หลังจากนั้นมีการเอาไส้กรอกใส่ขนมปังใส่รถเข็นเป็นรถเข็นขาย Hot Dog ในอเมริการาวปี 1880
กลายเป็นอาหารที่นิยมของผู้มีรายได้น้อย
ส่วนที่มาของชื่อ Hot Dog นั้น เชื่อว่ามาจากการที่การเรียกไส้กรอกเป็นภาษาเยอรมันว่า Dachshund (ดัชชุน) ออกเสียงยากไปสำหรับคนอเมริกัน เลยเปลี่ยนมาเรียกว่า Dog หรือสุนัข เหมือนกับสุนัขดัชชุน
ส่วนคำว่า Hot ที่เพิ่มมานั้นเพื่อจะได้ทราบว่าต้มไส้กรอกขายร้อนๆ เลย
Hot Dog กับการแข่งขันเบสบอลเป็นของคู่กันในวัฒนธรรมการชมเบสบอลที่สนามของชาวอเมริกัน เพราะง่ายต่อการทำ โดยไส้กรอกนั้นจะย่างหรือต้มก็ได้ พอต้มหรือย่างเสร็จก็นำมาใส่บนขนมปัง และบีบเครื่องปรุงหลัก 3 อย่างบนฮอตด็อกคือ ซอสมะเขือเทศ, มัสตาร์ด และรีลิช (Relish) ซึ่งคือแตงกวาดอง หัวหอม และผักดองต่างๆ สับละเอียด แค่นี้ก็ขายได้แล้ว