8 ส.ค. เวลา 11:43 • การศึกษา

การปฏิรูปการศึกษาสมัย ร.5 - ร.7

---------
      สมัยรัชกาลที่ 5(พ.ศ.2411-2453)  
เป็นสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงการศึกษาอย่างมาก  จนกล่าวกันว่า เป็นสมัยปฏิรูปการศึกษา  เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมเปลี่ยนไป  ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความจำเป็นที่ต้องติดต่อกับชาวต่างประเทศมีมากขึ้น  การจัดการศึกษาก็ต้องตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว  การจัดการศึกษามีระบบและระเบียบมากขึ้น
ปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการปฏิรูปการศึกษาในสมัยนั้นคือการคุกคามของจักรวรรดินิยมตะวันตก อิทธิพลของตะวันตก เช่น การสอนศาสนา  การจัดตั้งโรงเรียน  การออกหนังสือพิมพ์  การรักษาโรคโดยใช้วิชาการแพทย์สมัยใหม่   การศึกษาในระบบโรงเรียน ตามที่ ร.5 ได้ทรงศึกษาและทอดพระเนตรมาจากต่างประเทศ และอิทธิพลจากความขาดแคลนบุคคลที่มีความรู้เพื่อมารับราชการ
คำว่าโรงเรียน มีวิวัฒนาการมาจาก "โรงทาน" ในสมัย ร.2 เพื่อบำเพ็ญพระราชกุศลในเวลาเช้า  และในสมัย ร.3 ใช้โรงทานสำหรับสอนหนังสือบุตรหลานข้าราชการในตอนบ่าย  สมัย ร.4 เปลี่ยนคำว่าโรงทาน เป็น "โรงสอน"  สมัย ร.5 เรียก "โรงเรียน" (โรงทาน-โรงสอน-โรงเรียน)
ในสมัย ร.5 ทรงวางรากฐานการจัดการศึกษาอย่างเป็นแบบแผน ด้วยการจัดตั้งโรงเรียนหลวงขึ้นในพระบรมมหาราชวัง  โรงเรียนหลวงโรงเรียนแรกของทวยราษฎร์ตาม
พระบรมราชโองการของ ร.5 คือ โรงเรียนวัดมหรรณพาราม  มีการตั้งโรงเรียนสำหรับทวยราษฎร์ขึ้นตามวัดพระอารามหลวงทุกๆพระอาราม  มีการตั้งหน่วยงานเพื่อรับผิดชอบในการจัดการโรงเรียนคือ กรมศึกษาธิการ
ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นกรมธรรมการ และกระทรวงธรรมการตามลำดับ  ขณะเดียวกันก็ได้จัดตั้งโรงเรียนมูลศึกษามีฐานะเป็นโรงเรียนหลวง และอนุญาตให้ราษฎรจัดตั้งโรงเรียนมูลศึกษาโดยเรียกว่า"โรงเรียนเชลยศักดิ์" มีฐานะเป็นโรงเรียนราษฎร์  นอกจากนี้ยังได้มีการจัดตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อผลิตบุคคลออกมาเป็นครูสอนหนังสือในโรงเรียน
รวมทั้งได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติการสอบวิชา พุทธศักราช 2433 เป็นครั้งแรก  โดยกำหนดให้มีการสอบวิชาในภาษาไทยเป็น 3 ประโยค คือ ประโยค 1-3 การสอบความรู้ภาษาอังกฤษเป็น 6 ชั้น และได้กำหนดให้มีโครงการศึกษา พ.ศ.2441 ขึ้นเป็นครั้งแรก  เพื่อกำหนดแบบแผนการจัดการศึกษาของไทยขึ้น  อันนับได้ว่าการจัดการศึกษาของไทยเริ่มมีการจัดระบบการศึกษา  หลักสูตร  ชั้นเรียน  และระยะเวลาที่แน่นอน  โดยมีโครงการศึกษาดังกล่าวเป็นแม่บทหลักในการจัดการศึกษาของประเทศ  และเป็นต้นเค้าของโครงการศึกษาและแผนการศึกษาแห่งชาติในสมัยต่อๆมา
