองเห็นโพสต์ของคุณ ในกรณีกลับกัน คุณจะไม่สามารถเห็นโพสต์ ของคนที่ถูกระงับการมองเห็นได้ ด้วยเหตุผลต่างๆ ที่ทางโซเชียลนั้นๆกำหนด หากละเมิดก็จะถูกระงับการมองเห็น แล้วแต่โทษหนักเบา เป็นระยะเวลาไม่เท่ากัน
คุณรู้หรือไม่ว่า แท้จริงแล้วในตัวของเราเอง ก็มีโปรแกรมระงับการมองเห็นเช่นกัน และเราถูกระงับการมองเห็นบ่อย มากกว่าที่เรารู้ โปรแกรมที่ว่านี้ก็คือ ทัศนคติ ความเชื่อ รสนิยม ความคิดอ่าน ความเห็น ฯลฯ ของเรานั่นเอง ว่าสิ่งใดดี-ไม่ดี ถูก-ผิด ดี-ชั่ว และในหลายๆครั้ง สิ่งเหล่านี้ปิดกั้นเรา จากการมองเห็นให้ตรงกับความเป็นจริง ทำให้เข้าใจผู้อื่นผิด เกิดความขัดแย้ง เกลียดชัง ไม่เข้าใจกัน เหตุจากการคิดผิด เห็นผิด เข้าใจผิดของเรานั่นเอง
สิ่งเหล่านี้ ในทางพุทธจะอธิบายได้ว่า เกิดมาจาก กิเลส ตัณหา อุปทาน ทำให้เราคิดนึกปรุงแต่ง แล้วเกิดความทุกข์ขึ้นมา พอปรุงแต่งก็คิดเห็นเปรียบเทียบ เห็นความไม่เท่าเทียมกัน เห็นขั้วข้าง มี 2 สิ่งคู่กันเสมอ ไม่เป็นอย่างหนึ่งก็ต้องเป็นอีกอย่างหนึ่ง ไม่เท่าเทียมกัน ธรรมะในระดับต้นก็เป็นเช่นนี้ แต่จะถูกแบ่งแยกอย่างชัดเจน กำหนดด้วยศีล สิ่งใดถูกสิ่งใดผิดมีมาตรฐาน ไม่ใช่ตั้งเอาเองว่า สิ่งนี้ชอบสิ่งนี้คือดี สิ่งนี้ไม่ชอบสิ่งนี้คือไม่ดี ตามแต่เราอยาก นั่นเป็นกิเลสตัณหาพาไปให้เห็นผิด
เมื่อมีความเชื่อผิดๆ ก็จะคิดผิด ตัดสินใจผิด และออกมาเป็นคำพูด และการกระทำ ที่ผิดบิดเบือนจากความเป็นจริง ในระดับต้นจึงต้องมี “ศีล” เป็นเครื่องแบ่งว่าอะไรดีอะไรชั่ว แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ยังมีธรรมะที่สูงขึ้นละเอียดขึ้นอีก เป็นธรรมในระดับขั้นกลาง ที่จะเห็นทุกอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีขั้วข้าง ในทางพุทธการเห็นทุกอย่างตามความเป็นจริงในระดับนี้ คือ ทุกสิ่งทุกอย่างจริงๆแล้วเท่ากันหมด แต่กิเลส ตัณหา อวิชชาบิดเบือน ทำให้เรามองเห็นว่ามันไม่เท่ากัน มีขั้วข้างดี-ชั่ว ถูก-ผิด
จริงๆแล้วเมื่อจิตของคุณเป็นกลาง เห็นทุกอย่างตามความเป็นจริง คุณจะเห็นได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างเท่ากันหมด เพราะล้วนตกอยู่ภายใต้กฎอันเดียวกัน ยกตัวอย่างให้ดูง่ายๆ คุณเคยเล่นเกมภาพลวงตา ที่มีภาพเป็นรูปทรง 2 รูปหรือเส้นหลัก 2 เส้นและส่วนประกอบอื่นๆ ทำให้เห็นว่า รูปทรงหรือเส้น 2 อันนั้นไม่เท่ากัน
