Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ศิลปะยัดลาย (Filigree)
•
ติดตาม
13 ส.ค. เวลา 03:28 • ศิลปะ & ออกแบบ
Angsa Studio
โอ้โห้ ! ศิลปะงานยัดลาย
Chapter 1
หลายท่านอาจจะสงสัยกับคำว่า "ยัดลาย" มันคืออะไร? แล้วมันเกี่ยวอะไรกับงานศิลปะ? ผมจะขอย้อนเวลากลับไปเมื่อปี พ.ศ 2520 เด็กชายวัยยี่สิบต้นๆ เกเรและไม่เอาไหน ดื้อมากจนกระทั่งถูกพ่อของเค้าล่ามโซ่ที่ขาไว้ ! ชื่อของเด็กชายคนนี้ชื่อว่า นายพงษ์มิต หรือ แดง ซึ่งก็ไม่ผิดที่พ่อของเขาจะเข้มงวดขนาดนี้ก็เพราะพ่อของเขาเป็นอาจารย์ใหญ่ประจำโรงเรียนแถวบ้าน มีกฎระเบียบในครอบครัวที่เคร่งครัดเอามากๆ ด้วยความที่ถูกตีกรอปมากจนเกินไปเลยทำให้กรอปนั้นต้องถูกทำลายจากลูกชายของเขาเอง
ด้วยพื้นฐานความรักในงานศิลปะนี่เองที่ทำให้เด็กชายได้ค้นพบตัวเอง และด้วยความโชคดีที่ช่วงเวลานั้นมีคนจีนอพยพมาปกปักหลักฐาน ทำมาค้าขายในหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ ที่นี้คือ ต.บ้านกาด จ.เชียงใหม่ ซึ่งหนึ่งในผู้คนที่อพยพมานั้นมีช่างฝีมืออยู่คนหนึ่งชื่อ ลุงสร่างปาน ลุงเองได้สร้างกระต๊อบหลังเล็กๆอยู่ตรงข้ามบ้านของเด็กชาย ด้วยความหลงใหลในงานศิลปะเด็กชายจึงได้ไปดูลุงเค้าทำเครื่องประดับอยู่เป็นประจำ
อยู่มาวันหนึ่งลุงก็ได้ถามเด็กชายว่า ชอบไหม ? และอยากลองทำไหม? ลุงจะสอน เด็กชายตอบตกลงทันทีลุงจึงได้สอนการขึ้นรูปแหวน จำได้ว่าเป็นแหวนลวดลายของงู ซึ่งปัจจุบันนี้ได้หายสาบสูญไปแล้ว เด็กชายจึงได้เรียนรู้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เด็กชายที่ว่า หรือ นายพงษ์มิตก็คือพ่อของผมเอง!
Chapter 2: เส้นทางพันปีแห่งศิลปะยัดลาย
หากจะพูดถึงงานศิลป์ที่เก่าแก่ที่สุดชิ้นหนึ่งของมนุษยชาติ "ยัดลาย" หรือที่ในสากลรู้จักกันในนาม Filigree — ย่อมเป็นหนึ่งในศิลปะล้ำค่าเหล่านั้น
ศิลปะการถักทอลวดโลหะอย่างประณีต วิจิตรบรรจง ราวกับสานเส้นด้ายแห่งความฝันนี้ มีรากฐานย้อนไปไกลถึงอารยธรรมโบราณของโลก
หลักฐานแรกเริ่มของ Filigree ถูกค้นพบในดินแดนสุเมเรียนโบราณกว่า 5,000 ปีมาแล้ว ในเมืองอูร์ (Ur) อันรุ่งเรืองแห่งเมโสโปเตเมีย ปรากฏอยู่บนเครื่องประดับทองคำที่ฝังอยู่ในหลุมศพกษัตริย์และราชินี
เส้นลวดทองคำขดวนเป็นเกลียวกลมเกลียว หรือร้อยเรียงเป็นลวดลายธรรมชาติ — ดอกไม้ ใบไม้ เถาวัลย์ พริ้วไหวราวกับจะขยับได้ในยามต้องลม จากสุเมเรียน ศิลปะยัดลายได้แผ่ขยายสู่จักรวรรดิกรีก โรมัน และต่อยอดไปสู่ดินแดนชมพูทวีปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แต่ละวัฒนธรรมหล่อหลอมเสน่ห์แห่งเส้นลวดให้แตกต่างกัน:
"กรีกและโรมันถ่ายทอดเรื่องราวเทพเจ้าและธรรมชาติ"
"อินเดียร้อยเรียงมุกและอัญมณีเข้ากับเส้นลวดทองอย่างอลังการ"
"อุษาคเนย์ (รวมถึงไทย) ผสานเทคนิคกับความเชื่อเรื่องโชคลาภและการปกป้อง เมื่อเวลาผันผ่าน"
ศิลปะยัดลายจึงกลายเป็นภาษาสากลของมนุษย์ที่ถ่ายทอดความรัก ความศรัทธา และความงามเหนือกาลเวลา
และในบางมุมของโลกที่ห่างไกลผู้คน — ณ หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในเชียงใหม่
ชายหนุ่มผู้หนึ่งก็ได้สืบทอดจิตวิญญาณแห่งศิลปะพันปีนี้ไว้ ด้วยสองมือเปล่าและหัวใจที่เปี่ยมศรัทธา เส้นทางของยัดลายจึงไม่เคยหยุดเดิน — มันเดินทางข้ามเวลา ข้ามทวีป มาบรรจบกับรุ่นสู่รุ่น จนกลายเป็น Angsa Jewelry ในวันนี้
ผลงานแต่ละชิ้นของ Angsa เปรียบเสมือนสายใยที่เชื่อมอดีตเข้ากับปัจจุบัน —
ทุกเส้นลวด ทุกกลีบโลหะ คือบทกวีเงียบ ๆ ที่สืบสานเสน่ห์แห่งความงามอันไร้กาลเวลาให้ยังคงเปล่งประกายไปอีกหลายศตวรรษข้างหน้า
Chapter 3
จากมือพ่อสู่มือฉัน
กว่าสี่ทศวรรษที่มือของพ่อได้ถักทอเส้นสายโลหะให้กลายเป็นงานศิลปะชิ้นงาม แต่ละเส้นลายที่พ่อวางลงไป ไม่ได้เป็นเพียงการสานเส้นเงินเส้นทอง แต่เป็นการสานความฝัน ความอดทน และหัวใจทั้งดวงลงไปด้วย ฉันเติบโตมากับเสียงเคาะ เสียงแตะของค้อนกับโลหะเบาๆ ในเวลากลางคืน เสียงนั้นกลายเป็นเสียงกล่อมที่คุ้นเคย ไม่ต่างจากคำกล่อมลูกในวัยเยาว์ แม้ยังไม่เข้าใจดีนักในตอนเด็ก แต่ฉันรู้สึกได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของทุกการขยับมือพ่อ ราวกับกำลังดูเวทมนตร์ที่มองไม่เห็น
วันหนึ่งพ่อหยิบเส้นลวดบางๆ เส้นหนึ่งส่งมาให้ พร้อมบอกว่า "มาลองยัดลายดูไหมลูก" มือเล็กๆ ของฉันสั่นเทา ไม่มั่นใจในตัวเอง แต่พ่อก็ยิ้มให้ กำลังใจที่ส่งมาเงียบๆ นั้น แข็งแกร่งกว่าคำพูดนับร้อยพัน ฉันเริ่มต้นจากลายที่ง่ายที่สุด ความผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า กลับกลายเป็นบทเรียนที่มีค่าที่สุด เพราะพ่อไม่เคยดุ เพียงแต่สอนว่า "ความผิดพลาดก็คือครูของงานศิลปะ"
กาลเวลาเปลี่ยนหมุนไป พ่อชราลง ฉันเติบโตขึ้น จากมือน้อยๆ ที่เคยสั่นไหว วันนี้มือของฉันเริ่มสามารถถ่ายทอดจิตวิญญาณของงานยัดลายได้เอง ในทุกลายที่ฉันสร้าง มันไม่ใช่แค่การร้อยเส้นลวด แต่เป็นการร้อยความทรงจำ เสียงหัวเราะ น้ำตา และความรักที่พ่อได้สั่งสมส่งต่อให้ฉัน และนี่คือเหตุผลที่ Angsa จึงไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์เครื่องประดับธรรมดา แต่คือบ้านหลังหนึ่งของจิตวิญญาณแห่งศิลปะยัดลาย
บ้านที่ก่อตัวจากมือของพ่อ... และจะเติบโตต่อไปด้วยมือของฉัน
เสียงค้อนเคาะเบาๆ กลายเป็นเสียงกล่อมในวัยเด็ก เส้นลวดบางๆ กลายเป็นบทเรียนแห่งชีวิต และทุกหยดเหงื่อของพ่อ... กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ฉัน Angsa จึงไม่ใช่แค่เครื่องประดับ แต่คือบ้านของจิตวิญญาณแห่งศิลปะยัดลาย ที่จะส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น...ไม่มีวันจางหาย
Chapter 4
จากหัตถกรรมพื้นบ้าน... สู่ Ultra Luxury
