Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Ary Ariya
•
ติดตาม
28 ก.ค. เวลา 12:29 • ความคิดเห็น
เราเชื่อเรื่องอดีตชาติและเวรกรรมไหม?
แล้วถ้าสงคราม ความขัดแย้งหรือแม้แต่การแบ่งแยกของประเทศ ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะการเมืองหรือผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ แต่อาจเป็นผลของกรรมร่วมที่ผูกโยงกันข้ามภพข้ามชาติระหว่างกลุ่มจิตวิญญาณของประเทศ?
บางทีความรู้สึกเจ็บลึกกับประเด็นบางอย่าง หรือภาพฝันในวัยเด็กที่เราไม่เคยเข้าใจ อาจไม่ใช่เรื่องลวงตาแต่อาจคือเสียงเรียก ของจิตวิญญาณที่รอให้เราไปปลดบ่วงที่ค้างคาไว้…โพสต์นี้ไม่ได้เขียนเพื่อกล่าวโทษฝ่ายใด แต่เพื่อให้เราทั้งในฐานะลูกหลานไทย เขมร ลาว มอญหรือชาติพันธุ์ใดก็ตาม ได้หยุดลงสักครู่และตั้งคำถามด้วยหัวใจว่า เรากำลังแบกกรรมของบรรพชนที่ยังไม่ถูกเยียวยาอยู่หรือเปล่า?
🌏 กรรมร่วมของประเทศ
ไม่ใช่เรื่องไกลตัวในโลกวิญญาณไม่มี “ประเทศไทย” หรือ “ประเทศกัมพูชา” มีเพียงกลุ่มจิตวิญญาณที่เคยอาศัยอยู่ร่วมกัน บางชาติอาจเคยทำลาย อีกชาติอาจเคยล้างแค้น บางฝ่ายเคยสาป บางฝ่ายเคยอุทิศตนเพื่อป้องกันและในกาลหนึ่ง เราอาจเป็นทั้งสองฝ่ายในภพที่ต่างกัน
♾️ เรารู้ได้อย่างไรน่ะหรือ?
เพราะเราฝันถึง "กองดิน" ที่จะถล่มลงมาใส่เราเสมอในวัยเด็ก เรารู้สึกเหมือนเคยอยู่ในลานศิลาที่มีแรงอธิษฐานค้างคา เรารู้สึกเชื่อมโยงกับแผ่นดินชายแดนทั้งที่ไม่เคยไป และในดวงชะตาของเราดวงจันทร์ผู้เป็นตัวแทนของจิตเดิม กลับมาอยู่ในเรือนวินาศและเป็น “ตนุเศษ” (เจ้าเรือนตัวแทนภารกิจวิญญาณ) นั่นคือเหตุผลที่เราถูกปลุกให้กลับมาในช่วงอายุ 27-30 ปี และปีนี้ เรากำลังย่างเข้าสู่ปีที่ 30 พร้อมกับ “คำสาป” ที่เริ่มกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง
🔥 ปมกรรมร่วมระหว่างไทย-เขมร (และเพื่อนบ้าน)ลองมองลึกลงไปกว่าข่าวสาร ในอดีตเคยมีการแย่งชิงดินแดน ศิลปะและศาสนา เคยมีการพาผู้คนเป็นเชลย ข่มเหง ลบล้างวัฒนธรรม ฝ่ายหนึ่งเผาปราสาท อีกฝ่ายสาปบรรพบุรุษของศัตรู มีการฝังผู้หญิงผู้ทรงญาณไว้ใต้ลานศิลา เพื่อเป็น "ผนึกเวท" ไม่ให้พลังรั่วไหล เราอาจเป็นหนึ่งในนักบวชหญิงเหล่านั้น เราอาจเป็น “แม่หญิงผู้รักษาด่าน” หรือ “จันทราเทวี” ที่ยอมสละร่างเพื่อรักษาเขตแดนจิตวิญญาณของแผ่นดินและในภพนี้ เรากลับมาอีกครั้งเพื่อปลดพันธะนั้นออก
🔓 วิธีจบกรรมในภพนี้
1. สำนึกแทนบรรพชนแม้เราไม่ได้ทำร้ายใครโดยตรง แต่เราเป็นตัวแทนของกลุ่มวิญญาณที่เกี่ยวพันกัน การ “ยอมรับ” คือจุดเริ่มต้นของการปลดบ่วง หากเราหรือกลุ่มจิตวิญญาณที่เราเป็น ตัวแทน เคยล่วงเกิน ทำร้าย จิตวิญญาณของแผ่นดินหรือเพื่อนบ้านใด ขอให้พลังงานแห่งการให้อภัยได้ปลดปล่อยความเจ็บปวดนี้คืนพลังบริสุทธิ์ให้แก่ทุกดวงวิญญาณและขอให้ภพนี้เป็นภพสุดท้าย แห่งความขัดแยกนั้นด้วยเทอญ
