10 ส.ค. เวลา 10:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

🦠 "ไข้หวัด" อาจปลุก "เซลล์มะเร็งที่หลับใหล" | ค้นพบความเชื่อมโยงระหว่างไวรัสกับการกลับมาของมะเร็ง

สำหรับผู้ป่วยมะเร็ง การรักษาจน "ปลอดโรค" ได้คือชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่... แต่ความกลัวที่ซ่อนอยู่ลึกๆ คือ "การกลับมาเป็นซ้ำ"...
นักวิทยาศาสตร์รู้มานานแล้วว่าเซลล์มะเร็งที่หลุดรอดไปสามารถ "หลับใหล" อยู่ในส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้นานหลายสิบปี... แต่ "อะไร" คือสิ่งที่ปลุกพวกมันให้ตื่นขึ้นมา?
การศึกษาล่าสุดในหนูทดลองได้ค้นพบผู้ต้องสงสัยที่น่าตกใจและใกล้ตัวเราอย่างไม่น่าเชื่อ: มันคือไวรัสทางเดินหายใจธรรมดาๆ อย่าง "ไข้หวัดใหญ่" และ "โควิด-19"
💀 เซลล์มะเร็งที่หลับใหล
ไวรัสในระบบทางเดินหายใจอาจกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งที่อยู่ในภาวะสงบนิ่ง (dormant cancer cells) ซึ่งได้แพร่กระจายไปยังปอดแล้ว
การเสียชีวิตจากโรคมะเร็งมักเกิดขึ้นเมื่อเซลล์เนื้องอกอพยพจากตำแหน่งดั้งเดิมในร่างกาย เป็นเรื่องยากที่จะตรวจจับได้ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อใด เนื่องจากเซลล์เหล่านี้สามารถอยู่ในภาวะสงบนิ่งได้นานหลายทศวรรษก่อนที่จะก่อตัวเป็นเนื้องอก
สิ่งที่กระตุ้นให้เซลล์เหล่านี้เพิ่มจำนวนขึ้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่การศึกษาก่อนหน้านี้ชี้ให้เห็นว่าเมื่อเซลล์มะเร็งไปถึงปอด การอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจอาจมีบทบาทสำคัญ
🐭 การทดลองในหนูทดลอง
เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม เจมส์ เดเกรกอรี (James DeGregori) จาก University of Colorado และทีมงานของเขา ได้ใช้หนูที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมเพื่อให้เกิดเนื้องอกในต่อมน้ำนม เมื่ออายุประมาณ 2 เดือน หนูแต่ละตัวมีเนื้องอกที่ต่อมน้ำนมและมีเซลล์มะเร็งในภาวะสงบนิ่งในปอดน้อยกว่า 10 เซลล์
พวกเขาได้ทำให้หนูครึ่งหนึ่งติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 หรือที่รู้จักกันในชื่อไข้หวัดหมู เก้าวันหลังการติดเชื้อ จำนวนเซลล์มะเร็งในปอดของพวกมันเพิ่มขึ้นถึง 100 เท่า แต่แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงในหนูอีกกลุ่มหนึ่ง
เมื่อนักวิจัยทำการทดลองซ้ำกับไวรัส SARS-CoV-2 พวกเขาพบว่า มีการเพิ่มขึ้นของเซลล์มะเร็งประมาณ 10 เท่า แต่ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในหนูที่ไม่ติดเชื้อเช่นกัน
⚡️ กลไกเบื้องหลัง: โมเลกุลอักเสบ IL-6
นักวิจัยตั้งสมมติฐานว่าการติดเชื้อไวรัสจะเพิ่มระดับของโมเลกุลการอักเสบที่เรียกว่า IL-6 ซึ่งช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำลายไวรัส แต่ก็สามารถส่งเสริมการเติบโตของเนื้องอกได้
เพื่อพิสูจน์แนวคิดนี้ พวกเขาได้ทำการทดลองซ้ำในหนูที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมให้ "ขาด" IL-6 และพบว่าพวกมันมีเซลล์มะเร็งในปอดน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับหนูที่มีระดับ IL-6 ปกติ
การทดลองอีกอย่างหนึ่งเผยให้เห็นว่า IL-6 ดูเหมือนจะ "ปลุกเซลล์มะเร็งที่สงบนิ่ง" ที่ได้อพยพไปที่ปอดแล้ว มากกว่าที่จะไปเพิ่มการแพร่กระจายของเซลล์เหล่านี้จากเต้านม
แต่ระดับ IL-6 จะลดลงเมื่อการติดเชื้อถูกกำจัดไปแล้ว ในระยะนี้ ทีมงานพบว่าเซลล์มะเร็งในปอดของหนูหยุดการเพิ่มจำนวน แต่กลับได้รับคุณสมบัติใหม่ๆ – (เช่น การเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกของยีน) – ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับการแพร่กระจายของเนื้องอก เดเกรกอรีกล่าว
🧍 หลักฐานเบื้องต้นในมนุษย์
เพื่อสำรวจว่าผลการค้นพบนี้อาจนำมาใช้กับมนุษย์ได้หรือไม่ นักวิจัยได้วิเคราะห์เวชระเบียนจากผู้หญิง 36,800 คนในสหรัฐฯ ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านมที่ไม่คาดว่าจะมีการแพร่กระจาย "ก่อน" การระบาดของโควิด-19
ผู้หญิงที่มีผลตรวจโควิดเป็นบวกในช่วงสามปีแรกของการระบาด มีแนวโน้มที่จะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดในระดับทุติยภูมิ (secondary lung cancer) สูงกว่ามาก ในช่วงเวลานี้ เมื่อเทียบกับผู้ที่มีผลตรวจเป็นลบหรือไม่ได้รับการตรวจเลย
แต่เดเกรกอรีก็ได้ให้ข้อควรระวังว่า บางคนอาจมีการติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการจึงไม่ได้ไปตรวจ ในขณะที่คนอื่นๆ อาจไม่สามารถเข้าถึงการตรวจได้ ซึ่งจะลดความน่าเชื่อถือของผลลัพธ์นี้ลง
"จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในมนุษย์เพื่อตรวจสอบงานวิจัยนี้และสำรวจว่าไวรัสทางเดินหายใจและมะเร็งชนิดต่างๆ มีปฏิสัมพันธ์กันอย่างไร" แอน ซอยเนอร์ (Ann Zeuner) จาก National Institute of Health ในกรุงโรม อิตาลี กล่าว
📝 บทสรุปและคำแนะนำ
เดเกรกอรีคิดว่าผลลัพธ์นี้ เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ควรไปฉีดวัคซีน
"ถ้าผมเป็นผู้รอดชีวิตจากมะเร็ง ผมจะทำให้แน่ใจว่าผมได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสทางเดินหายใจที่พบบ่อย เช่น ไข้หวัดใหญ่, โควิด, โดยเร็ว" เขากล่าว
🏡 แล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเราอย่างไร?
