30 ก.ค. เวลา 03:55 • ธุรกิจ

บทเรียนจากการทำธุรกิจจนประสบความสำเร็จแบบ ริชาร์ด แบรนสัน

หากพูดถึงนักธุรกิจผู้กล้าเสี่ยง กล้าคิด กล้าทำ และมีสไตล์การดำเนินธุรกิจที่แตกต่างออกไปจากนักลงทุนทั่ว ๆ ไป ชื่อของ ริชาร์ด แบรนสัน (Richard Branson) ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัทเวอร์จิน (Virgin Group) คือหนึ่งในนั้น
เขาไม่ได้เป็นแค่นักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จระดับโลก แต่ยังเป็นนักผจญภัย นักสร้างแรงบันดาลใจ และผู้นำที่ยืนหยัดในหลักการของตนเองอย่างแน่วแน่ แม้จะเคยล้มเหลวหลายครั้ง แต่ทุกความล้มเหลวกลายเป็นบทเรียนที่หล่อหลอมให้เขาเป็นอย่างทุกวันนี้
ในบทความนี้ เราจะมองลึกลงไปถึง บทเรียนจากการทำธุรกิจของริชาร์ด แบรนสัน ว่าอะไรคือแนวคิดสำคัญที่ทำให้เขาสร้างอาณาจักรเวอร์จินกว่า 400 บริษัทในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่ดนตรี สายการบิน จนถึงการท่องอวกาศ
---
จุดเริ่มต้น: จากนักเรียนมีปัญหา สู่ผู้ประกอบการอายุ 16
แบรนสันไม่ได้เติบโตมาในเส้นทางธรรมดา เขาเป็นเด็กที่มีภาวะ dyslexia (การอ่านเขียนบกพร่อง) ทำให้มีปัญหาด้านการเรียน และลาออกจากโรงเรียนตอนอายุเพียง 16 ปี หลายคนอาจคิดว่าจุดจบของอนาคตเขาคือความล้มเหลว
แต่สำหรับแบรนสัน การออกจากระบบคือการเปิดประตูสู่โลกธุรกิจ เขาเริ่มก่อตั้งนิตยสาร Student เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของวัยรุ่น และใช้เป็นช่องทางหาเงินโดยการขายโฆษณา
> “ความล้มเหลวในระบบการศึกษาทำให้ผมต้องสร้างระบบของตัวเอง” — ริชาร์ด แบรนสัน
บทเรียนที่ 1: อย่าปล่อยให้ระบบจำกัดความสามารถของคุณ
ทุกคนมีศักยภาพในแบบของตนเอง แบรนสันพิสูจน์ว่าแม้จะไม่เหมาะกับระบบการศึกษา แต่เขามีพรสวรรค์ในการสื่อสาร เจรจา และกล้าทำในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้า
---
เวอร์จิน: ธุรกิจแรกที่เกิดจาก “ปัญหา”
หลังจากประสบความสำเร็จกับนิตยสาร Student แบรนสันเริ่มธุรกิจขายแผ่นเสียงทางไปรษณีย์ เพราะเห็นว่าแผ่นเสียงในร้านค้าทั่วไปมีราคาสูง และบางเพลงหาไม่ได้ง่าย ๆ
ธุรกิจนี้นำไปสู่การเปิดร้านเวอร์จินเรคคอร์ดส์ (Virgin Records) และในปี 1973 ก็ได้เปิดค่ายเพลงเต็มตัว ซึ่งเซ็นสัญญากับศิลปินระดับโลกอย่าง ไมค์ โอลด์ฟิลด์ (Mike Oldfield) และต่อมาคือวง Sex Pistols และ Rolling Stones
บทเรียนที่ 2: ธุรกิจที่ดีเกิดจากการแก้ปัญหา
แบรนสันไม่ได้เริ่มธุรกิจเพราะอยากรวย แต่เพราะอยากแก้ปัญหาให้ผู้บริโภค เขามองเห็นโอกาสในจุดที่คนอื่นมองข้าม และสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าก่อนผลกำไร
---
กล้าท้าทายธุรกิจขนาดใหญ่
ช่วงปี 1980 แบรนสันเริ่มเข้าสู่ธุรกิจสายการบิน โดยก่อตั้ง Virgin Atlantic Airways เพื่อท้าชนกับสายการบินยักษ์ใหญ่อย่าง British Airways
ในช่วงเริ่มต้น เขาถูกดูแคลน ถูกข่ม และถูกแย่งลูกค้า แต่แบรนสันกลับไม่ยอมแพ้ เขาเน้นประสบการณ์ของผู้โดยสาร เช่น มีที่นั่งนอนราบก่อนใคร เสิร์ฟแชมเปญให้ลูกค้าชั้นประหยัด และใส่ใจการบริการอย่างแท้จริง
> “ถ้าคุณสามารถสร้างธุรกิจที่ทำให้ลูกค้ายิ้มได้ กำไรก็จะตามมาเอง” — ริชาร์ด แบรนสัน
บทเรียนที่ 3: ธุรกิจคือเรื่องของ “ประสบการณ์” ไม่ใช่แค่สินค้า
แบรนสันพิสูจน์ว่าธุรกิจเล็กก็สามารถชนะธุรกิจใหญ่ได้ ถ้าคุณเข้าใจลูกค้ามากกว่า เขาเน้นเรื่อง customer experience มากกว่ากำไรระยะสั้น และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ลูกค้าจงรักภักดี
---
ความล้มเหลวที่ไม่ใช่ “จุดจบ”
ธุรกิจของแบรนสันไม่ได้ประสบความสำเร็จทุกอัน เขาเคยล้มเหลวกับ Virgin Cola ที่ตั้งใจท้าชนกับ Coca-Cola, Virgin Brides ที่ขายชุดแต่งงาน, หรือ Virgin Cars ที่พยายามปฏิวัติวงการยานยนต์
แต่แทนที่จะหลีกหนี เขากลับเรียนรู้และยอมรับความล้มเหลวอย่างเปิดใจ
บทเรียนที่ 4: ล้มเหลวคือครูที่ดีที่สุด
แบรนสันเคยพูดว่า “You don’t learn to walk by following rules. You learn by falling over.”