เมื่อเส้นทางศิลปะยัดลายที่เริ่มต้นจากกระท่อมไม้หลังเล็กๆ ก้าวข้ามผ่านกาลเวลามานับสิบปี "Angsa Jewelry" ก็ได้เติบโตขึ้นท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราเชื่อเสมอว่าความงดงามของงานฝีมือไทยโบราณไม่ควรถูกจำกัดให้อยู่เพียงในหีบสมบัติเก่า แต่ควรเปล่งประกายในแสงสปอตไลท์ของโลกปัจจุบัน เราจึงเริ่มภารกิจที่ท้าทาย นำเอาศิลปะยัดลายอันละเอียดอ่อน ผสานเข้ากับเทคนิคการออกแบบสมัยใหม่ จนเกิดเป็นเครื่องประดับที่มีความร่วมสมัย ล้ำค่า และสง่างามในระดับ Ultra Luxury
Angsa ใช้ทั้งความรู้ทางช่างศิลป์โบราณและเทคโนโลยีการผลิตใหม่ล่าสุด เช่น CAD Jewelry Design และการทำแม่พิมพ์ความละเอียดสูง เพื่อสร้างสรรค์งานที่ทั้งแม่นยำในโครงสร้าง และยังคงไว้ซึ่งสัมผัสแห่งมนุษย์ที่อบอุ่นจากการยัดลายมือทีละเส้น ทีละจุด
ไม่ใช่เพียงความหรูหราที่เห็นจากภายนอก แต่ยังซ่อนความลึกซึ้งทางวัฒนธรรม และเรื่องราวของความรักในงานศิลปะ ที่ไหลผ่านชิ้นงานทุกชิ้น เสมือนการถักทอเรื่องราวของชีวิตและมรดกแห่งจิตวิญญาณ จากเสียงค้อนในกระท่อมไม้...สู่งานประดับที่เฉิดฉายบนเวทีโลก จากจิตวิญญาณช่างศิลป์... สู่ Ultra Luxury ที่ทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา
Chapter 6
วิสัยทัศน์ที่ไร้ขอบเขต
สำหรับ Angsa Jewelry อนาคตไม่ได้เป็นเพียงจุดหมาย แต่คือผืนผ้าใบว่างเปล่าที่รอการปักลวดลายแห่งความฝัน เรามองเห็นโลกที่งานหัตถกรรมไทยไม่เพียงแค่ อยู่รอด ในยุคสมัยใหม่ แต่ โดดเด่น และ เป็นแรงบันดาลใจ ให้กับวงการเครื่องประดับระดับโลก
เราวางแผนสานต่อเครือข่ายช่างฝีมือในชุมชน ให้เติบโตควบคู่ไปกับนวัตกรรมการออกแบบ และขยายเวทีนำเสนอผลงานสู่มหานครแฟชั่นและงานแสดงระดับโลก
การร่วมมือกับนักออกแบบสากล การวิจัยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างคอลเลกชันพิเศษที่เล่าเรื่องราวไทยในมุมมองใหม่ จะเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางข้างหน้า เพราะสำหรับเรา ความหรูหราที่แท้จริง ไม่ได้จบเพียงที่ชิ้นงาน แต่เริ่มต้นใหม่ทุกครั้งที่แรงบันดาลใจถูกส่งต่อ จากหัวใจของช่างฝีมือ สู่มือของผู้ครอบครอง และต่อไป… สู่โลกทั้งใบ
Chapter 7
คำเชิญสู่การเดินทางที่ไร้สิ้นสุด ทุกชิ้นงานของ Angsa Jewelry คือเส้นทางเล็ก ๆ ที่พาผู้ครอบครองเดินย้อนกลับไปสู่รากเหง้า และก้าวไปข้างหน้าสู่อนาคตในเวลาเดียวกัน มันคือการถือครอง “เวลาสองยุค”
ความทรงจำของอดีตและความฝันของวันข้างหน้าในรูปแบบของงานศิลป์ที่สวมใส่ได้
เราไม่ได้เพียงขายเครื่องประดับ แต่เราส่งต่อ มรดกทางจิตวิญญาณ ที่ถักทอจากความรักในงานฝีมือ ความเชื่อในความงาม และความตั้งใจจะให้โลกเห็นว่าศิลปะไทยมีคุณค่าระดับไร้กาลเวลา
Angsa จึงขอเชิญคุณมาเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางครั้งนี้ การเดินทางที่ไม่มีเส้นชัย มีเพียงการค้นพบความงดงามรูปแบบใหม่ ๆ ในทุกย่างก้าว เพราะสุดท้าย… ความหรูหราที่แท้จริง ไม่ได้อยู่ที่ทองคำหรือพลอย แต่อยู่ที่เรื่องราวและความหมายที่คุณเลือกจะพกพาไปกับตัว
ประวัติศาสตร์
เรื่องเล่า
งานฝีมือ
บันทึก
6
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย