29 ก.ค. เวลา 05:30 • ความคิดเห็น
การเดินทางของจิต ไม่มีคำภีร์ตำรา จิตเดินทางด้วยอาศัยคำว่า บุญกุศลบารมี หรือว่า กรรมหนุนนำจิต ให้เวียนว่ายตายเกิด .. เป็นเทพยดาอินทร์พรหม ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ หลงใหลทรัพย์สมบัติเงินทอง ลาภยศ ไม่สร้างบุญกุศลต่อ จิตออกจากกายไปก็ไปสู่สถานที่ทุกข์ ด้วยเหตุที่มัวเมา อยู่ในสิ่งที่ปรนเปรอ สำคัญว่า เป็นสุข ก็ยึดสิ่งเหล่านั้นว่า ดีเป็นสุขบำเรอกาย
แต่อนิจจา ..กายนี้มันก็แก่เฒ่าชราตาย สิ่งที่ยึดมาทรัพย์สินเงินทอง สามีภรรยา บุตรธิดา ก็ตัองจากกัน เอาไปไม่ได้ ..ไปแต่จิต ..ดวงเดียว ที่ทำมา กุศลาทำมา อกุศลาทำมา อัพยกตาทำมา ดีหรือชั่ว ไม่รู้จักเลย ก็ ทำมา ..ทำเอง ที่ใช้กายวาจาใจ ..กรรมนั้นเป็นของตัวเอง มันเกิดขึ้นที่กายนี้
เมื่อไม่มีกายให้ใช้ ก็เหลือกรรม ที่สะสมมา ต้องเป็นไปตามกรรม ..ไปสู่ที่ชอบๆ ชอบอะไร ก็ไปอาศัยในสถานที่นั้น สถานที่นั้น ก็มีรูป ที่เป็นนามธรรมให้จิตอาศัย นรก สัตว์ เปรตอสุรกาย เทพยดาอินทร์พรหม คราวนี้ เราก็รับรู้ด้วยจิตที่อาศัยกายนี้ไม่ได้ เราก็สร้างบุญกุศลบารมีขึ้นมา เราก็มีโอกาสได้เรียนรู้จัก เรื่องราวเหล่านี้ .ด้วยจิตของตัวเองให้เป็นที่ประจักษ พอรู้จักเรื่องราวเหล่านี้ ก็หันมามองดูตัวเอง ว่า จิตต้องเดินจากสังขาร เราสะสมอะไรไปกับจืตของตัวเอง
เราได้พบพระ ที่ท่านได้ ..สละทรัพย์สิน เงินทอง ยศฐานบรรดาศักดิ์ สละครอบครัว ภรรยาบุตรธิดา เดินเข้าป่าด้วยเสื้อผ้าชุดเดียว แล้วก็มีสาวกของท่าน กระทำตาม บางองค์ก็เล่าว่า ฉันบำเพ็ญบุญกุศลบารมี เวียนว่ายตายเกิด มาเป็นอสงไขยๆ ก็ยัง ไม่สามารถ หลุดพ้น จากการเกิดแก่เจ็บตายไปได้
มีพระองค์หนึ่งที่ ท่านใกล้ชิดเจ้าชายสิทธัตถะ ก็เล่าให้ฟัง ปกติพระพุทธเจ้า ท่านนั่งนิ่ง จิตก็นิ่ง พระอานนท์ ก็พยายามทำตาม ก็ยังนิ่งไม่ได้ ท่านก็พยายามทำตาม ก็สอบถามพระพุทธเจ้า
ซึ่งท่านก็แนะนำให้ จนในที่สุด ท่านก็ทำตาม นิ่งจนถึงที่สุด กายนิ่ง จิตนิ่ง ..แล้วท่านก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์
เรื่องราวเหล่านี้ เป็นเรื่องราวของคำว่า บุญกุศลบารมี ที่ต้องทำขึ้นมา ด้วยจิตที่มาอาศัยกายมนุษย์ครบอาการสามสิบสอง กายกรรม .รูปกรรมอื่น ทำไม่ได้ .. ที่เค้า ว่า ให้สติสัมปชัญญะรู้จักกรรม มีสติสัมปชัญญะ รู้จักธรรม ก็สร้างบุญกุศลบารมี หนีเวรกรรม เป็นทุกชาติ ที่ได้กายพ่อแม่เป็นมนุษย์ จนกว่า จะบรรลุธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยุติการเกิด
โฆษณา