การล้มคือส่วนหนึ่งของการเดิน เขาไม่มองว่าล้มเหลวคือความอับอาย แต่มองว่าเป็นต้นทุนของประสบการณ์
---
การสร้างแบรนด์ด้วย “ตัวตน”
ชื่อ “Virgin” ที่แปลว่า “บริสุทธิ์” มาจากการที่แบรนสันและเพื่อนร่วมก่อตั้งไม่มีประสบการณ์ด้านธุรกิจเลยในตอนเริ่มต้น แต่กลายเป็นชื่อที่สื่อถึงความกล้า ความสดใหม่ และไม่กลัวความท้าทาย
ที่สำคัญ แบรนสันสร้างแบรนด์จากตัวเอง เขาคือ CEO ที่ลงพื้นที่ พบปะลูกค้า กระโดดร่ม ทำสถิติผจญภัย ทำทุกอย่างให้คนรู้ว่า “Virgin มีชีวิต มีจิตวิญญาณ และมีเป้าหมายมากกว่ากำไร”
บทเรียนที่ 5: แบรนด์ที่แข็งแกร่งต้องมี “ตัวตน”
การสร้างแบรนด์ไม่ใช่แค่โลโก้หรือโฆษณา แต่คือการส่งต่อเรื่องราวและอารมณ์ แบรนสันใช้พลังของตัวเองในการสร้างความเชื่อมโยงกับลูกค้า และทำให้แบรนด์ Virgin มีความหมายในสายตาผู้คน
---
ผู้นำที่ใส่ใจ “คน” มากกว่า “ระบบ”
แบรนสันให้ความสำคัญกับพนักงานมากกว่าลูกค้าเสียอีก เขาเชื่อว่าถ้าดูแลพนักงานดี พนักงานจะดูแลลูกค้าอย่างดีตามไปด้วย
> “ลูกค้ามาเป็นที่สอง พนักงานมาก่อน” — ริชาร์ด แบรนสัน
ในยุคที่องค์กรหลายแห่งมองพนักงานเป็นเพียง “ต้นทุน” แบรนสันมองว่าพวกเขาคือ “ทรัพยากรที่มีค่าที่สุด” เขาสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้าง สนุกสนาน และกล้าให้พนักงานแสดงความคิดเห็น
บทเรียนที่ 6: ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่เริ่มจากคนที่มีความสุข
องค์กรที่ดีต้องสร้างวัฒนธรรมที่คนอยากอยู่ ไม่ใช่แค่จ้างงาน แบรนสันเชื่อว่าแรงบันดาลใจนั้นแพร่กระจายได้ ถ้าคุณสร้างแรงบันดาลใจให้ทีม ทีมจะส่งต่อไปยังลูกค้าเอง
---
วิสัยทัศน์: สร้างธุรกิจที่ “เปลี่ยนโลก”
แบรนสันไม่ได้หยุดแค่โลกใบนี้ เขาก่อตั้ง Virgin Galactic ธุรกิจท่องอวกาศเชิงพาณิชย์ เพื่อเปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้สัมผัสประสบการณ์นอกโลก
แม้เจอกับปัญหา ความล้มเหลว และเสียงวิจารณ์มากมาย แบรนสันก็ยังไม่ถอย เพราะเขาเชื่อว่าโลกต้องการ “นักฝัน” และธุรกิจควรมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนความก้าวหน้ามนุษยชาติ
บทเรียนที่ 7: วิสัยทัศน์ยิ่งใหญ่ คือแรงผลักดันสำคัญที่สุด
แบรนสันแสดงให้เห็นว่าเงินไม่ใช่แรงจูงใจเดียว ธุรกิจที่สร้างการเปลี่ยนแปลงในโลกคือธุรกิจที่ยั่งยืนที่สุด ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ถ้าคุณมีวิสัยทัศน์ที่ชัด ทุกคนจะเดินตามคุณ
---
สรุป: 7 บทเรียนจากริชาร์ด แบรนสัน
1. อย่าปล่อยให้ระบบจำกัดความสามารถของคุณ
2. ธุรกิจที่ดีเกิดจากการแก้ปัญหา
3. ธุรกิจคือเรื่องของประสบการณ์ ไม่ใช่แค่สินค้า
4. ล้มเหลวคือครูที่ดีที่สุด
5. แบรนด์ที่แข็งแกร่งต้องมี “ตัวตน”
6. ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่เริ่มจากคนที่มีความสุข
7. วิสัยทัศน์ยิ่งใหญ่ คือแรงผลักดันสำคัญที่สุด
---
สุดท้ายนี้...
ริชาร์ด แบรนสัน ไม่ใช่นักธุรกิจธรรมดา เขาคือผู้นำที่กล้าเป็นตัวของตัวเอง กล้าเสี่ยงในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้า และกล้าฝันในระดับที่หลายคนไม่เคยคิดถึง
บทเรียนของเขาคือสิ่งเตือนใจสำหรับทุกคนที่อยากเริ่มธุรกิจหรือทำสิ่งใหม่ ๆ ว่า
“คุณไม่จำเป็นต้องเก่งที่สุด แต่คุณต้องกล้าทำ และพร้อมเรียนรู้เสมอ”
> "Screw it, let’s do it!" — คือปรัชญาชีวิตของแบรนสัน และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางใหม่ของคุณเช่นกัน
---
โฆษณา