4 ส.ค. เวลา 01:28 • หุ้น & เศรษฐกิจ

🇰🇭🔥 ปตท.ในกัมพูชา “ร้าว” ไม่ใช่เพราะแบรนด์ไม่ดี…แต่เพราะแรงสะเทือนจากสงครามการค้า

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีภาพชวนสะเทือนใจ เมื่อเจ้าของปั๊ม ปตท. ในกัมพูชาหลายรายรวมตัว “เลิกสัญญา” กับฝั่งไทย พร้อมเตรียมเปิดแบรนด์ใหม่ของตัวเอง
ข่าวนี้กระแทกใจหลายคน แต่ถ้ามองในเชิงตัวเลข 📊
จะพบว่า ผลกระทบต่อ PTT และ OR อาจ “ไม่แรง” อย่างที่คิด
📍 ย้อนกลับไปช่วงหลายปีก่อน
แบรนด์ไทยอย่าง PTT และ OR ได้รับการต้อนรับอย่างดีในกัมพูชา
โดยเฉพาะโมเดลสถานีบริการน้ำมัน + คาเฟ่อเมซอน + ร้านสะดวกซื้อ
กลายเป็นภาพลักษณ์ของความทันสมัย และเป็นหนึ่งในแบรนด์ต่างชาติที่แข็งแรงที่สุดในฝั่งผู้บริโภคเขมร
👉แต่…เบื้องหลังความสำเร็จนั้นคือ “ความเปราะบาง”
เพราะดีลธุรกิจส่วนใหญ่เป็นแบบ Dealer (ผู้รับสิทธิ์แฟรนไชส์)
ซึ่งหมายถึงเจ้าของปั๊มไม่ใช่คนไทย แต่เป็นคนท้องถิ่นที่ใช้แบรนด์ไทยทำตลาด
และเมื่อบริบททางการเมืองเริ่มตึงเครียด โดยเฉพาะหลังจากรัฐบาลกัมพูชา
ประกาศชัดว่าจะ “ลดการพึ่งพาน้ำมันจากไทย” พร้อมผลักดันแบรนด์ท้องถิ่นของตนเอง
กระแสการ รวมตัวของเจ้าของปั๊ม ปตท.ในกัมพูชาเพื่อยกเลิกสัญญา ก็เกิดขึ้นทันที
กลายเป็นข่าวใหญ่ที่สะเทือนภาพลักษณ์ไทยในอาเซียน
#ยกเลิกสัญญา เลิกทำธุรกิจด้วย
📉 ถ้ามองในเชิงธุรกิจ
ผลกระทบต่อ PTT และ OR ยังถือว่า จำกัดมาก
▪️ รายได้จากกัมพูชาอยู่ราว 2–3% ของ OR และไม่ถึง 1% ของ PTT
▪️ สถานีบริการ 186 แห่ง คาเฟ่อเมซอน 254 สาขา และร้านสะดวกซื้อ 71 แห่งในเขมร → ยังบริหารความเสี่ยงได้
▪️ ดีลเลอร์ที่เลิกสัญญาเป็นรายย่อย ไม่ได้กระทบกำไรหลักโดยตรง
🇹🇭🇰🇭 แต่สิ่งที่น่ากังวลกว่าคือ
“Soft Power แบบไทย ๆ” ที่เคยแข็งแรงในสายตาเพื่อนบ้าน
อาจเริ่มสึกกร่อนลง เมื่อการเมืองร้อน…และเศรษฐกิจเริ่มแยกทาง
และเมื่อความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทย–กัมพูชาเริ่มมีรอยร้าว
🇻🇳 เวียดนาม 🇸🇬 สิงคโปร์ 🇨🇳 จีน หรือ 🇲🇾 มาเลเซีย ก็พร้อมเข้ามาแทน
🔎 สรุป:
• ข่าวนี้ “มีผลกระทบ” จริง แม้จะไม่ใช่ระดับวิกฤต
• แต่คือ “สัญญาณ” ว่าเรากำลังเดินอยู่ในภูมิภาคที่ซับซ้อนขึ้นทุกวัน
• ถ้าคิดจะโตในอาเซียน ต้องโตทั้งแบรนด์ รายได้ และความเข้าใจเชิงวัฒนธรรม
📌 ทีมไทยแลนด์ต้อง “ไม่กลัว” ที่จะยืนตรง
และ “ไม่เงียบ” เวลามีคนพยายามดึงเราลง
ยังพร้อม Support PTT ใน Move ต่อไปเสมอครับ 🚀
#TeamThailand
#PTTStation
#หุ้นพอร์ทระเบิด
โฆษณา