การปฏิรูปการศึกษาในสมัย ร.5  มีลักษณะสำคัญดังนี้
      1.ทรงให้จัดการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาตามผลการศึกษา  เปรียบเทียบจากต่างประเทศ  โดยให้มีการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไปตามกำลังงบประมาณและคนที่มีอยู่
     2.การปรับเปลี่ยนยึดหลักการที่แน่นอนมั่นคง 3 ประการ คือ
2.1 ถือว่าโรงเรียนเป็นหลักของการจัดการศึกษา
         2.2 จัดระบบและกระบวนการสนับสนุนโรงเรียนให้รัดกุม
         2.3 เมื่อระบบและกระบวนการที่สนับสนุนโรงเรียนมั่นคงแล้ว  จึงพิจารณาโครงสร้างในการกำกับและเอื้ออำนวยทั้งระบบและกระบวนการ เพื่อให้โรงเรียนเป็นไปตามพระราชประสงค์
3.ครูและนักเรียนได้รับความเกื้อกูลเป็นพิเศษจากผู้รับผิดชอบที่ทรงมอบหมายตามระบบและกระบวนการที่มีองค์กรจากโครงสร้างที่ทรงพระราชทานไว้เป็นผู้ดูแล
กล่าวโดยสรุป   ทรงถือว่าโรงเรียนเป็นหัวใจของการปฏิรูป  ส่วนระบบหรือกระบวนการและการจัดโครงสร้างกำกับสนับสนุนโรงเรียนเป็นอันดับรองลงมา  โดยหัวใจอยู่ที่โรงเรียน คือ ครูกับนักเรียน  ส่วนโครงสร้างคือ กรมและกระทรวง อันมีหน้าที่กำกับระบบและกระบวนการให้โรงเรียนมีประสิทธิภาพ เป็นอันดับรองลงมา (**ต่างจากการปฏิรูปการศึกษาใน พ.ศ.2546 ที่เริ่มจากการปรับโครงสร้างการบริหารก่อน จึงทำให้เกิดความวุ่นวายในองคาพยพต่างๆตามมามากมาย)
สมัยรัชกาลที่ 6 (พ.ศ.2453-2468)   ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติโรงเรียนราษฎร์ พ.ศ.2461 ขึ้น เพื่อบังคับให้โรงเรียนราษฎร์ทุกแห่งต้องจดทะเบียนและปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนที่กระทรวงศึกษาธิการวางไว้   ได้ยกฐานะโรงเรียนข้าราชการพลเรือนเป็นมหาวิทยาลัย เรียกว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใน พ.ศ.2459
ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติประถมศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2464 เพื่อให้การจัดการศึกษาขยายกว้างออกไปสู่ทวยราษฎร์ และเพื่อบังคับให้เด็กทุกคนที่มีอายุในวัยเล่าเรียน  คือ ตั้งแต่ 7 ปีบริบูรณ์ ต้องเข้าเรียนอยู่ในโรงเรียนจนอายุ 14 ปีบริบูรณ์ รวมทั้งจัดให้มีการเก็บเงินศึกษาเพื่อนำเงินมาใช้จัดการศึกษา เรียกว่า"เงินศึกษาพลี"
สมัยรัชกาลที่ 7 จนถึงก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง(พ.ศ.2468-
2475)  ได้มีการยกเลิกการเก็บเงินศึกษาพลีตามพระราชบัญญัติประถมศึกษา ในพ.ศ.2473  มีการขยายการฝึกหัดครูออกเป็นการฝึกหัดครูประถมและการฝึกหัดครูมัธยม
#ข้อมูลจาก หนังสือประวัติการศึกษาไทย ของ พงศ์อินทร์ ศุขขจร(2512)
โฆษณา