☀️ “ญี่ปุ่นเดือด!” คลื่นความร้อนอันตรายทะลุ 40 องศา 3 วันติด
🇯🇵 Dangerous Heatwave Persists Across Japan
ในขณะนี้ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับ “คลื่นความร้อนสุดอันตราย” ที่รุนแรงถึงขั้นอุณหภูมิทะลุ 40°C ต่อเนื่องตลอด 3 วัน สถานการณ์นี้สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนทั่วประเทศตั้งแต่เหนือจรดใต้และอาจส่งแรงสั่นสะเทือนต่อ “เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ” ทั้งภายในและระหว่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
🌡️ จุดที่ร้อนที่สุดเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2025 ที่เมืองคุวานะ จังหวัดมิเอะ ซึ่งอุณหภูมิพุ่งแตะ 40.4°C
💥 ก่อนหน้านั้นเพียงสองวันคือ วันพุธที่ 30 กรกฎาคม 2025 เมืองทัมบะ จังหวัดเฮียวโงะเพิ่งทำสถิติอุณหภูมิสูงสุดตลอดกาลของญี่ปุ่นที่ 41.2°C
🔥 ผลกระทบในระดับ “คนธรรมดา” และเศรษฐกิจท้องถิ่น
☠️ สุขภาพและความเป็นอยู่ — ญี่ปุ่นประกาศ “เตือนภัยโรคลมแดด” (Heatstroke Alert) ครอบคลุม 35 จังหวัด
🏥 จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาด้วยอาการลมแดดอาจพุ่งสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด
📉 แรงงานนอกอาคารหยุดชะงัก — การทำงานในอุตสาหกรรมก่อสร้าง โลจิสติกส์ และเกษตรกรรมหยุดชะงักหรือชะลอตัวลง
สิ่งเหล่านี้กำลังสะท้อน Ripple Effect ออกสู่ประเทศคู่ค้ารวมถึงประเทศไทยด้วย
🇹🇭 🌏 “แล้วไทยล่ะ? จะได้รับผลกระทบยังไง?”
ประเทศไทยมีความเกี่ยวโยงอย่างใกล้ชิดกับญี่ปุ่นในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นภาคการส่งออก นำเข้า การท่องเที่ยวและการลงทุนโดยตรง
🧳 ภาคท่องเที่ยว:
– หากคลื่นความร้อนยืดเยื้อ สายการบินญี่ปุ่นอาจต้องปรับเที่ยวบิน
– นักท่องเที่ยวอาจยกเลิกการเดินทางในช่วง High Season ของญี่ปุ่น (ฤดูร้อน)
– ส่งผลให้ไทย โดยเฉพาะภาคบริการที่รองรับนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น เช่น 🏨 MINT (ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล), ✈️ AOT (ท่าอากาศยานไทย), 🍜 AU (อาฟเตอร์ยู) และ 🛍️ CRC (เซ็นทรัล รีเทล) อาจได้รับผลบวกจากการ Redirect ท่องเที่ยวกลับมาภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
💡 จุดที่นักลงทุนควรจับตา
🔺 กลุ่มที่อาจได้รับประโยชน์จากคลื่นความร้อนญี่ปุ่น:
🌬️ ธุรกิจเครื่องปรับอากาศและระบบความเย็น
– 🌀 STANLY (ไทยสแตนเลย์ การไฟฟ้า): ผลิตชิ้นส่วนไฟฟ้าในรถยนต์ ที่เกี่ยวข้องกับระบบแอร์
– 🌡️ AH (อาปิโก ไฮเทค): มีฐานการส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ไปญี่ปุ่น
🍦 อาหารเย็น-เครื่องดื่มเย็น-ขนมหวาน
– 🥤 OSP (โอสถสภา), CBG (คาราบาวกรุ๊ป), SAPPE (เซ็ปเป้), MALEE (มาลีกรุ๊ป)
– 🍧 AU (อาฟเตอร์ยู) อาจได้อานิสงส์หากพฤติกรรมบริโภคในประเทศ Shift มาสู่ของเย็นมากขึ้น
🔌 กลุ่มพลังงานทางเลือกและโซลาร์รูฟท็อป
– แดดแรงเกินต้านก็หมายถึงกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สูงขึ้น
– 🏭 SSP (เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น), GUNKUL (กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง), EA (พลังงานบริสุทธิ์)
🧊 ฝั่งที่อาจ "เย็นยะเยือก" จากผลกระทบเชิงลบ
🍙 ธุรกิจอาหารแช่แข็ง/แปรรูป-ส่งออกไปญี่ปุ่น
– เช่น 🍱 TU (ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป), 🐟 ASIAN (เอเชียนซี คอร์ปอเรชั่น), 🥫 CPF (เจริญโภคภัณฑ์อาหาร) อาจเจอ Demand ชะลอตัว
– หากคนญี่ปุ่นลดการเดินทางหรือการออกนอกบ้าน การบริโภคที่บ้านเปลี่ยนแปลงได้
🏗️ อสังหาริมทรัพย์และโครงการร่วมทุนกับญี่ปุ่น
– อย่างเช่น 🏙️ NOBLE (โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์) หรือ ORI (ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้) ที่เคยร่วมทุนกับญี่ปุ่น อาจต้องทบทวนความร่วมมือบางโครงการ
🧠 มิติ “การลงทุนและภาพใหญ่”
ญี่ปุ่นคือแหล่งทุนอันดับต้นๆ ที่ลงทุนในไทย โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรม หากสถานการณ์ความร้อนลากยาวจนกระทบ “สายการผลิต” หรือ Supply Chain อาจลามมาถึงไทย
🏭 จับตา:
– AMATA (อมตะ คอร์ปอเรชัน) และ WHA (ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น)
– หากนักลงทุนญี่ปุ่นเลื่อนหรือปรับการลงทุนระยะสั้น-กลางในไทยเพื่อรองรับภาวะฉุกเฉิน
💬 แล้วคุณล่ะ คิดว่า “คลื่นความร้อน” จะเปลี่ยนโลกอย่างไร?
🧵 ฝากแชร์ความคิดเห็นของคุณว่า:
1. เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงวิกฤต Climate Change ที่ลึกแค่ไหน?
2. นักลงทุนไทยควรปรับพอร์ตอย่างไรกับภัยพิบัติธรรมชาติในต่างประเทศ?
3. ธุรกิจไทยใด “พร้อมรับมือ” และธุรกิจไหน “ต้องเร่งปรับตัว”?
👇 แสดงความคิดเห็นเพื่อร่วมต่อยอดกันได้เลยนะคะ
✅ Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#HeatwaveJapan #คลื่นความร้อนญี่ปุ่น #หายนะแห่งโลกา #StockAtlas #วิเคราะห์หุ้น #GlobalHeatCrisis #ภัยธรรมชาติ2025 #ClimateShock #SETวันนี้ #หุ้นไทย #CataclysmSeries #GlobMaps
🔎 Reference: NHK World Japan (2025-08-02)
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