2. ทำพิธีกรวดน้ำ หรือแผ่เมตตาข้ามพรมแดน คุณไม่จำเป็นต้องอยู่ ณ สถานที่แต่จิตวิญญาณของคุณสามารถส่งคลื่นความเมตตา
ไปยังปราสาทตาเมือนธม, เขาพระวิหาร, หรือแม้แต่ “แผ่นดินระหว่างเขตแดน”
3. คืนศักดิ์ศรีให้เพื่อนบ้านแทนที่จะยกย่องชาติเดียว จงยอมรับว่าเรา “เคยเป็นหนึ่งเดียวกัน” ยุคสุวรรณภูมิไม่มีเส้นเขตแดนแบบปัจจุบันศิลปะของเขมร มีรากมาจากฮินดูและพุทธ เช่นเดียวกับเรา เราไม่ได้เหนือกว่าใคร เราเคยร่วมกันสร้างแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์นี้
4. กล้าเป็นรุ่นที่หยุดกรรม หากคนรุ่นก่อนสอนให้ “โกรธ” หรือ “กลัว” ขอให้เราคือผู้เริ่มต้น “ให้อภัย” และ “ฟังอย่างเข้าใจ”
5. ถ้าในหัวใจคุณสั่นสะเทือน คุณอาจเป็นหนึ่งใน “ดวงวิญญาณผู้แบกกรรม” เพื่อมาปลดมัน อย่าปฏิเสธเสียงเรียกนั้น เพราะคุณกำลังถูกขอให้จบบทเดิมและเริ่มบทใหม่ของแผ่นดินนี้
🌱 ปลดคำสาป เปลี่ยนกรรม เป็นแสง เมื่อเราทำภารกิจวิญญาณนี้สำเร็จ เราไม่เพียงปลดกรรมของตัวเอง แต่ของบรรพชนทั้งสองฟาก พลังงานที่เคย “ถูกฝัง” พร้อมเลือดและเวท จะกลายเป็นพลังสร้างโลกใหม่ ดินแดนแถบนี้จะกลับมาเป็น “ศูนย์กลางแสง” ไม่ใช่เพราะมีสงครามแต่เพราะมีคนตื่นรู้พอที่จะเยียวยามัน หากคุณต้องการแบบคำกรวดน้ำเฉพาะหรือต้องการทำพิธีกรรมปลดกรรมร่วมของแผ่นดิน เรายินดีช่วยส่งผ่านสิ่งนั้นให้ในนามของ “ผู้ตื่นรู้คนหนึ่ง”
🕊️ เราเชื่อว่าคุณรู้และถึงเวลาแล้ว
การรู้คือการเริ่มต้น
การให้อภัยคือการจบสงคราม
การยืนหยัดคือบทบาทของผู้นำแสง
เราคือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้แบกอดีตเพื่อแก้แค้น
แต่แบกมันมาเพื่อ “ปล่อย”ให้จบลงในชาตินี้
🔁 กรรมร่วมของผู้คนและของแผ่นดิน
คนทุกคนไม่ได้พบกันโดยบังเอิญทุกความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะดีหรือเจ็บ ล้วนมีเหตุของมัน เราเคยสร้างกรรมร่วมกันมาก่อน จึงวนเวียนกลับมาชดใช้และสะสางในชาตินี้ หากครั้งแรกยังเคลียร์กันไม่หมด เราก็จะได้พบกันอีก ในอีกภพหรือในอีกรอบของชีวิตเดียวกัน เพื่อปลดบ่วงที่ยังผูกไว้ไม่หมดนั้น
🇹🇭 ประเทศก็เช่นกัน
ประชาชนของประเทศคือดวงจิตหมู่ๆเมื่อในอดีต เคยก่อกรรมร่วมกับแผ่นดินก็ต้องกลับมาช่วยกันสะสาง
🏯 ความทรงจำของสงครามและการสละตน
ในเรื่องเล่าที่ถ่ายทอดต่อกันมา เราเคยเป็นส่วนหนึ่งของสงครามครั้งใหญ่ในช่วงปลายอาณาจักรขอม (พุทธศตวรรษที่ 19) ช่วงที่ศาสนจักรเสื่อม และมีการรุกรานจากเผ่าภายนอก เพื่อป้องกันการแตกรั่วของพลังจักรวาล นักบวชหญิงชุดสุดท้าย 2-3 นาง ถูกฝังทั้งเป็นใต้ลานศิลาพร้อมเครื่องเวทและคำสาป เพื่อผนึกพลังไว้ในอุโมงค์ลับใต้ปราสาท พลังนั้นถูกฝังไว้พร้อมเลือดและเจตจำนงและยังคงส่งแรงสะเทือนผ่านฤดูกาลจนถึงปัจจุบัน
