‘เส้นทางสายไหม’ ถนนการค้าสายประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโลกตะวันออกกับตะวันตก
รู้หรือไม่… “เส้นทางสายไหม” (Silk Road) เป็นเครือข่ายการค้าขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา เข้าด้วยกันมานานกว่าสองพันปี
เส้นทางสายไหมถือกำเนิดในช่วงราชวงศ์ฮั่นของจีน (ราว 130 ปีก่อนคริสตกาล) เมื่อจีนเริ่มส่งออกผ้าไหม ซึ่งเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยและล้ำค่ามากในยุโรปสมัยนั้น ผ้าไหมมีน้ำหนักเบา เนื้อเรียบลื่น และผลิตได้เพียงในจีน ทำให้มันกลายเป็นสินค้าหายากที่ชนชั้นสูงยุโรปต้องการครอบครอง
เครือข่ายการค้านี้ไม่ได้มีแค่เส้นทางบกที่พาดผ่านทะเลทรายและภูเขาสูงเท่านั้น แต่ยังรวมถึง “เส้นทางสายไหมทางทะเล” ที่ใช้เรือเดินสมุทรขนส่งสินค้าผ่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย ตะวันออกกลาง และเข้าสู่ยุโรป ผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
นอกจากผ้าไหมแล้ว สินค้าที่แลกเปลี่ยนกันบนเส้นทางนี้มีทั้งเครื่องเทศ เครื่องหอม อัญมณี เครื่องแก้ว เหล็ก ทองคำ และสิ่งทอจากหลายภูมิภาค แต่สิ่งสำคัญคือ เส้นทางสายไหมยังเป็นช่องทางส่งต่อองค์ความรู้ เช่น วิทยาการแพทย์ ดาราศาสตร์ และคณิตศาสตร์ จากโลกอิสลามสู่ยุโรป ซึ่งกลายเป็นรากฐานของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม เส้นทางนี้ไม่ได้แลกเปลี่ยนแต่สิ่งดี ๆ เพราะมันยังเป็นทางผ่านของโรคร้าย เช่น “กาฬโรค” ที่แพร่จากเอเชียกลางเข้าสู่ยุโรปในศตวรรษที่ 14 คร่าชีวิตผู้คนไปนับสิบล้าน
แต่เมื่ออำนาจการค้าเปลี่ยนมือ และเส้นทางเรือเดินสมุทรสู่เอเชียตะวันออกถูกค้นพบในศตวรรษที่ 15 ความสำคัญของเส้นทางสายไหมก็เริ่มลดลง จนค่อย ๆ เลือนหายไปจากประวัติศาสตร์การค้าสมัยใหม่ แต่ชื่อของมันยังคงถูกจดจำในฐานะสัญลักษณ์แห่งการเชื่อมโยงโลกโบราณ
เพื่อน ๆ คิดว่าหากเส้นทางสายไหมไม่เคยเกิดขึ้น… การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและความรู้ของโลกจะล่าช้าไปอีกกี่ร้อยปี?
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
