5 ส.ค. เวลา 04:08 • การเมือง

เจ้าสัวกัมพูชา...ตู้ ATM ของรัฐ กับภาษีที่ไม่ต้องผ่านกรมสรรพากร

ในกัมพูชา...
ประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างเงียบ ๆ ท่ามกลางเสียงเครื่องจักรของคาสิโนและการลงทุนจากต่างชาติ
มีเจ้าสัวมากมายที่ร่ำรวยระดับพันล้านดอลลาร์
แต่เมื่อถึงคราว “บริจาค” กลับเห็นตัวเลขแค่หลักพัน หรือหมื่นดอลลาร์เท่านั้น
หลายคนอาจสงสัย...
“ทำไมเจ้าสัวไม่ใจป้ำหน่อย?”
“เงินเยอะขนาดนั้น บริจาคแค่นี้ไม่อายเหรอ?”
แต่ถ้าเข้าใจ “ระบบกัมพูชา” แล้ว...
จะรู้ว่า นี่ไม่ใช่ความขี้เหนียว
แต่เป็น “การบริหารความเสี่ยง” แบบเจ้าสัว
เพราะในกัมพูชา...
การบริจาคไม่ใช่เรื่องใจบุญ
แต่เป็น “หน้าที่” ที่ต้องทำ...
เมื่อผู้นำรัฐ “เป่านกหวีด” เจ้าสัวต้อง “ควักเงิน” ทันที
💸 บริจาคแบบ...ค่อย ๆ จ่าย ไม่ใช่ไม่จ่าย
เจ้าสัวกัมพูชาไม่ได้บริจาคน้อย
แต่บริจาค “บ่อย”
ปีหนึ่ง...ไม่ต่ำกว่า 30–50 ครั้ง
ไม่ว่าจะน้ำท่วม ไฟไหม้ โรคระบาด หรือแม้แต่โครงการรัฐที่ “ต้องมีภาพ”
เจ้าสัวต้อง “ร่วมด้วยช่วยกัน”
ไม่ใช่เพราะอยากช่วย...แต่เพราะ “ต้องช่วย”
🏛️ รัฐไม่ต้องเก็บภาษี...เพราะมีเจ้าสัว
ในประเทศที่ระบบภาษียังไม่แข็งแรง
รัฐไม่ต้องพึ่งกรมสรรพากร
เพราะมี “เจ้าสัว” ที่พร้อมจ่าย
เมื่อรัฐต้องการเงิน...
ไม่ต้องออกกฎหมาย ไม่ต้องตั้งงบ
แค่ “ส่งสัญญาณ”
เจ้าสัวก็พร้อม “โอน”
นี่คือ “ภาษีแบบไม่เป็นทางการ”
ที่รัฐไม่ต้องเหนื่อย...แต่ประชาชนก็ไม่รู้ว่าเงินไปไหน
🧠 เจ้าสัว = ตู้ ATM ของรัฐ
ในกัมพูชา...
เจ้าสัวไม่ใช่แค่ผู้ประกอบการ
แต่คือ “เครื่องมือของรัฐ”
คือ “ตู้ ATM” ที่รัฐกดเมื่อไหร่ก็ได้
ไม่ต้องใส่รหัส ไม่ต้องมีบัตร
แค่ “สายตรง” จากผู้นำ...เงินก็มา
🤐 บริจาคแบบเงียบ ๆ...แต่ต้องมีภาพ
แม้จะบริจาคบ่อย
แต่เจ้าสัวก็ต้อง “มีภาพ”
ต้องมีข่าว ต้องมีชื่อ
เพราะนี่คือ “การแสดงความจงรักภักดี”
ไม่ใช่แค่ต่อประเทศ...แต่ต่อ “ผู้นำ”
ในประเทศที่ “รัฐกับทุน” เป็นเนื้อเดียวกัน
เจ้าสัวไม่ใช่แค่คนรวย
แต่คือ “ผู้สนับสนุนอำนาจ”
และการบริจาค...คือ “ภาษีของความสัมพันธ์”
โฆษณา