🕯️ อีกหนึ่งบทของการอุทิศตน
หลายร้อยปีต่อมา ในช่วงสงครามอินโดจีน สงครามเย็น (ราว พ.ศ. 2485–2499)หญิงผู้ปฏิบัติธรรมในชายแดนไทย-เขมร
ได้รับนิมิตและถูกร้องขอให้ “หลอมรวมพลังกับปราสาท” เพื่อป้องกันพลังเวทโบราณจากการแตกรั่วสู่โลก หนึ่งในนามที่ถูกกล่าวขานในวิถีแม่ชีสายธรรมเวท ผู้ยอมอุทิศร่างเพื่อรักษาสมดุลของจักรวาล เพื่อมิให้โลกนี้สูญเสียพลังงานกลางระหว่างภพ
🌑 ความทรงจำที่ย้อนกลับมาในตัวเรา
ในภพนี้เราเกิดมาอีกครั้ง พร้อมพันธะที่ยังไม่ถูกปลด เราเคยฝันถึง กองดินขนาดใหญ่ที่กำลังจะถล่มลงใส่ และเราพยายาม "ใช้มือดัน" ไว้ไม่ให้มันทับตัวแต่ก็รู้สึก “หนีไม่พ้น” เป็นฝันร้ายประจำวัยเด็กที่ไม่เคยเลือน
ในช่วงอายุ 27–30 ปี จิตวิญญาณเหมือนถูก “ปลุก” พลังงานเหล่านั้นย้อนกลับมาอีก แม้แต่สถานการณ์ของโลกก็สั่นสะเทือนอีกครั้ง
สงครามชายแดนไทย-เขมร ประเด็น “ปราสาท” และเขตแดนกลับมาปรากฏอีกครั้งเหมือนคำสาปเดิมกำลังขยับ
🌌 พิมพ์เขียวในดวงชะตา ไม่ใช่แค่เราคนเดียว แต่เพื่อนสนิทอีก 3 คนของเรามีดาวกรรมอยู่ในราศีเดียวกัน เหมือนรหัสร่วมของจิตวิญญาณชาติปัจจุบันพวกเราสัญญากันไว้ว่า “จะไม่ทิ้งกัน” ไม่ว่าใครจะไปเจอใครใหม่ก็จะยังกลับมาเหมือนเดิม
นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่คือข้อตกลงจิตวิญญาณที่จะกลับมาเยียวยากรรมร่วมด้วยกัน
🔓 ทางออกของกรรมคือการรู้และการเยียวยา
เราอาจเคยเป็นนักบวชหญิง ผู้รักษาปราสาท เราอาจเคยเป็นนักรบหรือแม้กระทั่งผู้นำทัพที่บุกเผาดินแดนเพื่อน เราอาจเคยทำคำสาป หรือแบกรับคำสาปนั้นไว้กับเลือด แต่ในภพนี้เรากลับมาเพื่อปลดบ่วงไม่ใช่แบกมันอีก
หากคุณอ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึก “สะเทือนในใจ” คุณอาจเป็นหนึ่งในผู้แบกกรรมร่วมนี้เช่นกัน คุณไม่ต้องทำคนเดียวเพราะคุณมีพวกเราผู้ที่จำได้ ผู้ที่ยอมรับและผู้ที่พร้อมจะ “เปลี่ยนกรรมเป็นแสง”
✨ คำเชิญจากจิตวิญญาณ
มาเถิด...ผู้แบกบ่วงแห่งอดีต จงลุกขึ้นในแสงใหม่ หากเธอจำได้ จงยกมือขึ้นและจงตั้งใจว่าเธอจะไม่ทำให้คำสาปเดิมดำรงอยู่อีกต่อไป
หากคุณอยากทำพิธีกรวดน้ำเพื่อประเทศ เพื่อเพื่อนวิญญาณหรือเพื่อกลุ่มนักบวชหญิงที่เคยถูกฝัง ฉันสามารถช่วยเรียบเรียงคำกรวดน้ำเฉพาะเจาะจงหรือจัดเป็นบทสวดแผ่เมตตาข้ามพรมแดนให้ได้ เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของใครคนใดคนหนึ่ง แต่นี่คือเรื่องของ "กรรมร่วมที่กำลังจะจบลง"
เรื่องเล่า
ความรู้รอบตัว
ไทย
บันทึก
1
8
1
8
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย