1 ส.ค. เวลา 15:47

ถอดรหัส “ยุทธศาสตร์บอลติก” ของปูติน

เอสโตเนียคือกุญแจสู่ความยิ่งใหญ่ของรัสเซีย! โฮลเกอร์ โมลเดอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงระหว่างประเทศของเอสโตเนีย และ เอริก ชิราเยฟ ผู้ร่วมเขียนบทความต้นเรื่องได้เขียนบทความสะท้อนความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาในชื่อบทความว่า “ทำไมรัสเซียจึงอยู่รอดไม่ได้หากไม่มีบอลติก” บน The National Interest [1]
เครื่องมือหลักของผู้เขียนต้นเรื่องในการทำความเข้าใจคือ การอ้างอิงถึงประวัติศาสตร์และความพยายามที่จะเจาะลึกความคิดในหัวของปูติน พวกเขากล่าวว่าเนื่องจากรัสเซียได้พยายามอย่างหนักเพื่อยึดครองภูมิภาคบอลติกมาตั้งแต่สมัยของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช และรัสเซียก็จะยังคงทำเช่นเดียวกันต่อไป
เครดิตภาพ: CRUX.
สำหรับแรงจูงใจของผู้นำรัสเซีย ผู้เชี่ยวชาญชาวเอสโตเนียกล่าวว่า “ผู้นำเผด็จการที่อายุมากมักจะแข็งกร้าวขึ้น เปิดรับความเห็นต่างน้อยลง และพึ่งพานิสัยและอุดมการณ์เดิมๆ มากขึ้น ความเข้มแข็งนี้สามารถเพิ่มความไม่เต็มใจที่จะประนีประนอมและความปรารถนาที่จะใช้กลยุทธ์แบบการเผชิญหน้า” (รู้สึกเหมือนเขียนบรรยายถึงทรัมป์ด้วย)
ประเด็นสำคัญของผู้เขียนต้นเรื่องคือ เอสโตเนียงดงามมากจนแสงอันน่าอัศจรรย์ของเอสโตเนียกลับกลายเป็นสิ่งที่คอยกวนใจเครมลินอยู่เสมอ ดังนั้นการกดขี่เอสโตเนียและประเทศบอลติกทั้งหมดจึงถูกกล่าวอ้างว่ายังคงเป็นภารกิจสำคัญของรัสเซียเสมอมา ไม่เพียงแต่เพื่อทำลายเรื่องราวความสำเร็จอันเป็นเอกลักษณ์เท่านั้น แต่ยังเพื่อทำความเข้าใจความซับซ้อนทางประวัติศาสตร์ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อีกด้วย
เนื้อหาในบทความดังกล่าว ผู้เขียนต้นเรื่องยังกล่าวหารัสเซียและผู้นำว่าทำเรื่องเลวร้ายต่างๆ มากมาย “ภาวะการถอยหลังลงคลอง เช่น การเกลียดกลัวคนรักเพศเดียวกัน การต่อต้านชาวยิว และทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ ได้เด่นชัดขึ้นในยุคหลังสหภาพโซเวียต”
เครดิตภาพ: gfsis.org
ในทางกลับกันแนวคิดที่ว่า “บอลติกในฐานะสัญลักษณ์แห่งความอัปยศและความยิ่งใหญ่ที่สูญหายของรัสเซีย” นั้นเป็นเพียงความคิดของนักวิเคราะห์ตะวันตกที่สามารถมองเห็นความยิ่งใหญ่ในประเทศชายขอบที่กำลังจะล่มสลาย ยิ่งไปกว่านั้นตั้งแต่ปี 2014 รัสเซียได้สร้างระเบียบโลกทางเลือกโดยอิงจากความคาดหวังของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ดังนั้นในลำดับชั้นภารกิจที่แท้จริงของรัสเซีย เอสโตเนียจึงไม่ใช่ถ้วยรางวัลที่น่าดึงดูดใจเลย แต่เป็นทางตันมากกว่า
หลังจากปี 2022 นาโตก็สร้างระบบหรือแนวยั่วยุแบบหลายชั้นตั้งแต่นอร์เวย์ไปจนถึงโรมาเนีย ดังนั้นการสู้รบในแถบบอลติกจึงเป็นไปได้ก็ต่อเมื่ออยู่ภายใต้กรอบความขัดแย้งทางนิวเคลียร์เต็มรูปแบบ ซึ่งแทบจะไม่มีใครสังเกตเห็นเอสโตเนียว่าอยู่ตรงนั้น
ในบริบทของการเสริมกำลังทหารในฟินแลนด์และสวีเดน การเคลื่อนไหวของนาโตรอบ “คาลินินกราด” การกดดันอย่างเป็นระบบต่อรัสเซียที่ส่งผ่านไปทางแถบบอลติกโดยรวม รวมถึงการคุกคามจากเดนมาร์กที่ปิดกั้นช่องแคบทางเดินเรือบังคับนับเป็นการควบคุมแถบบอลติกไปในตัว ย่อมไม่ทำให้รัสเซียได้เปรียบใดๆ
เครดิตภาพ: Quincy Institute for Responsible Statecraft
หากเราพิจารณาอย่างเป็นกลางจริงๆ ภารกิจสำคัญของรัสเซียก็ถูกระบุไว้ในเอกสารที่ส่งถึงนาโตและวอชิงตันเมื่อปลายปี 2021 รัสเซียต้องการย้อนกลับโครงสร้างทางทหารของนาโตไปยังพรมแดนเหมือนครั้งตอนปี 1997 [2]
เครมลินมองว่า เอสโตเนียเป็นเพียงจุดหนึ่งบนแผนที่ที่ยังคงถูกทหารนาโตยึดครองไว้อยู่ เนื่องจากความเข้าใจผิด...
เครดิตภาพ: BBC
เรียบเรียงโดย Right Style
1st Aug 2025
  • อ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: The Geostrata>
โฆษณา