สำหรับประเทศไทย ซึ่ง "มะเร็ง" เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ และ "ไข้หวัดใหญ่" กับ "โควิด-19" ก็เป็นโรคที่เราคุ้นเคยกันดี การค้นพบนี้จึงเป็น "สัญญาณเตือน" ที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยมะเร็งและผู้ที่เคยมีประวัติ
มันตอกย้ำว่าการป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจ ไม่ใช่แค่เรื่องของการป้องกันโรคหวัดธรรมดา แต่ยังอาจเป็นส่วนสำคัญในการ "ลดความเสี่ยง" ของการกลับมาของมะเร็งได้ การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 จึงอาจมีความสำคัญมากกว่าที่เราเคยคิด
🎯 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ ไข้หวัดปลุกมะเร็ง?: งานวิจัยในหนูทดลองชี้ว่า การติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัดใหญ่ และ โควิด-19 อาจ "ปลุก" เซลล์มะเร็งที่เคยแพร่กระจายและ "หลับใหล" อยู่ในปอดให้ตื่นขึ้นมาแบ่งตัวได้
✅ เพิ่มจำนวน 100 เท่า: ในหนูทดลองที่เป็นมะเร็งเต้านม การติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ H1N1 ทำให้จำนวนเซลล์มะเร็งในปอดเพิ่มขึ้นถึง 100 เท่าในเวลาเพียง 9 วัน
✅ กลไกการอักเสบ: กระบวนการนี้คาดว่าถูกขับเคลื่อนโดยโมเลกุลการอักเสบ "IL-6" ซึ่งร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับไวรัส แต่กลับส่งผลดีต่อการเติบโตของเนื้องอก
✅ หลักฐานเบื้องต้นในคน: ข้อมูลเวชระเบียนชี้ว่าผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านมและติดเชื้อโควิด-19 มีแนวโน้มที่จะถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดในระยะทุติยภูมิสูงกว่า (แต่ยังต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม)
✅ วัคซีนคือสิ่งสำคัญ: นักวิจัยสรุปว่านี่คืออีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทุกคน โดยเฉพาะผู้รอดชีวิตจากมะเร็ง ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสทางเดินหายใจ
💬 แล้วคุณล่ะครับ...
การค้นพบความเชื่อมโยงที่ไม่คาดคิดระหว่าง "ไข้หวัด" กับ "มะเร็ง" นี้ ทำให้คุณมองการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ประจำปีเปลี่ยนไปไหมครับ? แล้วคุณคิดว่าสังคมเราควรให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ป่วยหลังการรักษาให้หายขาดแล้วอย่างไรบ้าง?
มาแบ่งปันมุมมองกันในคอมเมนต์... และถ้าเรื่องนี้น่าสนใจ 😷 อย่าลืมกดบันทึกไว้ หรือแชร์ให้คนที่คุณรักได้ตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันตัวนะครับ!
🔎 แหล่งอ้างอิง
1. Chia, S. B., et al. (2025). Respiratory viral infections awaken metastatic breast cancer cells in lungs. Nature. http://doi.org/pzdr
💖 มาช่วยกันขับเคลื่อน "Witly" กันครับ!
ร่างกายของเราเต็มไปด้วย "ความเชื่อมโยง" ที่ซับซ้อนและคาดไม่ถึง ซึ่งวิทยาศาสตร์กำลังพยายามทำความเข้าใจ...
เป้าหมายของ Witly ก็เช่นกัน คือการทำหน้าที่เป็น "นักสืบ" ที่จะค้นหา "ความเชื่อมโยง" ที่ซ่อนอยู่ระหว่างวิทยาศาสตร์กับสุขภาพของเรา แล้วนำมาเล่าให้คุณฟัง
ทุกการสนับสนุนผ่าน "ค่ากาแฟ" ของคุณ คือพลังที่ช่วยให้เราสามารถสืบหา "เบาะแส" ที่สำคัญเหล่านี้ต่อไปได้ครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา