นับตั้งแต่ที่สหรัฐฯ จุดประกายให้โลกได้รู้จักกับปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เมื่อเกือบสามปีที่แล้ว ดูเหมือนว่าจะมีเพียงประเทศเดียวที่ก้าวตามมาติดๆ และพร้อมจะท้าชิงตำแหน่งผู้นำได้ นั่นก็คือประเทศจีน
บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง DeepSeek, Alibaba และ Moonshot ได้พัฒนา AI Model ของตัวเองจนมีศักยภาพใกล้เคียงกับค่ายดังจากอเมริกาแล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญนะคะ แต่เป็นเพราะรัฐบาลจีนประกาศให้การเป็นผู้นำด้าน AI เป็นวาระแห่งชาติ มีทั้งเงินสนับสนุนก้อนโต และการสร้างเครือข่ายศูนย์ประมวลผลข้อมูลที่เชื่อมถึงกันทั่วประเทศ
จุดเริ่มต้นของยุค AI ที่เราเห็นกันทุกวันนี้มาจากสหรัฐฯ ค่ะ บริษัทอเมริกันเป็นผู้บุกเบิกทั้งชิปประมวลผลขั้นสูงและโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Models) ที่เป็นหัวใจของแชทบอทอย่าง ChatGPT
นอกจากนี้ ค่ายดังอย่าง OpenAI และ Google ของ Alphabet ก็เป็นผู้เปิดตัวระบบ AI ที่สามารถให้เหตุผล เลียนแบบมนุษย์ สร้างวิดีโอ รูปภาพ และเสียงได้ รวมถึงการพัฒนาสิ่งที่เรียกว่า "เอเจนต์" (Agents) ที่ออกแบบมาเพื่อจัดการงานที่ซับซ้อนแทนเรา
แต่จีนก็ไม่น้อยหน้าค่ะ บริษัทเทคฯ ของจีนไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว และที่น่าสนใจคือ พวกเขาเผชิญกับข้อจำกัดในการเข้าถึงชิปของสหรัฐฯ แต่นั่นกลับทำให้พวกเขาสร้าง AI Model ที่สามารถทำงานได้มากขึ้นโดยใช้พลังการประมวลผลน้อยลง
ฝั่งสหรัฐฯ เองก็มีการควบคุมเนื้อหาใน AI เช่นกัน โดยประธานาธิบดีทรัมป์ได้ออกคำสั่งฝ่ายบริหารในเดือนกรกฎาคม บังคับให้บริษัทที่มีสัญญากับรัฐบาลต้องพิสูจน์ว่า AI ของตนไม่ได้ "บิดเบือนคำตอบเพื่อสนับสนุนอุดมการณ์บางอย่าง เช่น DEI (ความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม)"