6 ส.ค. เวลา 07:53 • สุขภาพ

Ketoconazole Shampoo กลไกการออกฤทธิ์และประสิทธิภาพในการรักษาเกลื้อนที่ตัว

เกลื้อนที่ตัวคืออะไร
เกลื้อนที่ตัว (Tinea versicolor หรือ Pityriasis versicolor) เป็นโรคผิวหนังจากการติดเชื้อรากลุ่ม Malassezia ซึ่งปกติเป็นเชื้อราแฝงที่พบบนผิวหนังของมนุษย์โดยไม่ก่อโรค แต่ภายใต้สภาวะที่เอื้อต่อการเจริญเติบโต เช่น อากาศร้อนและชื้น เชื้อรานี้อาจเพิ่มจำนวนผิดปกติและก่อให้เกิดการติดเชื้อบริเวณผิวหนังลำตัว
ลักษณะทางคลินิกที่พบบ่อย คือ ผื่นราบมีขอบเขตชัด รูปร่างไม่แน่นอน สีขาว น้ำตาล หรือชมพูอ่อน มีขุยบาง ๆ บนผิว มักพบบริเวณหน้าอก หลัง หัวไหล่ และหน้าท้อง อาจมีอาการคันเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปผู้ป่วยมักวิตกกังวลในเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอมากกว่าอาการคัน
กลไกการออกฤทธิ์ของ Ketoconazole Shampoo
Ketoconazole เป็นยาต้านเชื้อรากลุ่ม imidazole ซึ่งออกฤทธิ์โดยการยับยั้งเอนไซม์ lanosterol 14-α-demethylase ที่จำเป็นต่อกระบวนการสังเคราะห์ ergosterol ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของผนังเซลล์เชื้อรา การยับยั้งการสร้าง ergosterol ทำให้โครงสร้างและการทำงานขอเยื่อหุ้มเซลล์เชื้อราบกพร่อง ส่งผลให้เยื่อหุ้มเซลล์รั่ว/เปราะ เกิดการรั่วไหลของสารภายในเซลล์ และนำไปสู่การตายของเชื้อราในที่สุด
คำแนะนำการใช้ Ketoconazole Shampoo สำหรับประชาชน
เพื่อให้การรักษาโรคเกลื้อนที่ตัวได้ผลอย่างเต็มประสิทธิภาพ ควรปฏิบัติตามวิธีการใช้ Ketoconazole Shampoo ดังนี้
1. เขย่าขวดก่อนใช้ เพื่อให้ตัวยากระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ
2. เทแชมพูลงบนฝ่ามือ ปริมาณประมาณเท่าเหรียญ 10 บาท
3. ฟอกบริเวณที่เป็นผื่น ให้ครอบคลุมทั้งรอยโรคและผิวหนังรอบข้างประมาณ 2–3 เซนติเมตร
4. ทิ้งไว้ 5 นาที เพื่อให้ตัวยาซึมเข้าสู่ผิวหนังอย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด
5. ใช้วันละครั้ง ติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน
ในกรณีที่มีประวัติโรคกลับมาเป็นซ้ำบ่อย อาจใช้เพื่อป้องกันโดยการสระสัปดาห์ละครั้ง
เคล็ดลับเสริมการดูแลผิว :
- สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
- อาบน้ำทันทีหลังเหงื่อออก
- หลีกเลี่ยงการใช้ครีมหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวชื้นอบในบริเวณที่เคยเป็นผื่น เพื่อลดความเสี่ยงที่เชื้อราจะกลับมาเจริญเติบโตเร็ว
ความปลอดภัยและผลข้างเคียงของ Ketoconazole Shampoo
โดยทั่วไป Ketoconazole shampoo ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่มี ความปลอดภัยสูง และสามารถใช้ได้ในประชากรหลากหลายกลุ่ม อย่างไรก็ตาม อาจพบ ผลข้างเคียงบางประการ ในผู้ใช้บางราย เช่น
- ความรู้สึกระคายเคืองผิว แสบร้อนเล็กน้อย หรือคัน ระหว่างการใช้
- ผมอาจแห้งหรือเปลี่ยนสัมผัสได้ในบางราย
- อาการแพ้เฉพาะที่ เช่น ผื่นแดงหรือลอกอย่างรุนแรง ซึ่งพบได้น้อยมาก
Ketoconazole ในรูปแบบแชมพูมีการดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดน้อยมากจนไม่มีนัยสำคัญทางคลินิก จึง สามารถใช้ได้ในเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป หากมีความจำเป็น แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเริ่มใช้ยา
