8 ส.ค. เวลา 02:41 • สุขภาพ

Collagen Type I vs Type II : แหล่งที่มา เป้าหมายเนื้อเยื่อ และผลต่อผิวหนัง/ข้อ

Collagen ประเภท I และ II การกระจายตัวและหน้าที่
คอลลาเจนประเภท I (Collagen type I; Col-I) จัดอยู่ในกลุ่มคอลลาเจนเส้นใย (fibrillar collagen) มีโครงสร้างเป็น heterotrimer ประกอบด้วยสายโซ่อัลฟาสองสาย α1(I) และหนึ่งสาย α2(I) พบในปริมาณสูงในผิวหนัง (คิดเป็นประมาณ 80–85% ของคอลลาเจนในชั้นหนังแท้) กระดูก (มากกว่า 90% ของเมทริกซ์อินทรีย์) รวมถึงเอ็นและเอ็นยึด (ligaments)
คอลลาเจนประเภท II (Collagen type II; Col-II) มีโครงสร้างเป็น homotrimer ประกอบด้วยสายโซ่อัลฟา α1(II) ทั้งสามสาย เป็นองค์ประกอบหลักของกระดูกอ่อนผิวข้อ (articular cartilage) ในผู้ใหญ่ คิดเป็น 90–95% ของคอลลาเจนทั้งหมดในเนื้อเยื่อดังกล่าว และทำงานร่วมกับคอลลาเจนประเภท IX และ XI เพื่อสร้างโครงสร้างรองรับแรงกดและแรงดึง [2]
ข้อมูลเชิงโครงสร้างและการกระจายตัวนี้อธิบายได้ว่า เหตุใด Col-I จึงสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับโครงสร้างของผิวหนังและเอ็น ขณะที่ Col-II สัมพันธ์โดยตรงกับโครงสร้างและการทำงานของกระดูกอ่อนข้อต่อ [1,2]
แหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์คอลลาเจน
Hydrolyzed collagen peptides (HCP) หรือ คอลลาเจนเปปไทด์ เป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการสกัดจากผิวหนังหรือเกล็ดปลา หนังวัว หรือหนังหมู ซึ่งโดยมากประกอบด้วยคอลลาเจนประเภท I และ III จากนั้นนำไปผ่านกระบวนการไฮโดรไลซ์ (hydrolysis) ให้ได้เปปไทด์สายสั้น เพื่อเพิ่มความสามารถในการดูดซึมผ่านทางเดินอาหาร
โครงสร้างโมเลกุลและเป้าหมายเนื้อเยื่อ
คอลลาเจนประเภท I (Col-I) มีโครงสร้าง heterotrimer ซึ่งประกอบด้วยสายโซ่อัลฟาสองสาย α1(I) และหนึ่งสาย α2(I) ลักษณะโครงสร้างเส้นใยนี้เหมาะสมต่อการทำหน้าที่รับแรงดึง (tensile strength) ในเนื้อเยื่อที่ต้องการความแข็งแรงและความยืดหยุ่นสูง เช่น ผิวหนัง เอ็น และกระดูก
คอลลาเจนประเภท II (Col-II) มีโครงสร้าง homotrimer และทำงานร่วมกับโปรตีโอไกลแคน (proteoglycans) ในกระดูกอ่อน ทำให้เนื้อเยื่อดังกล่าวมีคุณสมบัติในการรองรับแรงกด (compressive force) และลดแรงเสียดทานในข้อต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตามชีววิทยาธรรมชาติ “เป้าหมายเนื้อเยื่อ” ของคอลลาเจนแต่ละชนิดจึงแตกต่างกันอย่างชัดเจน คือ
Col-I → ผิวหนัง เอ็น และกระดูก
Col-II → กระดูกอ่อนผิวข้อ [1,2]
วิธีใช้คอลลาเจน
1. การดูแลผิวหนัง(ตั้งเป้าเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่น)
- ใช้ hydrolyzed collagen peptides (ส่วนใหญ่เป็น type I/III)
- ปริมาณที่พบบ่อยในงานวิจัย RCTs: ประมาณ 2.5–10 กรัม/วัน
- ระยะเวลาที่แนะนำ : 8–12 สัปดาห์ ก่อนประเมินผลลัพธ์ส่วนบุคคล
- ควรรับประทานต่อเนื่องเพื่อรักษาผลลัพธ์
2.การดูแลข้อ (ตั้งเป้าลดอาการปวด ข้อฝืด และเพิ่มการทำงาน)
- ใช้ UC-II (undenatured type II collagen)
- ขนาดมาตรฐานตามการศึกษาคลินิก : ประมาณ 40 มก./วัน
- ระยะเวลาที่แนะนำ : อย่างน้อย 12–24 สัปดาห์
- ควรใช้ร่วมกับการลดน้ำหนักและการออกกำลังกายบำบัด ตามแนวทางเวชปฏิบัติสำหรับโรคข้อเข่าเสื่อม
ความปลอดภัยและข้อควรระวัง
โดยทั่วไปคอลลาเจนชนิดรับประทานเป็นผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างปลอดภัย อาการไม่พึงประสงค์ที่พบได้บ่อย ได้แก่ อาการแน่นท้อง ท้องอืด หรือรสคาวในปาก ซึ่งมักมีความรุนแรงน้อยและพบไม่บ่อย [9]
ข้อควรหลีกเลี่ยงและระมัดระวัง
- ผู้ที่มีประวัติแพ้วัตถุดิบที่ใช้สกัดคอลลาเจน เช่น แพ้ปลา หรือแพ้ไก่
- สตรีตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือใช้ยารักษาโรคต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอลลาเจน
การเลือกคอลลาเจนให้ตรง “เป้าหมายเนื้อเยื่อ”
1. เป้าหมาย: ผิวหนัง
- เลือก hydrolyzed collagen (type I/III peptides) ที่มีการระบุปริมาณต่อหน่วยรับประทานอย่างชัดเจนบนฉลาก
- รับประทานต่อเนื่อง อย่างน้อย 8–12 สัปดาห์ เพื่อประเมินผล
- ควรเสริมด้วยการดูแลผิวควบคู่ เช่น การป้องกันรังสียูวี (photoprotection), การใช้ เรตินอยด์ (retinoid) และ มอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อเสริมประสิทธิภาพ
2. เป้าหมาย: ข้อ
หากตั้งเป้าลดอาการปวดหรือความฝืดของข้อในผู้ป่วย osteoarthritis (OA) ควรพิจารณา UC-II ขนาดประมาณ 40 มก./วัน
- รับประทานต่อเนื่อง อย่างน้อย 12 สัปดาห์
- ควรควบคู่กับการจัดการปัจจัยพื้นฐาน ได้แก่
- การควบคุมน้ำหนัก
- exercise therapy ตามแนวทาง
- การใช้ NSAIDs ตามข้อบ่งชี้และอยู่ภายใต้คำแนะนำของบุคลากรสาธารณสุข
References
1. Amirrah IN, Lokanathan Y, Zulkiflee I, et al. A comprehensive review on collagen type I development of biomaterials for tissue engineering: From biosynthesis to bioscaffold. Biomedicines. 2022;10(9):2307. doi:10.3390/biomedicines10092307.
2. Alcaide-Ruggiero L, Molina-Hernández V, Granados MM, Domínguez JM. Main and minor types of collagens in the articular cartilage: The role of collagens in repair tissue evaluation in chondral defects. Int J Mol Sci. 2021;22(24):13329. doi:10.3390/ijms222413329.
3. Myung S-K, Park Y. Effects of collagen supplements on skin aging: A systematic review and meta-analysis of randomized controlled trials. Am J Med. 2025;Epub ahead of print. doi:10.1016/j.amjmed.2025.04.034.
4. Pu S-Y, Huang Y-L, Pu C-M, et al. Effects of oral collagen for skin anti-aging: A systematic review and meta-analysis. Nutrients. 2023;15(9):2080. doi:10.3390/nu15092080.
5. Ohara H, Matsumoto H, Ito K, Iwai K, Sato K. Comparison of quantity and structures of hydroxyproline-containing peptides in human blood after oral ingestion of gelatin hydrolysates from different sources. J Agric Food Chem. 2007;55(4):1532-1535. doi:10.1021/jf062834s.
6. Oesser S, Adam M, Babel W, Seifert J. Oral administration of 14C labeled gelatin hydrolysate leads to an accumulation of radioactivity in cartilage of mice (C57/BL). J Nutr. 1999;129(10):1891-1895. doi:10.1093/jn/129.10.1891.
7. Pan P, Wang Y, Nyirenda MH, et al. Undenatured type II collagen protects against collagen-induced arthritis by restoring gut-joint homeostasis and immunity. Commun Biol. 2024;7:804. doi:10.1038/s42003-024-06476-z.
8. Lugo JP, Saiyed ZM, Lane NE. Efficacy and tolerability of an undenatured type II collagen supplement in modulating knee osteoarthritis symptoms: A multicenter randomized, double-blind, placebo-controlled study. Nutr J. 2016;15:14. doi:10.1186/s12937-016-0130-8.
9. Liang CW, Cheng HY, Lee YH, Liao CD, Huang SW. Efficacy and safety of collagen derivatives for osteoarthritis: A trial sequential meta-analysis. Osteoarthritis Cartilage. 2024;32:574-584. doi:10.1016/j.joca.2023.12.010.
10. Shaw G, Lee-Barthel A, Ross ML, Wang B, Baar K. Vitamin C–enriched gelatin supplementation before intermittent activity increases collagen synthesis in humans. J Appl Physiol. 2017;122(3):595-603.
โฆษณา