ของฟุ่มเฟือยที่เราควรใช้ให้คุ้มค่า
มีน้องคนหนึ่งที่ผมชอบสนับสนุนเขาเพราะเขาเป็นคนดี ตั้งใจ และมีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีอะไรช่วยได้ก็จะช่วยเสมอ ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้างต่างกรรมต่างวาระกันไป แต่เขาขอมาปรึกษาทีไรผมก็รู้สึกอยากช่วยอยากไปพูดคุยด้วยทุกที
เมื่อไม่นานมานี้มีวงกินข้าวใหญ่วงหนึ่ง น้องคนนี้ก็พูดถึงผมในด้านดีมากๆ เขาบอกคนในโต๊ะนั้นว่าสิ่งที่มีค่ามากๆ ที่เขารู้สึกดีที่ได้จากผมนั้นคืออะไร ผมฟังแล้วก็แปลกใจ เพราะน้องเขาไม่ได้พูดถึงผลสัมฤทธิ์ โครงการ หรือความก้าวหน้า คำแนะนำอะไรที่อาจจะได้จากผมเลย
เขาบอกว่าสิ่งที่มีค่าที่สุดที่ผมให้เขาคือ “เวลา” เมื่อเขาต้องการปรึกษาหรืออยากให้ช่วยอะไร ผมจะมีเวลาให้เขาแทบทุกครั้ง..
ที่ผมแปลกใจเพราะผมไม่เคยคิดในมุมนั้นแต่อย่างใด คิดแต่ว่าอยากช่วยและอยากให้เขาประสบความสำเร็จหรือแก้ปัญหาได้ เพราะน้องเขาเป็นคนดี เวลาไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไรสำหรับผมเพราะผมค่อนข้างว่าง เป็นทรัพยากรที่ค่อนข้างฟุ่มเฟือยของผมเสียด้วยซ้ำ
แต่ในสายตาของน้องเขา ผมคงจะยุ่ง พอให้เวลามา เขาเลยคิดว่ามันมีค่ามากๆ ทั้งที่เวลาที่ให้ก็ไม่ได้มากมายอะไรเลย
ผมก็เลยมานึกทบทวนถึงเรื่อง “เวลา” นี้ดู ก็พบว่าหลายเรื่องในชีวิตที่ผมเรียนรู้และรู้สึกคล้ายๆ น้องนั้นมีอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ก็เลยอยากเล่าสู่กันฟังเผื่อเราอาจจะได้ไอเดียในการใช้ “เวลา” ซึ่งทุกคนมีเท่าๆกันให้เกิดประโยชน์กับผู้อื่นทางความรู้สึกและรู้สึกดีกับเรามากขึ้นก็ได้
เรื่องแรกเป็นเรื่องของคุณซิกเว่ เบรกเก้ อดีตเจ้านายผมที่ดีแทค ปัจจุบันเป็นเบอร์หนึ่งของกลุ่มทรู คุณซิกเว่สอนผมหลายเรื่องมากและผมรู้สึกว่าเขาปรารถนาดีกับผมในช่วงที่ทำงานด้วยกัน เป็นมากกว่าเจ้านายแต่เป็นโค้ชชีวิตของผมคนหนึ่ง
แต่หลังจากแยกย้ายกันไป คุณซิกเว่ไปทำงานที่อินเดีย ผมก็ออกจากดีแทค ไม่ค่อยได้ติดต่อกันอยู่หลายปี ผมก็ไม่ได้ทำงานอะไรให้เขาแล้ว ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกันอีก จนผมได้ยินข่าวแว่วๆว่าเขากำลังจะได้เป็นซีอีโอของเทเลนอร์ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุด เป็นตำแหน่งระดับโลกที่เขาใฝ่ฝัน ผมก็ได้แต่แอบยินดีกับเขาอยู่ห่างมากๆ
ในวันที่เขาจะรับตำแหน่งสูงสุดนั้น อยู่ดีๆ โทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น เป็นเบอร์แปลกๆ จากต่างประเทศ พอรับสายปรากฏว่าเป็นคุณซิกเว่โทรมา เขาพูดในสายว่าอีกสามสิบนาทีหลังจากนั้น เขากำลังจะขึ้นกล่าวรับตำแหน่งซีอีโอเทเลนอร์ซึ่งเป็นความฝันอันสูงสุดของเขา