- หลีกเลี่ยงสัมผัสตาและเยื่อบุ หากเข้าตาให้ล้างออกทันที
การป้องกันการกลับเป็นซ้ำ
โรคเกลื้อนมีแนวโน้มกลับมาเป็นซ้ำได้ง่าย เนื่องจากเชื้อ Malassezia ยังคงอาศัยอยู่บนผิวหนังตามธรรมชาติ แม้จะรักษาให้หายแล้วก็ตาม เพื่อป้องกันการกำเริบใหม่ แนะนำให้
- ใช้ Ketoconazole shampoo เช่น สัปดาห์ละครั้ง เป็นการรักษาแบบประคับประคอง (maintenance therapy)
- ใช้หลังการออกกำลังกายหนักหรือเหงื่อออกมาก เพื่อช่วยลดการเพิ่มจำนวนของเชื้อราบนผิวหนัง
การปฏิบัติตามแนวทางเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดอัตราการกลับเป็นซ้ำและคงสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนสม่ำเสมอได้ในระยะยาว
สรุป
Ketoconazole 2 % shampoo ออกฤทธิ์โดยยับยั้งเอนไซม์ lanosterol 14-α-demethylase ทำให้กระบวนการสร้าง ergosterol องค์ประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์เชื้อราหยุดชะงัก ส่งผลให้เยื่อหุ้มเซลล์สูญเสียความเสถียร เชื้อ Malassezia จึงหยุดเจริญและตายในที่สุด
หลักฐานทางคลินิกคุณภาพดี ได้แก่ การทดลองสุ่มควบคุมด้วยยาหลอกหลายศูนย์ งานวิจัยแบบเปิด และการศึกษาเปรียบเทียบกับยาต้านเชื้อราประเภทอื่น แสดงให้เห็นว่า Ketoconazole 2 % shampoo มี ประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย และใช้งานสะดวก อาการไม่พึงประสงค์ส่วนใหญ่เป็นเพียงการระคายเคืองผิวเล็กน้อย
ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว Ketoconazole 2 % shampoo จึงได้รับการแนะนำให้เป็น ทางเลือกแรกในการรักษาโรคเกลื้อนที่ตัว โดยเฉพาะกรณีโรคไม่รุนแรงหรือจำกัดบริเวณในผู้ป่วยส่วนใหญ่
เอกสารอ้างอิง
1. Leung AKC, Barankin B, Lam JM, Hon KL, Leong KF. Tinea versicolor: an updated review. Drugs Context. 2022;11:2022-9-2.
2. Elewski BE, Hughey LC, et al. Tinea (pityriasis) versicolor. UpToDate. Waltham (MA): UpToDate Inc.; 2025.
3. Gupta AK, Foley KA. Ketoconazole: spectrum and mechanisms of action. J Cutan Med Surg. 2023;27(1):1-9.
4. Lange DS, Richards HM, Guarnieri J, Crounse R, Robins P, Chandler D, et al. Ketoconazole 2 % shampoo in the treatment of tinea versicolor: a multicenter, randomized, double-blind, placebo-controlled trial. J Am Acad Dermatol. 1998;39(6):944-50.
5. Ketoconazole 2 % shampoo in pityriasis versicolor: an open trial. Indian J Dermatol Venereol Leprol. 2003;69(4):287-8.
6. Shirvani S, Nasimi M, Nazemi MJ, et al. Comparison of the efficacy of 2 % ketoconazole shampoo versus 2 % climbazole shampoo among pityriasis versicolor patients. Iran J Dermatol. 2024;27(2):75-80.
7. ClinicalTrials.gov. Mycological efficacy, safety, recurrence and cost-effectiveness of selenium sulfide 1.8 % vs ketoconazole 2 % shampoo. Identifier NCT04007237. Updated 2024.
8. ClinicalTrials.gov. Therapeutic equivalence and safety of two ketoconazole 2 % shampoo formulations. Identifier NCT06305637. Updated 2025.
9. Kwan V. What you need to know about ketoconazole shampoo. Verywell Health. 2023.
โฆษณา