13 ส.ค. เวลา 09:20 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สรุปภาวะตลาดประจำสัปดาห์ที่ 4 – 8 ส.ค. 2568

ภาพรวม
  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น จากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และความคาดหวังว่า Fed จะปรับลดดอกเบี้ย
  • ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง
  • ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากอินเดียเพื่อตอบโต้การซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
  • ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีเซมิคอนดักเตอร์ และภาษีนำเข้ายา
  • ทรัมป์เข้าพบปูติน เพื่อเจรจาข้อตกลงยุติความขัดแย้งรัสเซีย–ยูเครน
สถานการณ์ตลาด
  • สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และแรงหนุนจากความคาดหวังว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
  • ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง
◦ บริษัทในดัชนี S&P 500 มากกว่า 90% รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 แล้ว ซึ่ง 82% ทำกำไรได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด โดยเฉลี่ยเติบโต 8.5% ส่งผลให้ประมาณการการเติบโตของกำไรทั้งปีถูกปรับขึ้นเป็น 9.7% จากเดิมคาดไว้ที่ 3.8% เมื่อสิ้นไตรมาส 2
◦ การเติบโตของกำไรนำโดยกลุ่ม Communication และ Technology ซึ่งขยายตัวมากกว่า 20% YoY
◦ ขณะที่มีกลุ่มที่กำไรลดลงเพียง 2 กลุ่ม คือ Energy และ Materials ซึ่งรวมกันมีสัดส่วนไม่ถึง 5% ของมูลค่าตลาดรวมของ S&P500
  • ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ
◦ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ S&P Service PMI เดือน ก.ค. ปรับขึ้นสูงสุดที่ระดับ 55.7 สูงกว่าคาดที่ 55.2 แรงหนุนจากความต้องการภาคเทคโนโลยีและกิจกรรมการเงินที่เพิ่มขึ้น
◦ ISM Service PMI เดือน ก.ค. ลดลงสู่ระดับ 50.1 ต่ำกว่าคาดที่ 51.3 จากการหดตัวของกิจกรรมทางธุรกิจ คำสั่งซื้อและการจ้างงานลดลงแรงกดดันราคาสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนด้านภาษีนำเข้า
◦ เงินเฟ้อ เดือน ก.ค. อย่าง Headline CPI (อัตราเงินเฟ้อทั่วไป) ทรงตัวที่ 2.7% YoY ต่ำกว่าคาดที่ 2.8% จากราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและพลังงานลดลง ส่วน Core CPI (อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน) เพิ่มขึ้น 3.1% YoY สูงกว่าคาดที่ 3% จากราคาค่าโดยสารเครื่องบิน ค่ารักษาพยาบาล และบริการสันทนาการ ในขณะที่สินค้าบางหมวดที่เกี่ยวข้องกับภาษีนำเข้า เช่น ของเล่น อุปกรณ์กีฬา เครื่องเรือน และของใช้ในครัวเรือน ยังเพิ่มขึ้นแต่ในอัตราที่ชะลอตัวลง
  • มาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ
◦ อินเดีย: ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากอินเดียเป็น 50% (จากเดิมที่ 25%) เพื่อตอบโต้การซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าทรัมป์ใช้ภาษีนำเข้าเป็นเครื่องมือในการเจรจาเพื่อดึงส่วนแบ่งตลาดพลังงาน และกระตุ้นให้อินเดียนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่ม อินเดียตอบโต้ว่าไม่เป็นธรรม พร้อมเตรียมมาตรการบรรเทาผลกระทบผู้ส่งออก เช่น กลุ่มสินค้าอัญมณี สิ่งทอ ค่าเงินรูปีอ่อนค่ามากสุดเป็นประวัติการณ์ เงินทุนต่างชาติคาดว่าจะไหลออกชั่วคราว นายกฯ โมดี เตรียมเยือนจีนปลายเดือน เพื่อขยายความร่วมมือทางการค้า
◦ ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีเซมิคอนดักเตอร์สูงสุด 100% และภาษีนำเข้ายา แต่ยกเว้นให้บริษัทที่ผลิต หรือมีแผนสร้างโรงงานในสหรัฐฯ ทำให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น TSMC, Samsung, Texas Instruments, Micron, GlobalFoundries และ Nvidia ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีแผนขยายฐานการผลิตในสหรัฐฯ ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่ามาตรการนี้จะไม่กระทบห่วงโซ่อุปทานหลัก และการยกเว้นภาษีนี้ได้ช่วยหนุนให้หุ้นเทคโนโลยีปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย
◦ จีน: สหรัฐฯ ขยายเวลาหยุดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีก 90 วัน ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า และเปิดโอกาสให้สองฝ่ายเจรจาเพิ่มเติม
  • สงครามรัสเซีย-ยูเครน
◦ ตลาดคาดหวังการบรรลุข้อตกลงยุติความขัดแย้งรัสเซีย–ยูเครน หลัง ประธานาธิบดีทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะพบกับ ประธานาธิบดีปูติน ของรัสเซียเพื่อเจรจาในสัปดาห์นี้
◦ ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงจากความคาดหวังในการเจรจายุติสงคราม และมติจาก OPEC+ ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตในเดือน ก.ย.
  • จีน
◦ ยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 7.2% YoY สูงกว่าคาดที่ 5.4% โดยมีแรงหนุนจากการส่งออกไปตลาดอื่นนอกสหรัฐฯ ได้แก่ ยุโรป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย ฮ่องกง และประเทศอื่น ๆ
◦ ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 4.1% YoY สูงสุดในรอบปี นับตั้งแต่ ก.ค. ปีที่แล้ว
  • ไทย
◦ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง +3.3% WoW ได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และกระแสเงินทุนต่างชาติ
◦ กระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นเดือน มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิกว่า 4,000 ล้านบาท
คำเตือน
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และ ความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • ผู้ลงทุนสามารถขอข้อมูลหนังสือชี้ชวนได้ที่สำนักงานของบริษัทจัดการ หรือจาก www.krungsriasset.com หรือตัวแทนสนับสนุนการขาย หรือเจ้าหน้าที่ขายหน่วยลงทุน
ติดตามกองทุนกรุงศรี อัปเดตข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ ได้ที่
#KrungsriAsset #กองทุนกรุงศรี #Weeklymarketview #สรุปภาวะตลาดรายสัปดาห์
โฆษณา