8 ส.ค. เวลา 12:03 • การศึกษา

กำเนิด"โรงเรียนเชลยศักดิ์"หรือ"โรงเรียนราษฎร์ "

----------
สมัยก่อน คำว่า “โรงเรียนราษฎร์” ยังไม่เกิดขึ้น ภาษาราชการเรียกโรงเรียนที่เอกชนตั้งขึ้นว่า “โรงเรียนเชลยศักดิ์” โรงเรียนเชลยศักดิ์มี 2 ประเภทคือ
โรงเรียนที่เอกชนตั้งขึ้น สำหรับสอนภาษาไทย อย่างที่โรงเรียนรัฐจัดตั้งขึ้นเรียกว่า โรงเรียนเชลยศักดิ์ ส่วนโรงเรียนที่เอกชนจัดตั้งขึ้นสอนภาษาอื่น เช่น ภาษาอังกฤษภาษาจีน ภาษาแขก ฯลฯ เรียกว่า “โรงเรียนวิเศษเชลยศักดิ์”
โรงเรียนเชลยศักดิ์ หรือโรงเรียนราษฎร์นี้ เกิดขึ้นก่อนโรงเรียนรัฐบาล พวกสอนศาสนาอเมริกันได้จัดตั้งโรงเรียนราษฎร์ขึ้นตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯในพ.ศ. 2391 #นางแมททูน ชาวอเมริกัน รับเด็กชาวมอญที่อยู่ใกล้ๆ บ้านมาสอนหนังสือให้ สอนเป็นภาษาไทย จนมีเด็กมอญมาเรียนกันมากพอสมควร จึงจัดตั้งเป็น#โรงเรียนเช้าไปเย็นกลับ ขึ้นเป็นครั้งแรก ใน พ.ศ. 2395
ต่อมาพวกสอนศาสนาได้จัดตั้ง โรงเรียนกินนอน ขึ้นอีกโรงเรียนหนึ่ง ที่ข้างวัดอรุณราชวรารามเป็นโรงเรียนประจำแห่งแรกในประเทศไทย รับเด็กจีนมาสอนและสอนด้วยภาษาจีน นางแมททูนได้นำโรงเรียนไปมาที่ตั้งขึ้นรวมเข้าเป็นโรงเรียนเดียวกัน ภายหลังได้ย้ายไปตั้งโรงเรียนใหม่ขึ้นที่ตำบลสำเหร่ เมื่อพ.ศ. 2400 คราวนี้รับทั้งเด็กชายและเด็กหญิง และเปลี่ยนมาใช้ภาษาไทยสอน
ในพ.ศ. 2431 นายจอห์น เอ. เอกิน ชาวอเมริกันได้ตั้งโรงเรียนรับสอนเด็กผู้ชายขึ้นอีกโรงเรียนหนึ่ง ไม่จำกัดว่าจะเป็นเด็กไทย มอญ หรือจีน โรงเรียนนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลกุฎีจีนมีชื่อว่า “#โรงเรียนคริสเตียนไฮสกูล” ต่อมาได้ย้ายไปรวมกิจการกับโรงเรียนที่สำเหร่ และในพ.ศ. 2446 ย้ายจากสำเหร่มาตั้งอยู่ที่ถนนประมวล จังหวัดพระนคร เปลี่ยนชื่อเป็น “#โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย” นับว่าเป็นโรงเรียนที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย
โรงเรียนราษฎร์แห่งอื่นซึ่งตั้งมาแต่ดังเดิมอีกโรงเรียนหนึ่ง และยังคงมีชื่อเสียงอยู่จนกระทั่งทุกวันนี้คือ “#โรงเรียนอัสสัมชัญ” เป็นโรงเรียนที่พวกคาธอลิกตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2420 เดิมเรียกว่า “โรงเรียนไทยฝรั่ง” เพิ่งมาเปลี่ยนชื่อในภายหลัง
โรงเรียนราษฎร์สำหรับสตรีโดยเฉพาะนั้น มีมาตั้งแต่พ.ศ. 2417 ชื่อ “#โรงเรียนกุลสตรีวังหลัง” นางแฮร์เรียต เอ็ม เฮ้าส์ ภรรยาของหมอเฮ้าส์ นักสอนศาสนาชาวอเมริกัน เป็นผู้ตั้งขึ้น โดยได้ทุนจาก Troy Brance of the Women’s Board แห่งสหรัฐอเมริกา 3,000 เหรียญ และทางสหรัฐตั้งชื่อมาให้เสร็จว่า โรงเรียน Harriet M. House School for Girls แต่ไม่มีใครเรียก เรียกกันว่า โรงเรียนกุลสตรีวังหลัง
เพราะตั้งอยู่ ณ ที่เคยเป็นที่ตั้งพระราชวังบวรสถานพิมุข หรือพระราชวังหลังแต่คนทั่วไปมักเรียกกันว่า โรงเรียนแหม่มโคล์ ทั้งๆ ที่นางสาวเอ็ดนา เอส โคล์ ไม่ได้เป็นคนผู้ตั้งโรงเรียนเลย
โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนประจำ เมื่อมีนักเรียนมากขึ้นไม่สามารถจะขยายโรงเรียนอีกได้ จึงต้องย้ายโรงเรียนจากวังหลังไปอยู่ท้องนาติดคลองแสนแสบ และเปลี่ยนชื่อเป็น “#โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย”
ที่กล่าวมานี้เป็นเรื่องของโรงเรียนเชลยศักดิ์ซึ่งตั้งมาก่อนสมัยตั้งกระทรวงศึกษาธิการทั้งสิ้นส่วนโรงเรียนเชลยศักดิ์ของไทย หรือโรงเรียนราษฎร์ เพิ่งมาตั้งในภายหลัง
เมื่อระยะเวลาล่วงเลยมา โรงเรียนเชลยศักดิ์ก็ถูกเรียกกันว่า โรงเรียนราษฎร์ และจำนวนโรงเรียนราษฎร์มีเพิ่มมากขึ้น ทั้งโรงเรียนราษฎร์ที่มีคนไทยเป็นเจ้าของและที่มีคนต่างด้าวเป็นเจ้าของ การจัดสอนวิชาต่างๆต่างก็สอนกันไปตามอำเภอใจของแต่ละโรงเรียนบ้าง สอนตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการบ้าง ยังลักลั่นกันอยู่
รัฐบาลจึงได้ตรา พระราชบัญญัติโรงเรียนราษฎร์ พุทธศักราช 2461 ขึ้น มีสาระสำคัญบังคับให้โรงเรียนราษฎร์ทุกโรงเรียนจดทะเบียน และต้องอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการ ต้องปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนที่กระทรวงวางเอาไว้
พระราชบัญญัติ ฉบับนี้แบ่งออกเป็น 5 ลักษณะคือ
1)การตั้งและเปิดโรงเรียนราษฎร์ 2)การควบคุมโรงเรียนราษฎร์ 3)การปิดโรงเรียน 4)โรงเรียนอนุบาล 5)วิธีพิจารณาและลงโทษ
เมื่อบังคับให้มีการจดทะเบียนโรงเรียนราษฎร์ขึ้นตามพระราชบัญญัติแล้ว ปรากฏว่าในพ.ศ. 2461 มีโรงเรียนราษฎร์จำนวนรวมทั้งสิ้น 127 โรงเรียน
--------------------
#ข้อมูลจาก หนังสือประวัติการศึกษาไทย ของพงศ์อินทร์ ศุขขจร(2512)
โฆษณา