4 ส.ค. เวลา 08:20 • ข่าวรอบโลก

เครมลินยังคง “นิ่งเงียบ” ผิดสังเกต ไม่ตอบโต้ทรัมป์ส่งเรือดำน้ำมาจ่อ

ระหว่างช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้ง “ปูติน” และ “เมดเวเดฟ” และตัวแทนอย่างเป็นทางการคนอื่นๆ ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับแถลงการณ์ของ “ทรัมป์” เกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายเรือดำน้ำนิวเคลียร์เข้าใกล้ดินแดนรัสเซีย และสถานีโทรทัศน์ของรัฐก็ไม่ได้เน้นรายงานข่าวเกี่ยวกับแถลงการณ์ของทรัมป์เลยด้วยซ้ำ
“ปูติน” ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมสาธารณะใดๆ เลยนับตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งสถานที่สุดท้ายที่เขาปรากฏตัวและให้สัมภาษณ์กับนักข่าวก็ที่วิหารบนเกาะวาลาอัม พร้อมกับ “อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก” [1]
1
ส่วน “เมดเวเดฟ” ซึ่งโพสต์ของเขากลายเป็นเหตุผลอย่างเป็นทางการในการเคลื่อนย้ายเรือดำน้ำอเมริกัน โพสต์ดังกล่าวเป็นข้อความสุดท้ายบนโซเชียลมีเดียของเขาเมื่อ 31 กรกฎาคม 2025 [2]
ที่มาภาพ: Telegram / Dmitry Medvedev
“เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ” รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย รวมถึง “มาเรีย ซาคาโรวา” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศขาประจำ และ “ดมิทรี เปสคอฟ” โฆษกเครมลิน ก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับถ้อยแถลงของทรัมป์เกี่ยวกับเรือดำน้ำแต่อย่างใดเลย
มี ส.ส. รัสเซีย เพียงไม่กี่คนที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็น อย่างเช่นรองประธานคณะกรรมาธิการดูมาแห่งรัฐว่าด้วยกิจการรัฐอดีตโซเวียต การบูรณาการยูเรเซีย และความสัมพันธ์ร่วมชาติ “วิกเตอร์ โวโดลัตสกี” ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว TASS ว่า “ทรัมป์ได้แสดงย้ำให้โลกเห็นอีกครั้งว่าเขามี 'อาวุธนิวเคลียร์' อยู่ในมือ (อย่ามาแหยม)” “นี่เป็นวิธีการข่มขู่ แต่ไม่ใช่การข่มขู่ที่มีการกระทำใดๆ” โวโดลัตสกีกล่าว [3]
และอดีตนักสเก็ตความเร็วและปัจจุบันเป็นรองประธานคณะกรรมาธิการกิจการระหว่างประเทศของสภาดูมา “สเวตลานา จูโรวา” กล่าวว่า เธอไม่เข้าใจการเปลี่ยนแปลงท่าทีทางการเมืองระหว่างประเทศของทรัมป์ และการคุกคามรัสเซียเป็นเรื่องแปลกใหม่อะไร (อารมณ์แปรปรวนเป็นธรรมดาของทรัมป์) [4]
”สเวตลานา จูโรวา” รองประธานคณะกรรมาธิการกิจการระหว่างประเทศของสภาดูมา เครดิตภาพ: The State Duma
“คอนสแตนติน โคซาเชฟ” รองประธานสภาสหพันธรัฐ ผู้ประสานงานของสภาสูงด้านกิจการระหว่างประเทศ และมักแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญๆ ในนโยบายต่างประเทศ ในครั้งนี้ได้ลิมิตตัวเองไว้เพียงความคิดเห็นเชิงนามธรรม โดยกล่าวว่า “อันที่จริง การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปัจจุบันไม่ได้เกี่ยวกับหน้าที่หรือมาตรการคว่ำบาตร แต่เกี่ยวกับว่าโลกภายนอกจะยอมทำตามผู้สร้างมันขึ้นมาหรือไม่” โคซาเชฟโพสต์ไว้บนบัญชีเทเลแกรมของเขา [5]
1
ในการออกอากาศข่าวเมื่อช่วงวันศุกร์และวันเสาร์ที่ผ่านมา ช่อง Russia-1 เพิกเฉยต่อคำแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของเรือดำน้ำนิวเคลียร์ 2 ลำเข้าใกล้พรมแดนรัสเซียมากยิ่งขึ้น
เริ่มต้นเมื่อวันศุกร์ เวลา 19:53 น. ตามเวลามอสโก ทรัมป์ได้เขียนบนโซเชียล Truth ของเขาว่า เขาได้สั่งการให้เคลื่อนเรือดำน้ำนิวเคลียร์สองลำเข้าไปใน “พื้นที่ที่เกี่ยวข้อง” เพื่อตอบโต้ถ้อยแถลงของอดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ดมิทรี เมดเวเดฟ
ทางการรัสเซียยังชะลอการตอบโต้ต่อคำขาดก่อนหน้านี้ของทรัมป์ ซึ่งเขาให้ไว้เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน ที่ว่าสหรัฐฯ จะเริ่มใช้มาตรการคว่ำบาตรภายใน 10 วัน (เส้นตายคือ 8 สิงหาคม 2025) หากไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจนในการยุติความขัดแย้งในยูเครนอย่างสันติ โดยปูตินเพิ่งตอบโต้ต่อคำขาดของทรัมป์ดังกล่าวเมื่อวันศุกร์จากการให้สัมภาษณ์นักข่าวบนเกาะวาลาอัมคู่กับลูกาเชนโก
ลำดับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้อ่านเพิ่มเติมได้จากลิงก์ด้านล่างนี้
การที่รัสเซียไม่ตอบโต้ต่อถ้อยแถลงของทรัมป์อย่างทันท่วงที ทำให้คำพูดของประธานาธิบดีสหรัฐฯ “ถูกด้อยค่า” ถ้อยแถลงของทรัมป์เป็นสัญญาณเชิงสัญลักษณ์ก็จริง แต่มันจะยังไม่ใช่จุดเริ่มต้นของการเผชิญหน้าทางนิวเคลียร์ของสองมหาอำนาจ ซึ่งรวมถึงมุมมองของนักวิเคราะห์ในรัสเซียด้วย - เอเวอลีน ฟาร์คัส ผู้อำนวยการบริหารของสถาบันแมคเคนและอดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวกับรอยเตอร์ส [6]
1
เรียบเรียงโดย Right Style
4th Aug 2025
  • อ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: kremlin.ru>
โฆษณา