Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Storytelling - Daonorway
•
ติดตาม
2 ส.ค. เวลา 14:57 • ไลฟ์สไตล์
ออสโล
EP#10 ฤดูกาลของการเก็บเบอร์รี่ ต่าง ๆ ผลไม้ป่าแสนอร่อย มีประโยชน์ และที่หลายคนอยากมาหารายได้ จริง?
🌻☀️ในช่วงฤดูร้อนของนอร์เวย์ ตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมไปจนถึงตุลาคม ธรรมชาติจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างงดงาม ผืนป่าเริ่มมีสีเขียวสด และสิ่งที่ดึงดูดผู้คนจำนวนมากทั้งชาวนอร์เวย์และชาวต่างชาติ คือ “ฤดูกาลเก็บเบอร์รี่” ผลไม้ป่าที่อุดมไปด้วยรสหวานเปรี้ยวเฉพาะตัว เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ไม่ว่าจะเป็นบลูเบอร์รี่ ราสป์เบอร์รี่ ลิงกอนเบอร์รี่ หรือคลาวด์เบอร์รี่ ซึ่งขึ้นอยู่ตามป่าธรรมชาติ ทุ่งหญ้า หรือเนินเขาสูงในภาคเหนือ
🫐การเก็บผลไม้ป่าในนอร์เวย์ ไม่ใช่แค่กิจกรรมเพื่อความเพลิดเพลิน แต่สำหรับบางคน มันคือโอกาสในการหารายได้พิเศษ บางฟาร์มหรือผู้ประกอบการเกษตรเปิดรับแรงงานต่างชาติให้มาช่วยเก็บผลเบอร์รี่ในช่วงฤดูนี้ และมีชาวต่างชาติจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะจากประเทศในยุโรปตะวันออก รวมถึงแรงงานจากเอเชียที่เดินทางเข้ามาโดยเฉพาะเพื่อทำงานเก็บผลไม้เหล่านี้
____
เพิ่งเข้าป่าเมื่อวาน เก็บไป 2-3 ชั่วโมงด้วยมือเอง ก็ได้ 2 กิโล อยู่ค่ะ เก็บไว้ทำน้ำผลไม้ หรือทานกับโยเกริตตอนเช้า
หลายคนได้ยินว่าแค่เก็บผลไม้ป่าก็สามารถมีรายได้หลักแสนกลับบ้าน แต่เบื้องหลังของเรื่องนี้มีหลายแง่มุมที่ควรรู้ให้ชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อคุณเป็น “นักท่องเที่ยว” หรือเป็นแรงงานที่ไม่ได้มีวีซ่าทำงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ในทางกฎหมายของนอร์เวย์นั้น การเข้าไปเก็บผลไม้ในป่าธรรมชาติไม่ใช่เรื่องผิด ตรงกันข้าม นอร์เวย์ให้เสรีภาพแก่ผู้คนในการเข้าถึงธรรมชาติผ่านกฎหมายที่เรียกว่า “Allemannsretten” หรือสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติทุกคนมีสิทธิ์เดินเข้าพื้นที่ธรรมชาติ เก็บเบอร์รี่ เห็ด หรือพืชป่าบางชนิดเพื่อบริโภคเองได้โดยไม่ต้องขออนุญาต แต่มีข้อแม้ว่า ต้องไม่เป็นพื้นที่ปลูกของเอกชน ห้ามรบกวนผู้อยู่อาศัย และต้องไม่เก็บไปขาย
หากคุณเก็บผลไม้ป่าในนอร์เวย์เพื่อนำไปขาย ถือว่าก้าวข้ามเส้นของกฎหมายธรรมชาติทันที เพราะการนำไปขายเป็นกิจกรรมทางพาณิชย์ ซึ่งจะต้องมีการขออนุญาตจากเจ้าของที่ดินหากพื้นที่นั้นเป็นของเอกชน และหากคุณเป็นแรงงานต่างชาติหรือผู้ที่ไม่ใช่พลเมือง EU/EEA คุณจะต้องมีวีซ่าทำงานตามฤดูกาล (seasonal work permit) พร้อมกับเอกสารการจ้างงานจากฟาร์มหรือผู้ประกอบการที่ชัดเจน นั่นหมายความว่า คุณไม่สามารถมาในฐานะนักท่องเที่ยวแล้วเก็บผลไม้ไปขายได้อย่างถูกกฎหมาย
มีหลายกรณีที่แรงงานจากเอเชียโดยเฉพาะกลุ่มชาติที่ไม่ใช่พลเมืองยุโรป เช่น บางคนจากไทย เวียดนาม หรือกัมพูชา ถูกหลอกลวงด้วยข้อมูลว่า “มาเก็บเบอร์รี่แล้วได้เงินดี” โดยนายหน้าที่ไม่ชอบธรรม หลายคนต้องจ่ายค่าเดินทาง ค่าเอกสาร หรือค่านายหน้าแพง ๆ
พอเดินทางมาถึงกลับพบว่าไม่มีงานรออยู่ หรือรายได้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ทำงานหนัก สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม ต้องนอนรวมกันในบ้านพักเล็ก ๆ และค่าจ้างต่ำกว่าที่ควรได้รับ บางคนอาจถูกบังคับให้เก็บผลไม้มากเกินกำลังหรือถูกหักค่าที่พัก ค่ารถ ค่าอาหาร จนสุดท้ายไม่เหลือเงินกลับบ้านเลย
