30 ก.ค. เวลา 08:30 • ข่าว

ว่าที่ทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ชี้ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชาไม่เป็นผลดีต่อพันธมิตร

ว่าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย แสดงทัศนะต่อเหตุปะทะไทย-กัมพูชา ชี้ ความขัดแย้งไม่ส่งผลดีต่อคนไทย รวมทั้งชาติพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกา
นายฌอน เค. โอนีลล์ ซึ่งได้รับการเสนอชื่อโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยคนใหม่ กล่าวเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมว่า หากเขาได้รับการรับรองให้ดำรงตำแหน่ง เขาจะบอกกับทางการไทยว่า ความขัดแย้งอย่างการปะทะกันบริเวณชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาเมื่อเร็วๆ นี้ ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนชาวไทยหรือความเป็นพันธมิตรระหว่างไทยกับสหรัฐเลย
โดยนายฌอน โอนีลล์ เคยทำงานเป็นนักการทูตในประเทศไทยมาแล้วสองครั้ง กล่าวถ้อยแถลงนี้ระหว่างการพิจารณารับรองตำแหน่งต่อวุฒิสภาสหรัฐฯ หลังถูกซักถามถึงเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาซึ่งยืดเยื้อนาน 5 วัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 43 คน และประชาชนกว่า 300,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่
ผู้นำไทยและกัมพูชาได้พบปะกันที่ประเทศมาเลเซียเมื่อวันจันทร์ และบรรลุ ข้อตกลงหยุดยิง เพื่อยุติความขัดแย้งซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทรัมป์เตือนผู้นำทั้งสองประเทศเมื่อสุดสัปดาห์ก่อนว่า การเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ จะไม่คืบหน้า หากการสู้รบยังดำเนินต่อไป
และเมื่อถูกถามถึงแนวทางที่จะทำให้ข้อตกลงหยุดยิงยั่งยืนและนำไปสู่สันติภาพถาวร นายโอนีลล์ แสดงความเห็นว่า"สิ่งแรกที่ผมจะทำคือชี้ให้รัฐบาลไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรตามสนธิสัญญาที่สำคัญของเราในเอเชีย เห็นว่าการทำสงครามหรือความขัดแย้งเช่นนี้ไม่ได้ช่วยเหลือประชาชนของพวกเขาเลย มันไม่ได้ช่วยเสริมสร้างพันธมิตรของเรา ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาที่ทั้งสองประเทศกำลังเผชิญอยู่ แต่กลับเป็นเพียงการสูญเสียชีวิตและทรัพยากรโดยเปล่าประโยชน์เท่านั้น"
นอกจากนี้ โอนีลล์ยังกล่าวด้วยว่า ไทยไม่ควรให้ความชอบธรรมกับรัฐบาลทหารของเมียนมา โดยย้ำว่ากระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ไม่สนับสนุนให้เมียนมาจัดการเลือกตั้งที่เป็นเพียงการเลือกตั้งปลอม ซึ่งรัฐบาลทหารพม่าพยายามจะจัดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ โดยระบุว่าหากเขาได้รับการแต่งตั้ง ผมจะสนับสนุนให้ประเทศไทยไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งที่ไม่ได้มีผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศเข้าร่วม ขณะที่ผู้นำฝ่ายค้านส่วนใหญ่ยังคงถูกคุมขังอยู่ด้วย.
ที่มา : รอยเตอร์
โฆษณา