30 ก.ค. เวลา 15:01 • ปรัชญา

Exit the SIM – ถ้าโลกนี้ไม่ใช่ของจริง แล้วเราจะทำยังไงต่อ?

คำนำ: คำว่า Simulation หมายถึง “ระบบจำลอง” หรือ “โลกที่ถูกสร้างขึ้นโดยใครบางคนหรือบางสิ่ง” ให้ดูเหมือนจริง แต่ไม่ใช่ของจริงทั้งหมด เช่น เกม, โมเดลจำลอง, หรือโลกเสมือนในคอมพิวเตอร์
หลายปีที่ผ่านมา แนวคิดที่ว่า “โลกที่เราอาศัยอยู่อาจเป็นระบบจำลอง” ถูกพูดถึงมากขึ้น ทั้งในวงการวิทยาศาสตร์ ปรัชญา ฟิสิกส์ และเทคโนโลยี
นักคิดระดับโลกบางคนถึงขั้นเสนอว่า สิ่งที่เราเรียกว่า “ชีวิตจริง” อาจไม่ใช่ของจริงเลยก็ได้
มันอาจถูกตั้งค่าไว้ ถูกควบคุม หรือมีรูปแบบที่คล้ายระบบประมวลผล
Exit the SIM คือพื้นที่ที่เราจะรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง และหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
ตั้งแต่คนที่กำลังศึกษาอย่างจริงจัง งานวิจัยในมหาวิทยาลัย ไปจนถึงแนวทางการตั้งคำถามที่อาจช่วยให้เรารู้เท่าทันว่า
“สิ่งที่เราเรียกว่าโลก...มันจริงแค่ไหน?”
เราจะไม่อวดฉลาด ไม่อิงกระแส และไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ
สิ่งที่เราทำคือ ค้นหา คัดกรอง และตั้งคำถามกับความจริงที่เราเคยเชื่อ
ถ้าโลกคือระบบจำลองจริง... การรู้เท่าทัน คือก้าวแรกของการออกจากมัน
ยินดีต้อนรับสู่ Exit the SIM
พื้นที่สำหรับคนที่เริ่มรู้สึกว่า “โลกนี้มันแปลก ๆ”
ทั้งหมดนี้คือบุคคลและสถาบันที่ กำลังศึกษาแนวคิดว่าโลกเป็น Simulation อยู่จริง ไม่ใช่แค่ความเห็นเล่น ๆ แต่มีผลงาน พูดในเวทีวิชาการ หรือเป็นผู้วิจัยโดยตรง
✅1. นักปรัชญา (Philosophers)
กลุ่มนี้ตั้งคำถามว่า “ความจริง” คืออะไร และเราจะรู้ได้อย่างไรว่าไม่ได้อยู่ในระบบจำลอง
Nick Bostrom – ศาสตราจารย์จาก University of Oxford ผู้เสนอ Simulation Argument (2003)
David Chalmers – ศาสตราจารย์ที่ NYU เขียนหนังสือ Reality+: Virtual Worlds and the Problems of Philosophy
Donald Hoffman – ศาสตราจารย์จาก UC Irvine เสนอว่า “สิ่งที่เรามองเห็น” ไม่ใช่ความจริง แต่เป็นแค่ interface สมองสร้างขึ้น
✅2. นักฟิสิกส์ (Physicists)
กลุ่มนี้พยายามหาหลักฐานว่ากฎของจักรวาลมีโครงสร้างเหมือนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
Dr. James Gates – ศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์จาก University of Maryland ค้นพบรหัส error-correcting code ในสมการ supersymmetry
Max Tegmark – นักจักรวาลวิทยาจาก MIT เสนอว่าจักรวาลทั้งหมดคือโครงสร้างทางคณิตศาสตร์
Tom Campbell – นักฟิสิกส์อิสระ ผู้เขียนทฤษฎี My Big TOE (Theory of Everything) อธิบายว่า “ความจริงคือระบบจำลองที่มีจิตเป็นศูนย์กลาง”
✅3. นักเทคโนโลยีและผู้บริหาร (Tech Entrepreneurs)
กลุ่มนี้ให้ความเห็นว่า หากกราฟิกของเกมพัฒนาเร็วขนาดนี้ โลกที่เราอยู่ก็อาจไม่ใช่ของจริง
Elon Musk – ผู้บริหาร Tesla, SpaceX เคยให้สัมภาษณ์ว่า “โอกาสที่เราไม่ได้อยู่ใน Simulation มีน้อยมาก”
Sam Altman – CEO ของ OpenAI เชื่อว่าการเข้าใจ Simulation อาจเป็นกุญแจสู่ความเข้าใจระดับถัดไปของความเป็นจริง
Peter Thiel – ผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal และ Palantir เป็นหนึ่งในนักลงทุนที่สนับสนุนการวิจัยปลายเปิดเกี่ยวกับโลกจำลอง
✅4. สถาบันวิชาการและวิจัย (Academic and Research Institutions)
องค์กรเหล่านี้มีนักวิจัยที่ศึกษาเรื่อง Simulation อย่างเปิดเผย และบางแห่งมีบทความตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ
University of Oxford – Future of Humanity Institute
New York University – Department of Philosophy
University of California, Irvine – Cognitive Science Department
University of Maryland – Center for Fundamental Physics
MIT – Media Lab และ Department of Physics
NASA Jet Propulsion Laboratory (JPL) – นักฟิสิกส์บางรายร่วมเสวนาเรื่อง Simulation กับเวทีวิทยาศาสตร์ระดับโลก
Perimeter Institute for Theoretical Physics (Canada) – มีงานวิจัยเกี่ยวกับโครงสร้างของความจริงในระดับฟิสิกส์ทฤษฎี
✅5. กลุ่มจิตวิญญาณและปฏิบัติธรรม (Spiritual and Consciousness Explorers)
ไม่ได้ศึกษาเชิงทฤษฎี แต่ใช้วิธีฝึกจิตหรือเปลี่ยนสภาวะการรับรู้เพื่อตรวจสอบว่าโลกเป็นมายาหรือไม่
Monroe Institute – ศึกษาเรื่อง Out-of-Body Experience (OBE) และสำรวจ “พื้นที่นอกโลกความจริง” ด้วยเสียงคลื่นสมอง
Isha Foundation – องค์กรโยคะของ Sadhguru ที่พูดถึงโลกมายาและการรู้เท่าทัน Simulation ทางจิต
MAPS (Multidisciplinary Association for Psychedelic Studies) – กลุ่มวิจัย DMT, Ayahuasca ซึ่งผู้ทดลองจำนวนมากรายงานประสบการณ์ “ออกจากโลกจริง”
📚หลักฐานว่ามนุษย์เคยรู้สึกว่า "โลกไม่จริง"
1. 🪨 อินเดียโบราณ – คำว่า “มายา”
ในคัมภีร์ อุปนิษัท (ก่อนพุทธศตวรรษ) มีคำว่า “มายา” แปลว่า โลกคือภาพลวงตา
เชื่อว่าจิตของมนุษย์ถูกหลอกให้เชื่อในรูปรสกลิ่นเสียง ทั้งที่มันเปลี่ยนแปลง ไม่มีความจริงแท้
เป้าหมายสูงสุดของมนุษย์ = ตื่นจากมายานี้ แล้วหลอมรวมกับความจริงสูงสุด (พรหมัน)
2. 🧘‍♂️ พุทธศาสนา – อนิจจัง อนัตตา
พระพุทธเจ้าสอนชัดว่า โลกนี้ ไม่เที่ยง, บังคับไม่ได้, ไม่ใช่ของเรา
สิ่งที่เรียกว่า “ตัวตน” หรือ “โลก” เป็นแค่การปรุงแต่งของสติและความรับรู้
การบรรลุธรรม = การเห็นทะลุว่า “ไม่มีอะไรจริง” แล้วหลุดพ้นจากทุกสิ่ง
3. 🏺 กรีก – อุปมาถ้ำของเพลโต
Plato เล่าว่า มนุษย์เหมือนนักโทษในถ้ำที่มองเห็นแค่เงาบนผนัง แล้วคิดว่านั่นคือความจริง
มีเพียงคนที่ “กล้าหันหลังให้แสงเงา” เดินออกจากถ้ำเท่านั้น ที่จะเห็นโลกจริง
นี่คือแนวคิด Simulation รุ่นแรกในโลกตะวันตก
4. 🌙 ซูฟี – โลกนี้คือม่านบังความจริง
นักบวชชาวอิสลามสาย ซูฟี (Sufi) เชื่อว่าโลกวัตถุ = ม่านแห่งอัตตา
ชีวิต = บททดสอบให้ค้นพบ “แสงแห่งพระเจ้า” ที่ซ่อนอยู่หลังฉากทุกสิ่ง
การภาวนา = วิธี hack ความจริง แล้วกลับไปหาความเป็นหนึ่งเดียวกับผู้สร้าง
5. 🌌 วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ – Simulation Hypothesis
นักคิดรุ่นใหม่เพียงแค่ใช้ คอมพิวเตอร์ + ฟิสิกส์ อธิบายสิ่งที่คนโบราณเคยรู้
คำว่า “Simulation” แท้จริงก็คือ “มายา” ในรูปแบบดิจิทัล
📜สรุป:
มนุษย์รู้สึกว่า “โลกนี้แปลก” มาตลอดประวัติศาสตร์
ทุกศาสนา–ทุกปรัชญา–ทุกวัฒนธรรม ล้วนมีกลุ่มที่ “ตื่นรู้” และพยายามจะออกจากระบบ
เพียงแต่ในแต่ละยุค เรียกมันต่างกัน: มายา / ถ้ำ / illusion / samsara / simulation
เป้าหมายของ Exit the SIM คือการเปิดพื้นที่สำหรับคนที่รู้สึกว่าโลกนี้ไม่เหมือนเดิม เราไม่ได้อ้างว่าเรามีคำตอบ
แต่เราจะรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง และมุมมองจากนักคิด นักวิจัย และผู้ที่มีประสบการณ์ตรง เพื่อช่วยให้คุณตั้งคำถามกับความจริงที่คุณเคยเชื่อ
เพราะบางที… แค่กล้าถาม ว่า “โลกนี้จริงแค่ไหน?” ก็อาจเป็นก้าวแรกของการ “ออกจากระบบ”

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา