การสัมภาษณ์ที่ยาวนานที่สุดในชีวิ
การสัมภาษณ์ที่ยาวที่สุดที่คุณเคยเจอคือเท่าไร ถ้า1ชั่วโมงคือนาน บอกเลยว่าของเรานานกว่านั้น เพราะสำหรับเรานั้นคือ2ชั่วโมงจ้า เาอจริงๆถ้าเริ่มนับตั้งแต่เราเข้าไปในบริษัทกรอกใบสมัครรอคนมาสัมก็คือ2ชั่วโมงกว่า โอ้พระเจ้า มันคือการสัมภาษณ์ที่รวมเวลาปฐมนิเทศไปด้วยแล้วมั่งนั้น
เริ่มจากตอนนั้นเราส่งสมัครไป มีที่หนึ่งติดต่อมาเป็นพี่ผู้หญิงฟังจากเสียงก็รู้ว่าอายุมากกว่าเราแน่นอน เขาบอกว่าเราคุณสมบัติผ่าน ทำได้หลายอย่าง(เป็นเป็ดนั้นเอง) บอกชื่อบริษัทมาแต่เราสมัครหลายที่ก็จำไม่ค่อยได้ เขาก็นัดวันสัมภาษณ์ไปวันเสาร์ เขาก็บอกว่าว่างเข้ามาได้ ในใจก็คิดว่าที่ทำงานที่นี้อาจจะทำวันเสาร์ด้วยหรือป่าวนะ
นัดไว้10โมง เรานั่งbtsไปถึงก่อนเลยไปก่อน เข้าไปก็โทรหาพี่คนนั้นเขาตัวบริษัทอยู่ในตึกเข้ามาเลย ในใจพอเห็นรู้สึกไม่คุ้นเลยว่าสมัครไปด้วยหรอตอนนั้น บริษัทมีหน้าร้าน ขายพวกเสื้อใน วันเสาร์พนักงานไม่เจอ เขาก็มาคุยนิดหน่อยให้กรอกไปสมัคร พึ่งดูจากไฟล์คือเก่าประมาณหนึ่ง กรอก2หน้า กรอกเสร็จหัวหน้าก็มาสัมภาษณ์เรา
เริ่มแรกก็แนะนำตัว ถามประวัติของเรา เขาก็เล่าเรื่องราว สถานการณ์ของบริษัทปัจจุบันให้ฟังว่าต้องการรับสมัครตำแหน่งไหน รับมาทำออะไรบ้าง เล่าโปรเจคของบริษัท เล่าว่าบริษัททำอะไร สินค้าเป็นแบบไหน ดียังไง เปิดมานานเท่าไร ลูกค้ามีใครบ้าง ทั้งหมดนี้ในภาษาจีนล้วน มีแทรกภาษาอังกฤษหรือไทยแค่บ้างคำ เราก็รู้สึกว่าเริ่มจะนานกว่าปกติ โดยทั่วไปถ้าคนจีนมาสัมภาษณ์เพื่อที่จะทดสอบภาษาใช้เวลาประมาณ5-10ก็จะพอรู้ได้คร่าวๆว่าระดับภาษาเราเป็นอย่างไร ตอบเร็วมั้ย พูดติดขัดหรือป่าว
แต่สำหรับเราคิดว่าถ้าการสัมภาษณ์ที่นานกว่า30นาทีไปจะทดสอบเยอะกว่านั้น เช่น การใช้คำในการพูดคุย เป็นคำธรรมดาหรือมีการใช้สำนวนการเปรียบเทียบมั้ยใดใด แต่ถ้ายังนานกว่านั้นคือการทดสอบความอึดของสมองว่าหลังจากที่เราไม่พูดภาษาแม่ แล้วคุยด้วยภาษาอื่นเป็นเวลาซักพักเราจะตอบสนองยังไง บอกตรงๆว่าสมองมีความเหนื่อย มันเหมือนไปเล่นยิมซักพักแล้วกล้ามเนื้อเริ่มล้า บ้างทีก็คิดได้แต่คิดคำไม่ออก 55555
หัวหน้าเป็นคนไต้หวัน(ภาษาจีนตัวเต็ม เราเรียนจีนกลางเป็นตัวย่อ) มีอายุประมาณหนึ่ง อยู่ไทยมาหลายปีมาก จากที่พูดไทยไม่ได้ตอนนี้ก็พูดได้บ้างแต่เขียนไม่ได้ ตอนแรกแกก็คิดว่ามาถึงก็ไม่ต้องเรียนไทยเพราะไม่น่าจะอยู่ยาวขนาดนั้น และคิดว่ามีล่ามก็พอแล้ว แต่สรุปบริษัทแกพอทำไปทำมาก็โดนดึงตัวหน้าเก่ง ทำให้โปรเจ็คที่สร้างไว้ไปต่อไม่ได้ ก็ต้องเริ่มสร้างทีมใหม่ เขาบอกว่าตอนแรกก็คิดว่าทำแปปเดียวก็เสร็จ แต่ถ้าไม่ใช่คนพื้นที่ ไม่เข้าใจคนในประเทศที่เรามาทำธุรกิจก็ยากที่จะประสบความสำเร็จในระยะยาว
เขาพูดที่ยังอยู่ส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่ชอบอยู่ในsafe zoneขอดีคือไม่ไปไหน ข้อเสียก็คือเข่นไม่ขึ้นเช่นกัน คนที่ออกไปแล้วกลับมามีมั้ยมี แต่ก็อยู่ไม่นาน หรือคนที่ใช้โอกาสไปหลายครั้งก็ยังทำผลงานไม่ได้ สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะปล่อยไปและสร้างทีมมาใหม่อีก รอบนี้ก็มีประสบการณ์มากขึ้นกว่าครั้งก่อน ชีวิตคือการสะสมประการณ์ ธุรกิจก็คือการทดลองทำไปเรื่อยๆ ถ้ายังไม่ปังก็ลองวิธีใหม่ ช่วงท้ายก็มีการเอาข้อมูลบ้างส่วนที่เขาเริ่มทำในโปรเจคล่าสุดมาให้ดู
เขาเป็นหัวหน้าที่พูดภาษาจีนแต่เขียนกระดาษเป็นภาษาอังกฤษคนแรกที่เราเจอ หลังจากลากมานานก็มาถึงช่วงท้ายของการสัมภาษณ์นี้ เขาก็ถามว่าถ้าผ่านสัมภาษณ์จะเริ่มงานได้เมื่อไร เรียกเงินเดือนอยู่ที่เท่าไร ตอนนั้นเราบอกว่าเราของตัดสินใจดูก่อนและให้คำตอบในวันจันทร์ (เพระาในวันนั้นเราก็ยังมีสัมภาษณ์ที่อื่นอีก อิอิ) ก่อนออกพี่ผู้หญิงที่ติดต่อเรามาก็ถามว่าสัมภาษณ์เป็นยังไงบ้าง เราก็ถามเขาว่าปกติสัมนานแบบนี้เลยมั้ย เขาก็บอกว่าปกติก็ไม่นานขนาดนี้ แต่ดูชอบน่าจะชอบเรา คุยพูดคอเลยลากยาว
บทสรุปเป็นยังไงเดี่ยวไว้มาเล่าต่อ มีใครเคยมีประสบการณ์การสัมภาษณ์แบบไหนลองมาเล่าให้ฟังดูได้นะ
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
