29 ก.ค. เวลา 08:27 • ข่าวรอบโลก

EP 59 ระเบิดเวลาชายแดน: เจ้าอาณานิคมผู้กำหนดเส้นทางข้อพิพาทไทย-กัมพูชา

ข้อพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชาเป็นผลจากการกำหนดเขตแดนในยุคอาณานิคมของฝรั่งเศส ซึ่งใช้ยุทธศาสตร์เชิงอำนาจในการร่างแผนที่และสนธิสัญญาระหว่างสยามกับอินโดจีน โดยจัดทำแผนที่ฝ่ายเดียวที่เอื้อประโยชน์ต่อฝรั่งเศส และสร้างรัฐกันชนอย่างกัมพูชาและลาวเพื่อลดอิทธิพลของสยาม
ผลจากการกำหนดเขตแดนดังกล่าวทำให้เกิดพื้นที่ทับซ้อน เช่น ช่องบก ช่องอานม้า และปราสาทพระวิหาร ซึ่งกลายเป็นจุดขัดแย้งเรื้อรังระหว่างไทยกับกัมพูชา ฝรั่งเศสยังมีเจตนาแฝงด้านเศรษฐกิจ โดยมุ่งควบคุมทรัพยากรในอาณานิคม ส่งผลให้การกำหนดเขตแดนมีลักษณะผูกขาดและเอื้อผลประโยชน์ต่ออาณานิคมของตน
ในปัจจุบัน จีนเข้ามามีบทบาทสำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะผ่านโครงการ Belt and Road Initiative ที่เน้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศพันธมิตร จีนใช้ยุทธศาสตร์ทางการทูตแบบเป็นกลาง และใช้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจเพื่อเสริมอำนาจต่อรองในภูมิภาค
ข้อพิพาทชายแดนที่ฝรั่งเศสทิ้งไว้จึงกลายเป็น “ระเบิดเวลา” ที่เปิดช่องให้จีนขยายอิทธิพลในภูมิภาค ผ่านการสร้างพันธมิตรและการส่งเสริมเสถียรภาพแบบมีเงื่อนไข ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ควรทำความเข้าใจในบริบทภูมิรัฐศาสตร์
มุมมองเชิงเศรษฐกิจของข้อพิพาทไทย-กัมพูชา
  • 1.
    การค้าและทรัพยากร: ในปี 2568 ไทยมีมูลค่าการค้ากับกัมพูชากว่า 170,000 ล้านบาทต่อปี หากความขัดแย้งยืดเยื้อ อาจสูญเสียรายได้การส่งออกถึง 60,000 ล้านบาท ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากคือสินค้าเกษตร พลังงาน ในเขตชายแดน
  • 2.
    การท่องเที่ยว: ไทยอาศัยรายได้จากภาคท่องเที่ยวสูงราว12% ของ GDP ส่วนกัมพูชาประมาณ 9% เหตุปะทะต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวทันที ส่งผลให้ยอดนักท่องเที่ยวลดลงและรายรับภาคบริการหยุดชะงัก
  • 3.
    ผลกระทบต่อชุมชนชายแดน: วิถีชีวิต ประกอบอาชีพ และระบบห่วงโซ่อุปทานท้องถิ่นเสียหายอย่างหนัก
มุมมองภูมิรัฐศาสตร์ต่อข้อพิพาทไทย-กัมพูชา
  • ภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาค: ข้อพิพาทนี้ทำให้เสถียรภาพภูมิภาคเสียหาย และเปิดช่องให้มหาอำนาจต่างชาติใช้อิทธิพลแทรกซึม และเป็นหมากตัวหนึ่งในการจัดสรรอิทธิพลของมหาอำนาจ
  • การแข่งขันอิทธิพลสร้างความไม่แน่นอน: การแข่งขันของทั้งจีนและสหรัฐฯ ทำให้เกิดสภาพ “ดุลยภาพเปราะบาง” (fragile equilibrium) ที่มีความเสี่ยงต่อความมั่นคง เศรษฐกิจ และเสถียรภาพการเมืองในภูมิภาคระยะยาว
จุดยืนของจีนและสหรัฐฯ ต่อข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา
บทบาทและยุทธศาสตร์ของจีน
  • 1.
    ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ: จีนลงทุน FDI ในกัมพูชาทั้งหมดถึง 66% มูลค่าประมาณ 3,247 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นพันธมิตรสำคัญเพื่อคานอำนาจสหรัฐฯ ส่วนจีนลงทุน FDI ในไทยเพียง 8-9% ในทางกลับกันจีนมีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 16,000 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้จีนยังคงเป็นนักลงทุนสำคัญในไทยมากกว่าลงทุนในกัมพูชา
  • 2.
    ประโยชน์ทางภูมิรัฐศาสตร์: ความสำคัญกับไทยในฐานะพันธมิตรยุทธศาสตร์ที่สำคัญของจีน ผ่าน Belt and Road Initiative ที่เชื่อมจากยูนนานผ่านลาวไปถึงสิงคโปร์ ผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้น
บทบาทและยุทธศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา
  • 1.
    ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ: สหรัฐฯลงทุน FDI ในไทยประมาณ 7-8% คิดเป็น 15,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญทางเศรษฐกิจของไทยในฐานะศูนย์กลางการลงทุนของสหรัฐฯ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในทางกลับกันสหรัฐฯลงทุน FDI ในกัมพูชาเพียง 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • 2.
    ประโยชน์ทางภูมิรัฐศาสตร์: สหรัฐฯ มุ่งรักษาและขยายอิทธิพลผ่านพันธมิตรอย่างไทย โดยเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงและการทหาร เช่น การฝึกร่วมและการขายอาวุธ เพื่อคานอำนาจจีนในภูมิภาค
Pamallia Insight
พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชาในอ่าวไทยมีความสำคัญทางเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์สูงมาก ด้วยขนาดกว่า 26,000 ตารางกิโลเมตร ที่เต็มไปด้วยทรัพยากรก๊าซธรรมชาติประมาณ 10 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต และน้ำมันดิบราว 300 ล้านบาเรล คิดเป็นมูลค่ารวมราว 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงเป็นแหล่งพลังงานขนาดใหญ่ที่ส่งผลต่อความมั่นคงพลังงานของไทยและภูมิภาค
แนวทางของไทยเน้นการรักษาอธิปไตยอย่างชัดเจนที่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ (UNCLOS) และหลักสิทธิ์ตามเขตแดนสากล รวมถึงการเพิ่มความเข้มแข็งของการควบคุมชายแดน เพื่อปกป้องผลประโยชน์ชาติ เพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและยึดหลักมนุษยธรรม
Econ Insight: ศัพท์เศรษฐศาสตร์
FDI (Foreign Direct Investment) – การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
เงินลงทุนที่บริษัทหรือนักลงทุนต่างชาติลงเงินในธุรกิจของประเทศเป้าหมาย เช่น การสร้างโรงงานในไทย
Fragile Equilibrium – ดุลยภาพเปราะบาง
สภาวะที่ดูเหมือนจะสมดุล แต่จริง ๆ แล้วอ่อนไหวและเปราะบางต่อแรงกระทบ เช่น ความตึงเครียดทางการเมืองหรือเศรษฐกิจระหว่างจีน-สหรัฐฯ
Sovereignty – อธิปไตย
สิทธิสูงสุดในการปกครองและควบคุมพื้นที่ของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นทางบกหรือทางทะเล
ในกรณีช่องทางทะเลไทย-กัมพูชา การรักษาอธิปไตยเป็นเรื่องสำคัญเพื่อคุ้มครองทรัพยากรพลังงานที่มีมูลค่ามหาศาล
Geopolitics – ภูมิรัฐศาสตร์
ศาสตร์ที่วิเคราะห์อำนาจและผลประโยชน์ของรัฐโดยพิจารณาจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์ เช่น พรมแดน ทำเล ทรัพยากร ในบทนี้ ข้อพิพาทชายแดนกลายเป็นเกมหมากล้อมของมหาอำนาจอย่างจีนและสหรัฐฯ
โฆษณา