เขาบอกว่าเขาเลยมานึกทบทวนว่ามีใครที่มีส่วนช่วยให้เขามาถึงตรงนี้ เขาเลยโทรมาหาผม อยากให้ผมรับรู้เรื่องที่สำคัญที่สุดของเขา
ในจังหวะเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิต เขายังอุตส่าห์โทรมา แม้จะเป็นแค่ 30 วินาทีแต่ในใจผมนั้นรู้สึกพองโต และนี่คือสิ่งที่มีค่าที่สุดที่ซิกเว่มอบให้ เป็น “เวลา” ที่ทั้งคาดไม่ถึงและในโมเม้นท์ที่พิเศษแบบนั้น เขาคงโทรอีกหลายคน แต่ผมก็เป็นคนหนึ่งที่เขานึกถึง ในใจคิดด้วยความภูมิใจสุดๆ
ต่อไปเขามีอะไรจะเรียกใช้ผม ผมคงจะไม่ถามอะไรแม้แต่คำเดียว
เรื่องที่สองเป็นการ์ดที่ผมได้มาทุกปีเป็นเวลาหลายปีในช่วงปีใหม่ เป็นการ์ดที่เขียนด้วยลายมือสวยงามและตั้งใจประมาณครึ่งหนึ่งของ A4 เนื้อหาใจความมีทั้งคำอวยพรและเนื้อความที่ตั้งใจเขียนให้ส่วนตัว น่าจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 10-20 นาทีในการเขียน
ผู้ส่งก็เป็นอดีตนักเรียนเอบีซีผมที่ก็ไม่ได้เจอกันบ่อยนักและเป็นคู่ที่น่าจะยุ่งมากๆ ต้องเขียนการ์ดแบบนี้ให้ผู้ใหญ่อีกเป็นร้อยคน ผมน่าจะไม่ได้มีประโยชน์ ไม่ได้มีธุรกิจอะไรเลยกับทั้งคู่แต่น้องรักกับน้องหนามแห่ง kingpower ก็ยังอุตส่าห์ตั้งใจเขียนมา
การ์ดที่เขียนด้วยลายมืออย่างตั้งใจ ข้อความที่คิดถึงเราเป็นอย่างดี เป็นการ์ดที่พอได้รับแล้วก็รู้สึกถึงคุณค่าของ “เวลา” ที่มีค่ากว่าของขวัญปีใหม่ใดๆที่ได้รับ ผมเลยเอาไอเดียนี้ไปเขียนให้กับพี่ๆน้องๆที่สมัครมาตอนเปิด HOW Club ที่ผมกำลังจะทำเพราะผมรู้สึกว่าคนที่สมัครมานั้นแทบจะไม่รู้รายละเอียดอะไรของโครงการแต่สมัครเพราะเชื่อผม เลยอยากจะขอบคุณทีละคนด้วยการเขียนการ์ดลายมือด้วยความตั้งใจเช่นกันและก็ได้รับการตอบรับอย่างดีใจจากคนที่ได้
น่าจะเป็นเพราะคนรับรู้สึกได้ถึง “เวลา” ที่ฝังอยู่ในการ์ดนั้น แม้จะใช้แค่ไม่กี่นาทีแต่คนรับรู้ถึงความใส่ใจเหมือนผมเคยได้รับจากน้องรักน้องหนามเช่นกัน
เรื่องที่สามคือเวลาเรามีเรื่องร้าย หรือมีเรื่องที่จิตตก เวลามีเพื่อนมาให้กำลังใจ สนับสนุนหรือแม้กระทั่งเอาเวลาไปเขียนแก้ต่างให้เราใน facebook ของเขาบ้าง หรือส่งไลน์มาปลอบใจบ้าง หลายคนก็ไม่ได้ติดต่อกันมานานแต่พอรู้ว่าเราเดือดร้อนก็เป็นห่วง
“เวลา” สั้นๆ ที่แค่มีคนนึกถึงเราในยามยากและส่งข้อความผ่านอากาศมาให้นั้นยิ่งใหญ่สำหรับคนที่เป็นทุกข์นั้นมาก
เมื่อไม่นานมานี้มีพี่คนหนึ่งถูกเล่นงาน ใส่ร้ายอย่างไม่เป็นธรรม ผมเองก็ไม่ได้สนิทกับพี่เขามากแต่คิดในมุมนี้เวลาเราโดนแบบนี้ก็คงเป็นทุกข์ ผมก็เลยเขียนให้กำลังใจพี่เขาบน facebook
ตอนนั้นมีคนบอกว่ามีคนส่งให้พี่เขาอ่าน พี่เขาซึ้งใจมากและหลังจากนั้นพอพี่เขาผ่านเคราะห์มาแล้ว พี่เขาก็พูดถึงผมในด้านดีให้คนอื่นฟังมาถึงหูเยอะมาก รวมถึงเวลาเจอก็แทบจะเข้ามากอดเลยด้วยซ้ำ
เวลาสั้นๆในการเขียน FB นั้นมีความหมายยาวมากสำหรับพี่เขา ถ้าเราเขียนในจังหวะเหมาะสมและด้วยความเป็นห่วงอย่างจริงใจ
คนเรานั้นมักจะชอบอยู่สองอย่างที่ขัดแย้งกัน เราชอบเวลาคนเขียนถึงเราในแง่ดี เขียนชื่นชม เขียนขอบคุณ แต่เราเองหลายครั้งเวลาไปเม้น ไปตอบใน social กลับมักจะใช้พื้นที่ตรงนั้นไปในด้านลบ
ท่ามกลางข้อดีและข้อเสียของ social media ผมพบว่า การใช้พื้นที่ของเราบนโซเชี่ยล ใช้เวลาไม่มาก เขียนชมคนที่เรารู้จักอย่างจริงใจ นึกอะไรออก รู้สึกปลื้มอะไรใคร หรือระลึกถึงผู้ใหญ่บางท่านที่ช่วยเรามา มีบุญคุณต่อเรา ไม่ต้องมีเหตุการณ์อะไรก็ได้ ใช้เวลานิดเดียวในการเขียนถึงคนคนนั้น เขียนชม เขียนในมุมบวก ผลที่ได้รับนั้นรับรองว่าคาดไม่ถึงอย่างแน่นอน
ผมเองก็ใช้เพจบ้าง ใช้ FB ส่วนตัวบ้าง เวลาชื่นชมใคร นึกถึงใคร ก็จะเขียนถึงทันที และพบว่าผู้ที่เราเขียนถึงนั้นจะรู้สึกดีกับเราโดยที่ไม่ต้องพบกัน เป็นการใช้เวลาที่คุ้มมากๆเมื่อเทียบกับไถ tiktok ไปเรื่อยๆ เช่นกัน
เรื่องสุดท้ายที่น้องคนนั้นเขารู้สึกดีกับผมมากๆเพราะผมให้ “เวลา” กับเขานั้น พอมาทบทวนก็พบว่าในชีวิตผมที่นึกถึงผู้ใหญ่ใจดี นึกถึงกัลยาณมิตรหรือคนที่เราชื่นชม ก็เพราะเวลาที่เขามีให้เราเวลาเราต้องการคำปรึกษาหรือกำลังเดือดร้อน ฃไม่ใช่ผลลัพธ์จากการเจอด้วยซ้ำ
การให้เวลาคนโดยเฉพาะคนที่กำลังเดือดร้อน แม้ว่าจะช่วยอะไรไม่ได้ ได้แต่รับฟัง สำหรับคนตรงหน้านั้นเป็นการให้เกียรติ ให้ความเมตตา หรือให้ใจ ที่เขารู้สึกได้
ผมก็คงได้ความคิดนี้จากผู้ใหญ่ใจดีที่เคยช่วยผมมาในอดีตหลายคน จนเมื่อผมเป็นผู้ใหญ่เองก็เลยรู้สึกว่าการให้เวลานิดๆหน่อยๆสำหรับน้องๆที่อยากเจอนั้นเป็นเรื่องที่ควรทำโดยอัตโนมัติ
เวลานี่เป็นเรื่องแปลกนะครับ เรามักชอบบ่นว่าไม่มีเวลา แต่ก็ใช้เวลากันอย่างฟุ่มเฟือยในเรื่องไม่จำเป็นเสียมาก เวลาเป็นทรัพยากรที่ทุกคนมีเท่ากัน แถมไม่ใช้ก็สะสมไม่ได้ด้วย การใช้เวลาที่คุ้มค่านั้นคงมีหลายอย่าง ทั้งดูแลตัวเอง ดูแลคนรอบตัว ทำงานหาประสบการณ์ ฯลฯ
ที่น่าสนใจคือ การใช้เวลาแค่เพียงน้อยนิดเพื่อใช้แสดงออกสำหรับคนที่เดือดร้อน หรือคนที่เราระลึกถึงนั้น ก็เป็นการใช้เวลาที่คุ้มสุดๆ ที่ทุกคนทำได้แบบหนึ่งเมื่อเทียบกับการใช้เวลาอย่างฟุ่มเฟือยแบบอื่นๆ
ซึ่งควรทำเมื่อมี “เวลา” นะครับ
- 34
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