ซึ่งแท้จริงแล้ว ทั้งสองมีขนาดเท่ากันทุกประการ แต่เพราะสิ่งที่อยู่รอบข้าง ทำให้มันดูเหมือนไม่เท่ากัน ก่อนที่จะเฉลยคุณจะต้องเถียงคอเป็นเอ็นว่า มันไม่เท่ากันชัดๆ แต่พอได้ดูเฉลย คือเอาทุกสิ่งทุกอย่างออก ให้เหลือแต่รูปทรง หรือเส้นหลัก คุณจะเห็นเลยว่า มันเท่ากันทุกประการ การมองเห็นของคุณมันผิดเพี้ยนไป เพราะสิ่งที่เอามาประกอบ ทำให้การมองเห็นภาพผิดเพี้ยนไป
ถ้าจะเปรียบส่วนเกินต่างๆนั้น เป็นกิเลสตัณหาของเรา มีมันอยู่เราจึงเห็นผิด เมื่อมันถูกกำจัดออก เราก็เห็นถูกขึ้นมา เห็นตามความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเท่ากันด้วยสภาวะธรรม ตกอยู่ภายใต้กฎอันเดียวกัน คือ ไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เรามีชีวิตอยู่โดยถูกหลอกให้เห็นผิดมาตลอดว่า ทุกสิ่งในโลกนี้ไม่เท่าเทียม ความคิดปรุงดี-ชั่ว ชอบ-ชัง ล้วนเป็นสิ่งลวงตาลวงใจ ให้เห็นผิดจากความเป็นจริง
ความเห็นผิดนี้ก็เกิดจากกิเลสตัณหาของเราเอง แล้วเราก็หลงปรุงดี ปรุงชั่ว รักชอบเกลียดชัง วนเวียนอยู่อย่างนี้ไม่จบไม่สิ้น เกิดแล้วตายอีกกี่ภพกี่ชาติ ก็ยังไม่อาจพ้นวัฏฏะ ด้วยแรงแห่งกิเลสอันเหนียวแน่น ทำให้ต้องทุกข์วนเวียนกันไปอย่างนี้ ไม่มีที่สิ้นสุด จะตัดภพชาติให้ขาดสะบั้นลง มีแต่ต้องทำให้เห็นถูกขึ้นมา ด้วยการกำจัดบ่อเกิดแห่งทุกข์ทั้งหลาย ที่เป็นตัวบิดเบือนให้ไม่มองเห็นความจริง เมื่อชำระกิเลสได้อย่างหมดสิ้น ภพชาติก็ไม่อาจมีอยู่ได้อีก ความดับสนิทแห่งทุกข์นั้นก็จะอุบัติขึ้น ได้แก่นิพพานนั่นเอง
ขอขอบคุณภาพจาก
illust.com%2F61%2F61e5c16f6b18bb489b73f39f4b5cfc64_t.jpeg&imgrefurl=https%3A%2F%2Fth.ac-illust.com%2Fclip-art%2F23628403&docid=9jrT6mz7wZiJsM&tbnid=44buLHLzW24lNM&vet=12ahUKEwjItr_XkN-OAxU0V3ADHegwM-8QM3oECDYQAA..i&w=453&h=340&hcb=2&ved=2ahUKEwjItr_XkN-OAxU0V3ADHegwM-8QM3oECDYQAA#imgrc=44buLHLzW24lNM&imgdii=JKswfIz9OIShrM
schroeder.html&docid=d1lXusssdnycsM&w=900&h=642&itg=1&q=%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B2%20%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%94&ved=2ahUKEwis95HpkN-OAxVESnADHad5F6kQxiAoAXoECAAQLA
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