ในบางพื้นที่โดยเฉพาะในเขต Finnmark ซึ่งเป็นภูมิภาคทางเหนือของนอร์เวย์ การเก็บผลไม้บางชนิด เช่น คลาวด์เบอร์รี่ (cloudberry) ยังมีข้อจำกัดพิเศษ แม้จะสามารถเก็บกินได้ขณะอยู่ในป่า แต่หากต้องการนำกลับบ้านหรือเก็บจำนวนมากเพื่อขาย จะต้องเป็นชาวพื้นเมือง หรือได้รับอนุญาตจากผู้ถือกรรมสิทธิ์ในพื้นที่เท่านั้น หากฝ่าฝืนจะถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคล และอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายท้องถิ่น
แม้ว่าแนวคิดของการออกไปเก็บเบอร์รี่ในป่าในช่วงฤดูร้อนจะดูโรแมนติกและใกล้ชิดธรรมชาติ แต่ในมุมของแรงงานต่างชาติและการค้าขาย มันซับซ้อนกว่านั้นมาก การมาทำงานเก็บผลไม้ในนอร์เวย์อย่างถูกกฎหมายต้องมีการวางแผนและเอกสารครบถ้วน ไม่ใช่แค่ถือวีซ่าท่องเที่ยวแล้วเดินเข้าป่าไปเก็บมาขายได้เลย และแม้จะมีบางกรณีที่คนไทยทำได้จริงและได้เงินจำนวนมาก แต่ก็มีอีกไม่น้อยที่ประสบปัญหา ติดหนี้ กลับบ้านมือเปล่า หรือแม้แต่เสี่ยงถูกเนรเทศเพราะละเมิดเงื่อนไขวีซ่า
ดังนั้น หากคุณมีฝันอยากมาเก็บเบอร์รี่ในนอร์เวย์ ทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดคือการวางแผนล่วงหน้า หาข้อมูลเรื่องวีซ่าทำงานตามฤดูกาล สมัครกับฟาร์มหรือองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือ และศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อนเดินทาง ไม่อย่างนั้น สิ่งที่เริ่มต้นด้วยภาพของผลไม้ป่าหอมหวาน อาจจบลงด้วยรสขมของความผิดหวัง และการละเมิดกฎหมายโดยไม่ตั้งใจ.
____
เรามาดูภาพรวมของผลคดีการเก็บผลเบอร์รี่ในประเทศใกล้เคียง
1. สวีเดน: คดีสะเทือนใจในอดีต (ย้อนหลังไปประมาณปี 2010–2015)
แม้ไม่ใช่ในช่วง 5 ปีล่าสุด แต่มีเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลให้เกิดมาตรการเข้มงวดคือ “Blueberry fiasco” ปี 2009 ซึ่งมีชาวไทยจำนวนมากกลับบ้านในสภาพเป็นหนี้ และเป็นจุดเริ่มการเปลี่ยนแปลงระบบการจ้างแรงงานเบอร์รี่ในสแกนดิเนเวีย 
ต่อมา บริษัทผู้ประกอบการในสวีเดนถูกตัดสินจำคุก 2.5 ปี จากการเอารัดเอาเปรียบแรงงานไทย — สัญญาจ้างไม่แฟร์ จ่ายค่าจ้างต่ำ และชั่วโมงทำงานยาวนานเกินไป 
2. ฟินแลนด์: คดีใหญ่ล่าสุด ปี 2020–2025
• ศาล Lapland District Court เริ่มพิจารณาคดี “human trafficking” แรงงานไทย 62 คน กับบริษัทเบอร์รี “Kiantama” และนายหน้าไทย โดยอัยการกล่าวหาว่าแรงงานถูกบังคับให้งานหนัก ได้ค่าจ้างต่ำมาก เช่น หลังเก็บ 3,500 กก. ได้เพียง €115, สภาพที่พักแย่ และสัญญาที่ไม่เข้าใจ 
• คดีเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท Polarica และผู้ประสานงานในไทยกำลังอยู่ในกระบวนการการพิจารณาคดี
นอกจากนั้น พบว่าอย่างน้อย 170 คนถูกสัมภาษณ์โดยตำรวจ และอาจมีเหยื่อมากถึง 2,000 คน จากแรงงานไทยที่มาเก็บเบอร์รี่ระหว่างปี 2020–2022
3. แนวโน้มและนโยบายล่าสุด
• ตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นมา ฟินแลนด์ได้บังคับให้แรงงานทั้งหมดยื่นขอ ใบอนุญาตพำนักชั่วคราวในฐานะแรงงานฤดูกาล ไม่สามารถเข้ามาในฐานะนักท่องเที่ยวได้อีกต่อไป เพื่อป้องกันการค้ามนุษย์  
• รัฐบาลฟินแลนด์ยังปฏิเสธคำขอที่มีสัญญาณของการเอารัดเอาเปรียบแรงงาน หรือ human trafficking อีกด้วย เพื่อคัดกรองแรงงานที่เข้ามาอย่างถูกต้อง  
ในสวีเดนเองปี 2025 มีการแจกวีซ่าจำนวนเล็กน้อย (แค่ 89 ราย) ให้แรงงานไทยภายใต้โครงการ seasonal work directive เทียบกับปี 2023 ที่สูงถึงกว่า 5,000 ราย — สาเหตุมาจากความเสี่ยงด้านแรงงานโดนเอาเปรียบ เช่น ค่าที่พักแพง ชั่วโมงทำงานมากเกินไป
นโยบายการแก้ไขใหม่คือ นโยบายใหม่ 2024–2025
ต้องขอ work permit seasonal, ปฏิเสธผู้สมัครที่มีสัญญาณ exploitation.
❤️❤️สรุป (เชิงตรรกะ)
ในช่วง 5–10 ปีที่ผ่านมา ปัญหาการเอารัดเอาเปรียบแรงงานไทยในการเก็บเบอร์รี่ในยุโรป โดยเฉพาะในฟินแลนด์และสวีเดน มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง รายแรงงานบางคนตกเป็นเหยื่อ human trafficking ได้รับค่าจ้างต่ำมากจนแทบไม่มีรายได้ พนักงานถูกบังคับให้อยู่ในสภาพไม่เหมาะสม และสัญญาที่เซ็นจากประเทศต้นทางมักไม่โปร่งใส
การรับรู้ถึงปัญหาเหล่านี้นำไปสู่การปรับนโยบาย เช่น การขอ work permit ชัดเจน เลิกอนุญาตวีซ่านักท่องเที่ยวเพื่อเก็บผลไม้ การปฏิเสธผู้สมัครที่มีความเสี่ยง ช่วยคัดกรองแรงงาน และลดช่องทางนายหน้าที่ไม่ชอบธรรม
หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีใดคดีหนึ่ง เช่น รายชื่อบริษัท รายละเอียดคดีในศาล หรือกระบวนการยื่นวีซ่า work permit seasonal ช่วยระบุเพิ่มเติมได้เลยนะคะ
ส่วนในประเทศนอร์เวย์ ป้าดาวทำงานจิตอาสาของสมาคมสตรีไทยในนอร์เวย์ เคยได้รับโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ ในกรณีมาเก็บผลเบอร์รี่แล้วถูกเอาเปรียบ ไม่จ่ายค่าจ้างตามที่ตกลงกันไว้ และได้ประสานงานกับเจ้าหน้ากรมแรงงานเข้าไปตรวจสอบ ผลสรุปก็ยอมความกันโดยที่ผู้ร้องทุกข์ไม่ต้องการขึ้นศาลหรือมีคดีความต่อกัน กลับบ้านโดยได้รับค่าจ้างไม่คุ้มกับค่าแรง และต้องกลับไปจ่ายเงินกู้ที่ยืมมาเพื่อซื้อตั๋วเดินทาง สุดท้ายหากผู้ประกอบการ หรือผู้เชิญชวน ยังไม่ถูกพิจารณาคดี เธอยังคงหลอกล่อและเชิญชวนกันต่อไป
✨✨ อย่าไว้ใจใคร ควรตรอบสอบรายละเอียดจากกรมแรงงาน หรือหาข้อมูลให้มากพอ
ด้วยรักและห่วงใย
โดย ป้าดาวนอร์เวย์
https://theworld.org/stories/2015/10/14/thai-berry-pickers-nordic-lapland-take-home-cash-and-antlers
https://www.rcinet.ca/eye-on-the-arctic/2023/11/29/prosecutors-to-consider-suspected-human-trafficking-of-thai-berry-pickers/?utm_source=chatgpt.com
https://italianberry.it/en/news/Finland-residence-permits-for-thousands-of-wild-berry-pickers-Thailand?utm_source=chatgpt.com
https://scandasia.com/sharp-drop-in-thai-berry-pickers-sparks-protest-in-bangkok-and-concern-in-sweden/?utm_source=chatgpt.com
https://www.visitnorway.com/things-to-do/food-and-drink/fruit-and-berries/?utm_source=chatgpt.com
ไลฟ์สไตล์
เรื่องเล่า
travel
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย