2 ก.ย. เวลา 03:05 • ไลฟ์สไตล์

วางแผนเป้าหมายชีวิต ตามหลักคิด SMART

ในทุกช่วงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน หรือการดูแลครอบครัว เราทุกคนล้วนมีความฝันหรือสิ่งที่อยากทำให้สำเร็จ แต่หากไม่มีการ “กำหนดเป้าหมาย” ที่ชัดเจน ความฝันเหล่านั้นก็มักจะเป็นเพียงความคิดที่ผุดขึ้นแล้วจางหายไป
การมีเป้าหมายชีวิต เปรียบเสมือนการมี “เข็มทิศ” ที่ช่วยบอกทิศทางการเดินทางของเรา ว่าเรากำลังจะไปที่ไหน และต้องเลือกเส้นทางแบบใด การมีเป้าหมายที่ชัดเจนยังช่วยให้เรา:
  • ​โฟกัสพลังและเวลา ไปในสิ่งที่สำคัญจริง ๆ แทนที่จะทำหลายอย่างแบบกระจัดกระจาย
  • ​เพิ่มแรงจูงใจ เพราะเมื่อรู้ว่าทำไปเพื่ออะไร เราจะมีเหตุผลในการก้าวต่อแม้ในวันที่เหนื่อย
  • ​วัดความก้าวหน้าได้ ทำให้เรารู้ว่าเราใกล้ความสำเร็จแค่ไหน และต้องปรับวิธีการอย่างไร
  • ​สร้างความมั่นใจ เพราะทุกครั้งที่ทำเป้าหมายย่อยสำเร็จ จะเพิ่มความเชื่อว่าเราทำสิ่งใหญ่ให้สำเร็จได้
  • ​ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นเงิน เวลา หรือพลังงาน เพราะทุกอย่างถูกใช้เพื่อเป้าหมายที่ชัด
หนึ่งในวิธีตั้งเป้าหมายที่ได้รับการยอมรับและใช้กันทั่วโลก คือหลักการ SMART ซึ่งช่วยให้เป้าหมายของเรามีความชัดเจน วัดผลได้ ทำได้จริง สอดคล้องกับชีวิต และมีกรอบเวลาที่กำหนดชัดเจน
  • ​S - Specific : ความเฉพาะเจาะจง
เป้าหมายต้องชัดเจนว่าเราต้องการอะไร เป็นความต้องการของตัวเราอย่างแท้จริงหรือไม่ และต้องลงรายละเอียดอย่างเฉพาะเจาะจง เพื่อให้เราเห็นหนทางสู่เป้าหมายได้ชัดเจนขึ้น
ตัวอย่างการตั้งเป้าหมายด้านสุขภาพ
❌ ไม่ชัด: “อยากมีสุขภาพดี”
✅ ชัดเจน: “อยากลดน้ำหนัก 5 กิโลกรัม เพื่อให้ BMI อยู่ในเกณฑ์ปกติ”
ดังนั้นการตั้งเป้าหมายควรผ่านการตรึกตรองอย่างรอบคอบผ่านคำถาม อะไร? ที่ไหน? เมื่อไหร่? ทำไม? อย่างไร? เพื่อขยายความให้ชัดเจน
  • ​M - Measurable : วัดผลได้
ต้องมีตัวชี้วัดความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม เพื่อประเมินความก้าวหน้าในการไปสู่เป้าหมาย
ตัวอย่างการตั้งเป้าหมายด้านการศึกษา
❌ ไม่วัดผล: “อยากอ่านหนังสือเล่มนี้ให้จบ”
✅ วัดผลได้: “ฉันจะอ่านหนังสือเล่มนี้วันล่ะ 2 บท”
ควรวัดเฉพาะผลลัพธ์ที่เกิดจากการกระทำของเรา โดยใช้ตัวเลขหรือสถิติเป็นเกณฑ์ เช่น ระยะเวลา จำนวนครั้ง เปอร์เซ็นต์ความสำเร็จ
  • ​A - Achievable : ทำได้จริง
เป้าหมายต้องมีความท้าทายแต่ยังอยู่ในขอบเขตความเป็นไปได้และมีวิธีการเพื่อไปถึงเป้าหมาย
ตัวอย่างการตั้งเป้าหมายทางการเงิน
❌ เกินจริง: “อยากเก็บเงิน 1 ล้านใน 3 เดือน ทั้งที่รายได้เดือนละ 30,000”
✅ ทำได้จริง: “เก็บเงิน 300,000 ใน 12 เดือน ด้วยการออม 25,000 ต่อเดือน”
ดังนั้งเราควรพิจารณาถึงทรัพยากร เวลา และความสามารถปัจจุบัน เพื่อคิดหาหนทางในการพิชิตเป้าหมาย
  • ​R - Relevant : สอดคล้องกับการดำเนินชิวิต
เป้าหมายต้องสอดคล้องกับคุณค่าและทิศทางชีวิต เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำเป้าหมายให้สำเร็จ
ตัวอย่างการตั้งเป้าหมายการใช้ชีวิต
❌ ไม่เกี่ยวข้อง: ตั้งเป้าเรียนภาษาเยอรมัน ทั้งที่เป้าหมายอาชีพคือเป็นเชฟอาหารญี่ปุ่น
✅ สอดคล้อง: เรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่อเพิ่มโอกาสทำงานในร้านอาหารญี่ปุ่น
ลองถามตัวเองว่า “ถ้าทำสิ่งนี้สำเร็จ จะช่วยให้ชีวิตหรืออาชีพก้าวหน้าอย่างไร” สิ่งนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่คอยพลักดันในวันที่เราท้อถอย
  • ​T - Time bound : มีกรอบระยะเวลา
ต้องกำหนดเวลาชัดเจนเพื่อสร้างแรงกดดันเชิงบวก
ตัวอย่างการตั้งเป้าหมายการลงทุน
❌ ไม่มีกรอบเวลา: “อยากเรียนรู้การลงทุน”
✅ มีกรอบเวลา: “อ่านหนังสือการลงทุน 2 เล่ม และจดบันทึกสรุป ภายใน 3 เดือน”
ควรกำหนดวันเริ่มต้น – วันสิ้นสุด และแบ่งช่วงเพื่อตรวจสอบความคืบหน้า
หลัก SMART ทำให้การวางเป้าหมายไม่ใช่เรื่องลอย ๆ แต่เป็นแผนที่จับต้องได้ วัดผลได้ และลงมือทำได้จริง เมื่อเรามีเป้าหมายที่ชัด เราก็สามารถโฟกัสพลังและทรัพยากรไปในทิศทางที่ถูกต้อง ลดโอกาสหลงทาง และเพิ่มโอกาสสู่ความสำเร็จอย่างมีคุณภาพ
โฆษณา