11 ส.ค. เวลา 04:37 • สุขภาพ

Domperidone ในการกระตุ้นน้ำนม : ประสิทธิผล ความเสี่ยง QT prolongation

บทนำ
Domperidone ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม dopamine D2 receptor antagonist ถูกนำมาใช้ในข้อบ่งชี้นอกทะเบียนตำรับ (off-label) เพื่อกระตุ้นการหลั่งน้ำนมในบางกรณี อย่างไรก็ตาม แนวทางเวชปฏิบัติระบุว่า การใช้ยากลุ่ม galactagogues ไม่ควรเป็นการรักษาลำดับแรก (first-line therapy) โดยควรประเมินและแก้ไขสาเหตุพื้นฐาน รวมถึงปรับปรุงเทคนิคการให้นมก่อนเสมอ ในสหรัฐอเมริกา domperidone ไม่ได้รับการขึ้นทะเบียน และมีคำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านระบบหัวใจและหลอดเลือด
ประสิทธิผล
การวิเคราะห์อภิมานซึ่งรวบรวมการศึกษาแบบสุ่มมีกลุ่มควบคุม (RCTs) จำนวน 17 การศึกษา พบว่า ในมารดาของทารกคลอดก่อนกำหนด (preterm mothers) การใช้ domperidone สามารถเพิ่มปริมาณน้ำนมได้มากกว่าทั้ง metoclopramide และยาหลอก (placebo) โดยขนาดยาที่มีข้อมูลสนับสนุนมากที่สุดคือ 10 มก. รับประทาน วันละ 3 ครั้ง ต่อเนื่อง 7 วัน
หลักฐานก่อนหน้านี้ให้ผลสอดคล้องกัน โดยรายงานว่าปริมาณน้ำนมเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 90–100 มล./วัน นอกจากนี้ การทบทวนอย่างเป็นระบบในปี 2021 ระบุว่าประโยชน์ของ domperidone มีความชัดเจนเป็นพิเศษในกลุ่มมารดาของทารกคลอดก่อนกำหนด และไม่พบการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของอาการไม่พึงประสงค์ในมารดา
ความเสี่ยงต่อหัวใจ : QT prolongation และ torsades de pointes
หน่วยงานกำกับดูแลยาของยุโรป (European Medicines Agency, EMA) ยืนยันว่าการใช้ domperidone มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อการเกิด QT interval prolongation, torsades de pointes, ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิด ventricular arrhythmia และการเสียชีวิตเฉียบพลันจาก (sudden cardiac death)
โดยความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อใช้ขนาดยามากกว่า 30 มก./วัน ใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน มีอายุเยอะ หรือใช้ร่วมกับยาที่ยืด QT interval หรือยาที่เป็นตัวยับยั้งเอนไซม์ CYP3A4 จึงมีข้อแนะนำให้ใช้ในขนาดต่ำที่สุดและระยะเวลาสั้นที่สุดเท่าที่จำเป็น
การใช้ยาและการติดตาม
- ขนาดและระยะเวลา
เริ่มต้นที่ขนาด 10 มก. รับประทาน วันละ 3 ครั้ง (รวม 30 มก./วัน) เป็นเวลา 7 วัน จากนั้นประเมินผลการตอบสนอง โดยทั่วไปไม่ควรใช้เกิน 14 วัน หากไม่พบการตอบสนองควรหยุดยา
- การติดตาม
ประเมินปริมาณน้ำนมภายใน 7–14 วัน และติดตามอาการผิดปกติที่อาจเกี่ยวข้องกับหัวใจ เช่น ใจสั่น เวียนศีรษะ หน้ามืด หรือ syncope การทำคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ควรทำซ้ำเฉพาะในกรณีที่มีอาการ หรือในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง
- การหยุดยา
ควรหยุดยาแบบค่อยเป็นค่อยไป (tapering) เช่น จาก 10 มก. วันละ 3 ครั้ง → วันละ 2 ครั้ง นาน 3–4 วัน → วันละครั้ง นาน 3–4 วัน แล้วหยุดยา เพื่อหลีกเลี่ยงอาการถอนยา (withdrawal symptoms) เช่น กระวนกระวาย นอนไม่หลับ และความผิดปกติด้านอารมณ์ ซึ่งเคยถูกรายงานในกรณีหยุดยาอย่างกะทันหัน
สรุป
Domperidone มีหลักฐานสนับสนุนในการเพิ่มปริมาณน้ำนมในระยะสั้นสำหรับมารดาของทารกคลอดก่อนกำหนด (preterm) การใช้ยานี้ควรพิจารณาเป็นทางเลือกภายหลังจากมาตรการที่ไม่ใช้ยาล้มเหลว และต้องมีการคัดกรองและลดปัจจัยเสี่ยงต่อ QT interval prolongation อย่างเป็นระบบ ใช้ในขนาดต่ำที่สุดและระยะเวลาสั้นที่สุด พร้อมติดตามอาการอย่างใกล้ชิด และหยุดยาแบบค่อยเป็นค่อยไป (tapering) เมื่อจำเป็นต้องยุติการรักษา
โฆษณา