กองเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ⚓🇷🇺
ของรัสเซียเงามืดที่โลกไม่อาจมองข้าม
ในยุคที่ความตึงเครียดระหว่างมหาอำนาจกลับมาร้อนระอุอีกครั้ง ทั้งในยุโรปตะวันออก มหาสมุทรอาร์กติก และแปซิฟิกเหนือ การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยใต้ผิวน้ำอาจสะเทือนถึงความมั่นคงของโลก เสียงใบพัดที่แทบไม่ได้ยินของเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์รัสเซีย เป็นหนึ่งในปัจจัยที่กำหนดสมดุลแห่งอำนาจบนโลกใบนี้
แม้สหรัฐ อเมริกาจะมีจำนวน
เรือดำน้ำนิวเคลียร์มากกว่า
รัสเซียมีเรือดำน้ำนิวเคลียร์ในประจำการราว 54 ลำ จากเรือทุกประเภท 79 ลำ รวมทั้งเรือโจมตี
เรือบรรทุกขีปนาวุธ และเรือพิเศษ ขณะที่สหรัฐฯ
มีเรือดำน้ำนิวเคลียร์ราว 71 ลำ
(ถ้าเคลื่อนกองเรือดำน้ำจริง ⚓⛴️ มาเช็กดูสิว่า
“ใต้ทะเลลึก” ของสหรัฐอเมริกามีอะไรซ่อนอยู่บ้าง)
แต่รัสเซียกำลังพิสูจน์ว่าคุณภาพ เทคโนโลยี
และยุทธวิธีใต้ทะเล ก็เพียงพอที่จะทำให้
มหาอำนาจอีกฟากต้องหวาดหวั่น
แม้โลกจะผ่านพ้นยุคสงครามเย็นมานาน แต่
การแข่งกันใต้ผิวน้ำยังคงดำเนินไปอย่างเงียบงัน กองทัพเรือรัสเซียยังคงแผ่อำนาจด้วยเรือดำน้ำที่หลบซ่อนในเงามืด ทว่าแบกรับขีดความสามารถในการล้างผลาญทั้งซีกโลกด้วยเพียงคลื่นเดียว
หากวันสิ้นโลกมาถึง
กองเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของรัสเซีย
แบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก▪️▪️◾ เรือดำน้ำ
ติดขีปนาวุธนิวเคลียร์ (SSBN) สำหรับการยับยั้งทางยุทธศาสตร์ และเรือดำน้ำโจมตี (SSN/SSGN) ทำหน้าที่ปฏิบัติการลับและโจมตีเป้าหมายระดับยุทธวิธี
⚓ Borei-class
ราชาแห่งยุคใหม่
เป็นเรือดำน้ำ SSBN ถือเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นคืนอำนาจใต้น้ำในศตวรรษที่ 21 ด้วยรูปลักษณ์
ลื่นไหล ระบบขับเคลื่อนเงียบระดับสูง และพลังการทำลายล้างเหนือชั้น Borei ถูกออกแบบมาเพื่อแทนที่เรือรุ่นเก่าอย่าง Typhoon และ Delta-class โดยมีระวางขับน้ำถึง 24,000 ตัน และสามารถบรรทุกขีปนาวุธข้ามทวีป RSM-56 Bulava ได้ถึง 16 ลูก (แต่ละลูกสามารถบรรจุหัวรบย่อย 6-10 หัว ครอบคลุมรัศมีระยะไกลถึง 10,000 กิโลเมตร)
กลางปี 2025 รัสเซียมี Borei-class และ Borei-A รวม 8 ลำ ในประจำการ โดยลำล่าสุด Knyaz Pozharsky ได้เข้าประจำการเมื่อ 24 กรกฎาคม 2025 ถือเป็น Borei-A ลำที่ 5 และมีแผนต่อเรือเพิ่มให้ครบ 12 ลำภายในต้นทศวรรษ 2030 การยิงทดสอบขีปนาวุธ Bulava จากใต้น้ำได้ผ่านการทดสอบสำเร็จหลายครั้ง ยืนยันบทบาทของ Borei ในฐานะกำลังหลักของการป้องปรามนิวเคลียร์
เชิงยุทธศาสตร์ใต้น้ำของรัสเซีย
⚓ Delta IV-class
ทหารผ่านศึกแห่งสงครามเย็น
แม้จะเป็นเรือที่เกิดขึ้นในยุคสงครามเย็น แต่
Delta IV ยังคงยืนหยัดในฐานะเสาหลักของกองเรือ Northern Fleet โดยเฉพาะในบทบาทของการยับยั้งนิวเคลียร์ เรือประเภทนี้บรรทุกขีปนาวุธ R-29RMU Sineva หรือรุ่นปรับปรุง Layner ซึ่งสามารถยิงได้ไกลถึง 8,300 กิโลเมตร ปัจจุบันยัง
มี 5 ลำปฏิบัติหน้าที่อยู่ โดยได้รับการปรับปรุงระบบโซนาร์และควบคุมการยิงให้เท่าทันสมัยมากขึ้น ถึงกระนั้น การมาของ Borei-class กำลังกลายเป็นสัญญาณเปลี่ยนผ่านที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
⚓ Oscar II-class
เพชฌฆาต ทำลายกองเรือบรรทุกเครื่องบิน
Oscar II-class เป็นเรือดำน้ำโจมตีแบบมีขีปนาวุธนำวิถี (SSGN) ที่ได้รับการออกแบบมา
โดยเฉพาะเพื่อทำลายกองเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯ และเป้าหมายชายฝั่ง ด้วยอาวุธประจำการดั้งเดิมอย่างขีปนาวุธ P-700 Granit และในรุ่นปรับปรุงยังสามารถบรรจุ Kalibr หรือ Zircon ได้ถึง 72 ลูก เรือชั้นนี้เริ่มเผชิญความล้าหลังด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะความเงียบในการเคลื่อนที่
ไม่อาจเทียบชั้นเรือรุ่นใหม่ ปัจจุบันยังมี 6 ลำที่ประจำการอยู่ โดยหนึ่งในนั้นคือ "Kursk"
ที่กลายเป็นโศกนาฏกรรมในปี 2000
⚓ Yasen-class
นักล่าเงียบแห่งยุคที่ 5
เรือดำน้ำ Yasen และรุ่นปรับปรุง Yasen-M ถูกยกให้เป็นสุดยอดเรือโจมตีพลังนิวเคลียร์รุ่นใหม่ของรัสเซีย ที่มาพร้อมสมรรถนะเหนือชั้นและระบบพรางเสียงระดับแนวหน้า ซึ่งสามารถเทียบชั้นกับเรือดำน้ำ Virginia-class ของสหรัฐฯ เรือสามารถบรรทุกขีปนาวุธ Kalibr, Oniks และ Zircon ได้สูงสุดถึง
32 ลูก พร้อมท่อยิงตอร์ปิโด 8-10 ท่อ ปัจจุบัน
มีอย่างน้อย 5 ลำประจำการ และมีแผนจะต่อเพิ่ม
ถึง 10 ลำในอนาคตอันใกล้
⚓ Belgorod
สัตว์ร้ายใต้มหาสมุทร
▪️Belgorod (K-329) คือเรือดำน้ำที่ยาวที่สุดในโลก ด้วยความยาว 184 เมตร ดัดแปลงมาจากโครงสร้างของ Oscar II-class เพื่อภารกิจพิเศษโดยเฉพาะ คือการบรรทุกตอร์ปิโดพลังงานนิวเคลียร์ "Poseidon" และยานยนต์ใต้น้ำไร้คนขับที่ออกแบบสำหรับภารกิจลับหรือวิจัยใต้ทะเลลึก
เข้าประจำการในปี 2022 และกลายเป็นหัวหอกด้านเทคโนโลยีใต้น้ำของรัสเซียในทันที
▪️Poseidon อาวุธวันสิ้นโลกใต้ทะเล
Poseidon หรือชื่อรหัสเดิม Status-6 คืออาวุธ
ไร้คนขับที่สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วโลก ด้วยการผสมผสานระหว่างหัวรบนิวเคลียร์ขนาดมหึมา
(2-10 เมกะตัน หรืออาจสูงถึง 100 เมกะตันในทางทฤษฎี) กับพลังขับเคลื่อนแบบนิวเคลียร์ซึ่งเปิดทางให้เดินทางไกลอย่างไร้ข้อจำกัด จุดประสงค์ของ Poseidon ไม่เพียงเพื่อทำลายเมืองชายฝั่ง
แต่ยังเพื่อสร้างคลื่นสึนามิกัมมันตภาพรังสีอันรุนแรง ถือเป็น “อาวุธจิตวิทยา” ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความหวาดกลัวและความไม่แน่นอนในหมู่ศัตรูภายใต้ยุทธศาสตร์ Second Strike ที่มุ่งรับประกันการตอบโต้แม้รัสเซียจะถูกโจมตีก่อน
ปัจจุบัน Poseidon อยู่ในขั้นพัฒนาและทดสอบ
โดยมีรายงานว่าสามารถติดตั้งบน Belgorod ได้แล้ว และมีการทดสอบระบบสำคัญรวมถึงเครื่องปฏิกรณ์เรียบร้อย ส่วนเรือดำน้ำ Khabarovskออกแบบมาเพื่อบรรทุก Poseidon โดยเฉพาะ กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะเข้าประจำการในช่วงปลายทศวรรษนี้ นอกจากนี้ เรือดำน้ำ B-90 Sarov ยังถูกใช้เป็นเรือต้นแบบสำหรับการทดสอบ Poseidon โดยสามารถบรรทุกได้เพียง 1 ลูกต่อครั้ง
ยังมีรายงานอีกว่า Poseidon สามารถนำไปติดตั้ง
ในโหมด "Skif" ระบบปล่อยตอร์ปิโดจากตู้คอนเทนเนอร์ใต้ทะเล ซึ่งสามารถรอคำสั่ง
การใช้งานได้นานเป็นปี
แม้รัสเซียจะเผชิญความท้าทายด้านงบประมาณและการพัฒนาที่ล่าช้า แต่กองเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของตนยังคงแผ่รังสีแห่งอำนาจและความน่ากลัวในเวทีโลก ไม่ใช่แค่เครื่องจักรสงคราม แต่เป็นสัญลักษณ์ของยุทธศาสตร์คานอำนาจอย่าง
ลึกซึ้งกับสหรัฐฯ และ NATO และแม้เงามืดแห่งมหาสมุทรจะดูสงบ แต่สิ่งที่แฝงอยู่ใต้นั้น อาจเป็นหายนะที่รอวันถูกปลุกให้ตื่นอีกครั้ง▪️▪️◾⚓
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
เทคโนโลยีใหม่ของจีนในทะเลลึก ตั้งแต่เรือบรรทุกขนาดใหญ่ อุปกรณ์ตัดสายเคเบิลใต้น้ำ ⚓🚢🇨🇳
เบื้องหลังพลังอำนาจทางทะเล⚓
เรือบรรทุกเครื่องบินลำใหม่ล่าสุดของจีน
มุ่งหน้าสู่ทะเลเป็นครั้งแรก 🚢⚓🌊🌊🌊 🇨🇳
(ความสำคัญของเรือดำน้ำโลก
ต่อภูมิรัฐศาสตร์อาเซียน และประเทศไทย 🔹)
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
